ปลดฟ้าผ่า! เจ้าอาวาสวัดขุมข้าว หลังบวชใหม่ให้อดีต ‘พระคาดผม’ ซุกสีกาในกุฏิ

ชาวบ้านงงหนัก พบพระอ๋อย อดีตพระฉาวคาดผม-ซุกสีกา รีเทิร์นบวชใหม่ที่นครนายก พร้อมอ้างบวชมาได้ 8-9 เดือนแล้ว ด้านชาวบ้านจี้ตรวจสอบ รู้สึกไม่สบายใจ ขณะที่เจ้าอาวาสเผยตรวจสอบแล้วไม่มีความผิด จึงกลับมาบวชได้ และถือใบสุทธิอย่างถูกต้อง ชี้ครั้งก่อนที่สึกฝ่ายหญิงไม่ได้แจ้งความจึงไม่มีความผิด

ล่าสุดเจ้าคณะจังหวัดนครนายก เซ็นคำลั่งด่วนปลดฟ้าผ่า เจ้าอาวาสวัดขุมข้าว เซ่นบวชใหม่ให้พระอ๋อย ชี้เป็นการประพฤติละเมิดจริยาพระสังฆาธิการอย่างร้ายแรง

จากกรณีเมื่อช่วงต้นปี 65 ชาวบ้านร้องเรียน พระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ อายุ 65 ปี หรือพระอ๋อย เจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มีพฤติกรรมมั่วสีกา และรับดูดวงสะเดาะเคราะห์ จนสุดท้ายต้องสึกออกจากวัด หากย้อนกลับทุกคนจะจดจำพระอ๋อยในภาพลักษณ์เอาผ้าคาดผม มารัดที่หัว อ้างแก้อาการปวดหัว จนเป็นที่ฮือฮาในขณะนั้น

วานนี้ (วันที่ 12 ม.ค.) เมื่อเวลา 08.53 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านใกล้บริเวณวัดขุมข้าว ว่าพบอดีตพระอ๋อย อดีตเจ้าอาวาส วัดบางหญ้าแพรก ได้กลับมาบวชใหม่ที่วัดดังกล่าว พร้อมรับดูดวง ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าอดีตพระอ๋อยยังห่มเหลืองอยู่ที่วัดจริง

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดขุมข้าวพบว่าอดีตพระสมุห์ประสาทพร หรือ พระอ๋อย อยู่ภายในวัดจริง ก่อนที่อีกฝ่ายจะสังเกตุเห็นสื่อมวลชน จึงได้หลบออกจากวัดไป

ผู้สื่อข่าวจึงประสานสำนักงานเจ้าคณะอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุเมื่อปี 2565 ทราบว่า พระสมุห์ประสาทพร มหาปุญโญ หรือพระอ๋อย สมัครใจสึกเองต่อหน้าเจ้าคณะอำเภอพระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงไม่ได้ปาราชิก เพราะไม่ได้เป็นความผิดซึ่งหน้า ประกอบกับฝ่ายหญิงไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี ดังนั้นการที่พระอ๋อยกลับมาบวชใหม่จึงสามารถทำได้ โดยขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของพระอุปปัชฌาย์ และวัดที่พระอ๋อยจำวัดอยู่ ซึ่งต้องมีการออกใบสุทธิใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นพระเถื่อน

นอกจากนี้หลังจากที่พระอ๋อย เข้ารับการบวชใหม่ได้ประมาณ 3-4 เดือน พระอ๋อยได้ติดต่อไปที่เจ้าคณะอำเภอพระประแดง เพื่อจะขอกลับไปจำวัดอยู่ที่วัดบางหญ้าแพรกตามเดิม แต่ทางเจ้าคณะอำเภอไม่อนุญาต

ขณะที่ พระครูภัทรวีราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทรงธรรม  ระบุว่า การที่พระอ๋อยคาดผม จะกลับมาจำพรรษาที่วัดบางหญ้าแพรก ต้องไปสอบถามเจ้าอาวาสต่อด้วยเจ้าคณะตำบล ยังไม่ต้องถึงเจ้าคณะอำเภอต้องเป็นไปตามลำดับขั้น ของคณะสงฆ์ต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอน ซึ่งหลักใหญ่อยู่ที่เจ้าอาวาส ว่าต้นสังกัดเขาจะรับไหม อนุมัติไหมและอนุญาตหรือเปล่า

ด้านพระครูปทุมปริยัติยานุกิจ เจ้าคณะตำบลหนองแสง เขต 2 และเจ้าอาวาสวัดขุมข้าว อ.ปากพลี จ.นครนายก กล่าวว่า ตอนที่คณะหมอปลามาที่วัดตอนนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. ตนอยู่ที่วัดอุดมธานีพระอารามหลวง ที่อำเภอเมืองนครนายก ส่วนนายสมุทร  หรือ อดีตพระครูปลัดประสาทพร ตนได้พามาบวชที่วัดตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว โดยตนกับนายสมุทรเป็นเพื่อนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนระดับปริญญาตรีที่วัดพิชัยญาติการาม หรือ วัดพิชัยญาติ ด้วยกัน

เมื่อถามว่าทราบข่าวของอดีตพระครูปลัดประสาทพร ที่เคยตกเป็นข่าวเมื่อปีที่แล้วหรือไม่

พระครูปทุมปริยัติยานุกิจ บอกว่า ตนทราบเนื่องจากมีการลงข่าวตามสื่อและทีวี ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นมันจบไปแล้ว อีกทั้งก็สึกไปแล้ว จึงสามารถกลับมาบวชใหม่ได้ โดยตนเป็นคนพามาบวชด้วยตนเอง ในส่วนของการตรวจสอบประวัตินั้น ก็ได้มีการตรวจประวัติอาชญากรรมแล้วก็ไม่พบว่ามีประวัติ หรือคดีทางโลก ดังนั้นก็สามารถที่จะบวชได้

จากนั้นได้ถามต่อว่าหลังจากที่นายสมุทรมาบวชที่วัดแล้ว มีลูกศิษย์ลูกหามาที่วัดบ้างไหม

พระครูปทุมปริยัติยานุกิจ บอกต่อว่า คนเราหากว่าผิดจริง ลูกศิษย์จะไม่ตามมาหาหรอก หลังจากที่มาบวชที่วัดก็ได้เข้ามาช่วยเหลืองานที่วัด สร้างกุฏิ สร้างศาลา หลังคา รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่ทีมงานหมอปลาและสื่อที่ตามมาถึงที่วัดนั้น หากเข้ามาดีก็ดี แต่หากที่จะมาแบบซ้ำเติมกันตนว่ามันไม่ใช่

ทั้งนี้ตนอยากจะให้มองคนในแง่ดี ไม่ใช่ว่ามามองแล้วซ้ำเติม ในส่วนที่หาว่าเค้าผิดและไม่รู้ว่าผิดจริงหรือเปล่า อันนี้เป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวกับพระศาสนา ไม่ใช่อยู่ๆ มาพูดกันลอยๆ ว่า คนนี้ปาราชิก ต้องหาข้อมูลที่จริงก่อน และความผิดทางโลกก็ไม่มี แล้วจะมาผิดกับเค้ายังไง อีกทั้งความผิดทางโลกยังไม่มีสักคดีแล้วจะเป็นไปได้ไหมที่จะมาปาราชิก

ทั้งนี้ ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่พระอ๋อยรายดังกล่าว กลับมาบวช ทำให้ประชาชนหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ถึงความเหมาะสม  

ต่อมาได้มีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ที่ 1/2566 เรื่อง ถอดถอนพระสังฆาธิการออกจากตำแหน่งหน้าที่ พร้อมระบุเนื้อหาด้านในว่า “ด้วยพระครูปทุมปริยัตยานุกิจ เจ้าอาวาสวัดขุมข้าว ตำบลหนองแสง เขต 2 อำเภอปากพลี จ.นครนายก ได้รับนายประสาทพร อดีตเจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก ตำบลบางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่มีกรณีซุกสีกาที่ตกเป็นข่าว เข้ามาอุปสมบทและมาพำนักอยู่วัดขุมข้าว ทำให้เกิดความเสียหายแก่การคณะสงฆ์และการพระศาสนา อันเป็นการประพฤติละเมิดจริยาพระสังฆาธิการอย่างร้ายแรง

 จึงถอดถอน พระครูปทุมปริยัดยากิจ เจ้าอาวาสวัดขุมข้าว ตำบลหนองแสง เขต 2 อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชุมข้าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2566”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sO2HBCuSjKo