สังคม

ร้านหม้อไฟดัง พ้อกฎหมายไทยสุดอ่อน ทำร้านค้า ‘เยาวราช-สำเพ็ง’ เปลี่ยนมือเป็นของคนจีนเกือบหมด

โดย nattachat_c

13 ม.ค. 2566

21 views

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านหม้อไฟชื่อดังที่เยาวราช “อาม่งหม่าล่า หม้อไฟ” ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องความจริงของภาคธุรกิจเอกชนในประเทศไทย บนถนนเยาวราช ที่ผู้ค้าได้เปลี่ยนจากชาวไทยเชื้อสายจีน ไปเป็นชาวจีนแท้ๆ จำนวนมาก ว่า


“#whapshappenginthailand ก่อนอื่นเลยขอบคุณมากๆค่ะ และขอพูดในฐานะพลเมืองไทย แน่นอนว่ารู้สึกไม่ยุติธรรมกับกฎหมายประเทศ ที่เอื้อต่างชาติมากๆ ในฐานะคนที่เคยคลุกคลีกับประเทศจีน


ไทยกับจีนเหมือนประเทศพี่น้อง ถือวีซ่าท่องเที่ยว (L) ก็เปิดร้านได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านนวด ร้านขายอุปกรณ์ ลองมาเดิน เยาวราช-สำเพ็ง ตอนนี้จากเดิมเคยเป็นร้านคนไทย (เชื้อสายจีน) ตอนนี้กลายเป็นร้านคนจีนแท้ๆ (ส่วนใหญ่วีซ่า L) ถึงจะวีซ่า L ก็เปิดบัญชีธนาคารได้ง่ายๆ ด้วย ธุรกิจร้านอาหารในจีน ไม่ต้องมีสูตรอะไรมากมายเพราะทุกอย่างมี suppliers ส่งให้เรียบร้อย มีเงินเฉยๆ ก็เปิดร้านได้แล้ว


Shipping ไทย-จีน คือขนส่งง่ายมากด้วย อุปกรณ์ตกแต่งจากจีนก็มีแบบสำเร็จ ไม่ต้องการ ฝีมือช่างไทยทำ


การลงทุนมาเปิดร้านต่างๆในไทยเลยง่ายมากๆ แต่หาก หาถึงปลายทางเงินได้จากธุรกิจ แน่นอนว่าหลงเหลือ (หมุนเวียน) ในประเทศน้อย


การจดบริษัทในไทยของคนจีนก็ง่าย Visa L ก็จดได้เพียงแค่ต้องมีคนไทยถือหุ้นเยอะกว่าคนจีน


ไม่หนำซ้ำ SME ไทยจะเจริญได้อย่างไรเพราะความเป็นพลเมืองต้องเสียภาษีเงินได้ภาษีธุรกิจ ให้ประเทศ แต่นักลงทุนต่างชาติแค่หา nominee ในการทำสัญญาเช่า ก็จบ ปลายทางเงินได้ส่วนใหญ่อยู่ประเทศของเขา


โพสต์นี้ต้องขอโทษลูกเพจในความไม่เหมาะสม ที่เป็นโพสต์แนว emotional แต่เจ้าของร้านไม่ใช่ KOL ที่มีคนตามเยอะมีแค่ช่องทางนี้ที่เป็นกระบอกเสียง


ตอนทำร้านนี้แรกๆเคยฝันใหญ่ไว้ว่า ทำไมต่างชาติมาเปิดร้านอาหารในไทยเยอะจัง ทำไมไม่ค่อยมีของไทยไปเปิดต่างชาติบ้าง เลยคิดว่า ถ้าค่อยๆ เปิดร้านหม่าล่าชาบูแล้วเพิ่มซุปไทยไปทีละนิดๆ (แจ่วฮ้อนเอย,ต้มยำเอย) ถ้าเอาไปขายต่างประเทศและเอาเงินเข้าประเทศได้บ้างคงจะดี (เพราะก่อนทำร้านเราทำงานประจำเป็น ตำแหน่ง exporter เราเองก็เคยส่งสินค้าอาหารไทยไปขายต่างประเทศ)


มีร้านอื่นๆมากมายที่อร่อย เดินทางสะดวกค่ะ ที่พูดมาไม่ใช่ว่าร้านอาม่งดีที่สุดนะคะ มีอะไรอีกเยอะที่รู้ว่าควรปรับปรุง แต่สิ่งที่ควรปรับปรุงหลายๆ อย่างต้องใช้เงินทุน เก็บรวบรวมคำติชมต่างๆ เพื่อพัฒนาต่อไปค่ะ


แต่เรามองลูกค้าทุกท่านเป็นเหมือนคนในครอบครัว ที่กลับมาทานข้าวที่บ้าน ส่วนใหญ่เราจะจำลูกค้าได้


ขอบคุณพื้นที่ให้ระบายค่ะ #อาม่ง #ขอบคุณ​Twitter #ขอบคุณลูกค้าที่ช่วยเป็นกระบอกเสียง”


ทั้งยังระบุด้วยว่า “ที่ออกมาเขียนแบบนี้เพราะมี reference อ้างอิงคือตัวเองค่ะ ย้อนไปเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ตอนนั้นอายุ 26-27 มีความรู้ด้านนี้น้อย เคยเป็น nominee ในการดำเนินธุรกิจให้คนจีนค่ะ แต่ก็มีปัญหา คนจีนมีทั้งดีและไม่ดีนะคะ คนดีๆมีเยอะและยังติดต่อกันอยู่ ส่วนคนไม่ดีก็มีค่ะ เคยร่วมลงทุนกันและคนจีนทิ้งหนี้สินไว้ให้ด้วยค่ะ ที่ออกมาเขียนทั้งหมดนี้คือเจอกับตัวเองค่ะ”


“อดีตเคยเปิดร้านร้วมกับคนจีนค่ะลงทุนเช่นกัน เลยเจอความผิดพลาดและได้เรียนรู้ สิ่งที่นำมาปรับปรุงคือ การขึ้นสูตรอาหารเองทั้งหมดค่ะ ช่วงแรกๆนำเข้าวัตถุดิบจากจีนเยอะตอนนี้นำเข้าวัตถุดิบจากจีน เดิมนำเข้า40% ตอนนี้เหลือนำเข้าวัตถุดิบ 15% แล้วค่ะ ใช้วิจารณญาน ปลูกผลผลิตทางการเกษตรเอง (มีฟาร์ม) และผลิตพริกแกง ,เบสน้ำซุป,น้ำจิ้ม (ทำโรงงานเอง) อนาคตวางแผนไว้ว่าถ้าผลผลิตทางการเกษตรดีขึ้นก็คงไม่ต้องนำเข้าวัตถุดิบเลยค่ะ”



“โพสต์นี้ในมุมของSME ขนาดเล็กที่พึ่งเริ่มต้นค่ะ

การออกมาโพสแบบนี้คิดไว้แล้วว่าเหรียญคงมี 2 ด้าน และต้องขอโทษฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และน้อมรับคำติชม

โพสในมุมมองSME ขนาดเล็กรวมถึงการเหลื่อมล้ำในการเสียภาษี และเงินหมุนเวียนของธุรกิจ(ประเทศ)

ถ้ามองอีกมุม เป็นเรื่องยากมากๆที่คนไทย visa ท่องเที่ยวจะไปเปิดร้านหรือทำธุรกิจนอกประเทศ

แต่ประเทศเรามีช่องโหว่จริงๆ ในเรื่องนี้”
------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/wDibedv1TUM

คุณอาจสนใจ

Related News