สังคม

‘ชัชชาติ’ ฝากข้อคิด ‘เรียนอย่าแบด แซดอย่าบ่อย’ ก่อนเปิดห้องทำงาน ให้เด็กๆ นั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ

โดย petchpawee_k

13 ม.ค. 2566

43 views

วานนี้ (12 ม.ค.) ที่อาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมเปิดงานเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ที่จัดโดยสภากรุงเทพมหานคร โดยผู้ว่าฯ กทม. ร่วมรับชมการแสดงของเด็กนักเรียน พร้อมกับมอบโอวาทให้ เด็กนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครที่มาร่วมงานด้วย


ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับกรุงเทพมหานคร สิ่งที่สำคัญและมีค่าไม่ใช่ถนนหนทาง ตึกรามบ้านช่อง แต่คือน้องๆเด็กๆทุกคนเพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาต้องมารับช่วงต่อในการดูแลเมือง เด็กคือเจ้าของเมืองในอนาคต เพราะฉะนั้น กทม.ต้องฟังน้องนักเรียน วันนี้จึงไม่ใช่การให้โอวาทแต่ต้องมาฟังน้องๆว่าต้องการอะไรถ้าเด็กมาฟังโอวาทอย่างเดียว แต่ยังเป็นโอกาสที่ผู้ใหญ่จะได้ฟังเด็กด้วย ส่วนเรื่องที่อยากจะให้เด็กๆฟังจากครู อาจารย์ที่โรงเรียน เป็นเรื่องระเบียบ วินัย


จากนั้นนายชัชชาติ ได้อธิบายคำขวัญวันเด็ก ปี 2566 ที่ระบุว่า “เรียนอย่าแบด แซดอย่าบ่อย สู้อย่าถอย ค่อยๆสร้างพลังใจ”


เรียนอย่าแบด คือ การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญอาจจะมีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่ต้องเรียนหนังสือแต่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่เขาอาจจะเป็นคนโชคดีเราต้องดูหลักการ ต้องมีความรู้ติดตัว การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญต้องเอาใจใส่เรื่องการศึกษา


แต่ถ้าใครเรียนเก่งหรือเรียนปานกลางก็ไม่เป็นไรแต่อย่างน้อยต้องเรียนให้ไม่แย่ให้ผ่าน ไม่สอบตก หาความรู้รอบตัวทำกิจกรรม รู้จักเพื่อนเป็นความรู้ที่หลากหลายและเรียนรู้ตลอดชีวิต การศึกษามีส่วนสำคัญในการพัฒนาสร้างอาชีพให้เรา


แซดอย่าบ่อย คือ ความเศร้าโศกเสียใจความผิดหวังมีอยู่แล้วส่วนตัวผู้ว่าฯกทม.ก็มีแต่แซด (เศร้า)แล้วก็ต้องเดินหน้าต่อ มองโลกในแง่ดี มีสิ่งดีๆอยู่รอบตัว ดูแลความรู้สึกเพื่อนๆ ดูแลซึ่งกันและกัน จะได้มีความสุขไปด้วยกัน

สู้อย่าถอย คือ อย่ากลัวความล้มเหลวเดินหน้าต่อ มีความพยายามอดทนสร้างประสบการณ์


และสุดท้าย ค่อยๆสร้างพลังใจ เพราะพลังใจสำคัญที่สุดถ้าใจเราไม่เข้มแข็งไม่มีใจในการเดินหน้าแล้วก็ไปต่อยาก ฉะนั้นต้องสร้างกำลังใจ กทม.และผู้ใหญ่ทุกคนพร้อมช่วยน้องๆ ให้กำลังใจถ้ามีปัญหาถามพูดคุยกัน ขาดเหลืออะไรบอก ผู้ใหญ่ทุกคนอยากให้พวกเราก้าวต่อไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข


ทั้งนี้ นายชัชชาติกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้วันเด็กปีนี้เป็นวันที่ดีสำหรับทุกคน กทม.พร้อมที่จะเดินไปกับพวกเราเด็กเป็นส่วนหนึ่งสำคัญของการพัฒนาเมือง


จากนั้นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินไปถ่ายรูปร่วมกับเด็กนักเรียนที่มาร่วมงาน ซึ่งได้รับความสนใจและสร้างความดีใจให้กับเด็กๆเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการห้อมล้อมและต่อแถวรอถ่ายรูปกับผู้ว่าฯกทม.เป็นจำนวนมาก


ต่อมานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวว่า เด็กเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของกทม.เพราะเด็ก เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาเมือง และต้องดูแลเมืองต่อไปในอนาคต ดังนั้นต้องเตรียมโอกาส ให้เด็กได้แสดงศักยภาพของตนเอง ซึ่งกทม.จะเน้นในเรื่องของการศึกษาและด้านสาธารณสุขเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระยะยาว เพราะฉะนั้น กทม.จึงให้ความสำคัญกับกิจกรรมวันเด็ก เพราะนอกจากมาให้คำขวัญแล้ว กทม.ยังอยากฟังเสียงของเด็กๆว่าต้องการให้ กทม. พัฒนาด้านไหนบ้าง


ส่วนสาเหตุที่ให้คำขวัญที่เกี่ยวข้องกับเพลง แค่อยากให้น้องๆให้ความสนใจ จึงเลือกใช้ข้อความอย่างง่ายๆ ที่อยากบอกเด็กๆ เพื่อเป็นการสร้างกำลังใจ และอยากบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ไม่อยากให้เด็กเครียดมาก เพราะปัจจุบันเด็กที่เป็นโรคซึมเศร้าก็มีเยอะ ดังนั้น กทม.จึงต้องดูแลความรู้สึกของเด็กๆทุกคน ต้องบอกกับเด็กๆว่า มีสมหวัง ผิดหวัง ปะปนกันไป


โดยเฉพาะเรื่องเรียนเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนอาจจะไม่สามารถเป็นที่หนึ่งได้ อาจจะเป็นคนที่เรียนระดับปานกลาง หรือเด็กหลังห้อง แต่อย่างน้อยขอให้มีความรู้และสนุกกับกิจกรรมด้วย


สำหรับการจัดกิจกรรมวันเด็ก ส่วนหนึ่ง กทม.ต้องการรู้ความคิดของเด็กๆที่มีความหลากหลาย และรู้ปัญหาในทุกด้านเป็นอย่างดี


ดังนั้น จากนี้ กทม.จะให้ความสำคัญกับการศึกษาและจะกระจายงบประมาณและอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเพียงพอ ในส่วนของขวัญในวันเด็กนั้น ผู้ว่าฯ กทม.สัญญาว่าจะปรับปรุงคุณภาพของโรงเรียนในสังกัดกทม.โดยเฉพาะการพัฒนาคุณครูให้มีศักยภาพมากขึ้น และคืนครูให้กับนักเรียน ปรับปรุงการขอวิทยะฐานะให้ง่ายขึ้น โดยมีฝ่ายธุรการเข้ามาช่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานสอน รวมถึงการปรับปรุงคอมพิวเตอร์แล็ป และคุณภาพอาหารกลางวันในโรงเรียน และลานกีฬาในโรงเรียน กทม.จะทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ


ต่อมาเวลา 10.40 น. ตัวแทนนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครได้เยี่ยมชมห้องทำงาน พร้อมนั่งเก้าอี้ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยมีนายชัชชาติ คอยแนะนำและถ่ายรูปร่วมกับเด็กทุกคน พร้อมถามว่าอนาคตอยากเป็นอะไร อยากทำอาชีพอะไร เด็กส่วนใหญ่ก็ตอบตามความฝัน อยากทำอาชีพยอดนิยม เช่น หมอ พยาบาล วิศวะ แอร์โฮสเตส ครู ฯลฯ


แต่หนึ่งในนั้น คือเด็กชาย วัย 9 ขวบ ที่ตอบคำถามผู้ว่าฯกทม. ว่าอยากเป็น "พระ" ทำให้ทุกคนในห้องหัวเราะ แต่ผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า อยากเป็นพระ ก็ไม่ใช่เรื่องตลก เป็นเรื่องความฝัน ไม่มีผิด พร้อมกับยกมือพนมอนุโมทนาสาธุ กับเด็กชายสุวรรณฉัตรด้วย สร้างรอยยิ้มให้กับสื่อมวลชนและทุกคนในห้องที่เดินทางมาร่วมกิจกรรม


จากนั้นผู้ว่าฯ กทม. ได้มอบของขวัญของ กทม.เป็นกระเป๋าและตุ๊กตาให้กับเด็กๆที่มาชมห้องทำงาน  และในโอกาศนี้ผู้ว่าฯกทม. ได้ใช้เงินส่วนตัว ซื้อหนังสือที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเด็กๆ มาจากเพิ่มเติมให้กับเด็กที่มาชมห้องทำงานของผู้ว่าฯกทม.ด้วย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9YP8cibMpWk

คุณอาจสนใจ

Related News