สังคม

ผู้เสียหายถูกขโมยของในฟิตเนสโผล่อีก จี้เพิ่มมาตรการป้องกัน

โดย paranee_s

12 ม.ค. 2566

119 views

เมื่อเวลา12.00 น. วันที่ 12 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีหนุ่มนักธุรกิจเข้ามาใช้บริการที่ฟิตเนสชื่อดังแห่งหนึ่ง แล้วสิ่งของมีค่าที่เก็บเอาไว้ขณะออกกำลังกายได้ถูกขโมยหายไปจากตู้เก็บล็อกเกอร์ที่เก็บของ เสียหายไปกว่า 10 ล้านบาท จึงรีบแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบเหตุดังกล่าวบนฟิตเนสห้างดัง


ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปขอสัมภาษณ์กับผู้จัดการดูแลฟิตเนสแห่งนี้ เกี่ยวกับเรื่องของหายของลูกค้านักธุรกิจหนุ่มดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ภายในมีระบบกล้อง CCTV รักษาความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ มีลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการสถานที่แห่งนี้จะปลอดภัยมากน้อยเพียงใด เพราะมีเคสลูกค้าเข้ามาใช้บริการทรัพย์สินถึงได้หายกันบ่อยแล้วเรื่องเงียบหายกันไป


แต่กลับได้รับคำตอบจากผู้จัดการที่ดูแลสถานที่เพียงว่า “ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลใด ๆ กับทางสื่อมวลชน ทางเราได้ให้ข้อมูลหลักฐานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว”


ขณะว่าที่ร้อยตรีศรัณย์ อายุ 31 ปี หนึ่งในสมาชิกเมมเบอร์ของฟิตเนสชื่อดังแห่งนี้ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุทางฟิตเนสมีกิจกรรม มีคนเข้า-ออกเยอะ ตนได้เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ด้วยความที่มันเคยมีเหตุการณ์ของหายมาแล้วตนค่อนข้างที่จะเซฟตัวเองระดับหนึ่ง เพิ่งจะมารู้ว่าผู้เสียหายในข่าวเก็บกุญแจไว้ที่ตัวแล้ว ใครจะไปไขล็อกเกอร์เขา


วันนั้นมีกิจกรรมเยอะมาก มีคนเยอะโดยที่เราก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นโจร ตนเคยของหายในฟิตเนสแห่งนี้เหมือนกัน เมื่อ 1-2 ปีก่อน เป็นหูฟัง ลืมวางเอาไว้แถวล็อกเกอร์ ผ่านไปไม่ถึง 5 นาทีก็หายเลย แต่ราคามันไม่แพงตนเลยไม่ได้ไปแจ้งความ


ด้วยความที่ตนเป็นเมมเบอร์ที่นี่มาประมาณ 10 กว่าปี มีความรู้สึกว่าเกิดเหตุของหายบ่อย เพื่อน ๆ ก็เคยของหาย มีการเตือนกันให้ระวังตัว ตนรู้สึกระแวงเพราะเราจ่ายเมมเบอร์แล้วต้องมานั่งกังวลอยู่ มันก็ไม่ใช่ และอย่างเคสนี้ลูกค้าเอากุญแจไว้ที่ตัวเลย ยิ่งทำให้รู้สึกว่าความปลอดภัยอยู่ตรงไหน


ตนอยากให้ทางฟิตเนสออกมาชี้แจงเรื่องความปลอดภัยของเมมเบอร์ที่จ่ายเงินเข้ามาใช้บริการ หรือลูกค้าต้องมานั่งระแวงเอง กับเคสที่เป็นข่าวตนรู้สึกแปลกมากว่าของหายไปได้ยังไง ทั้งที่กุญแจอยู่ที่ลูกค้า


ส่วนตัวหากมีข่าวแบบนี้ออกมาบ่อย ๆ มีของหายหลาย ๆ สาขากับฟิตเนสแบรนด์นี้ ตนอาจจะเปลี่ยนไปใช้บริการฟิตเนสอื่นที่ดีกว่า เพราะมันเกิดความไม่ปลอดภัยกับตัวเองและทรัพย์สิน ตนอยากให้ทางฟิตเนสออกมาชี้แจงและมีมาตรการที่ดีให้กับลูกค้า


พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าของมันหายบ่อยไปมั้ย เข้าใจว่าจุดล็อกเกอร์มันติดกับห้องน้ำเลยไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ตอนนี้จากข่าวคือกลายเป็นเมมเบอร์ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย ต้องมานั่งระวังเมมเบอร์กันเองด้วย เวลาที่ตนมาฟิตเนสก็ต้องคอยระวัง คอยดูว่าพกกุญแจติดตัวมั้ย ลืมกุญแจไว้หรือเปล่า และพยายามหาของที่ราคาไม่แพงมาใช้


ตนก็ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะมีผู้เสียหายเพิ่มอีกมั้ย แต่อยากให้ทางฟิตเนสมีมาตรการที่ป้องกันและดูแลความปลอดภัยให้กับลูกค้าหรือเมมเบอร์มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันตนยังใช้บริการฟิตเนสที่นี่อยู่ และต้องพกกางเกงในกระดาษติดตัวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากเคยไปเข้าฟิตเนสแห่งนี้และกางเกงในหาย ซึ่งกางเกงในของตนมียี่ห้อและราคาประมาณ 600-700 บาท ตนรู้สึกเสียดายและต้องระวังตัวเองในการใช้บริการตลอดเวลา


ขณะที่ นายสาธิต หนุ่มนักธุรกิจ อายุ 35 ปี ผู้เสียหายรายแรก กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนไปถึงฟิตเนสประมาณ 6 โมง เช็คอิน เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกาย และเก็บของตามปกติ เสร็จแล้วลงไปออกกำลังกายประมาณ 2 ชั่วโมง


หลังจากนั้นขึ้นมาเอาผ้ามาเช็ดหน้าและกำลังจะอาบน้ำ เปิดล็อกเกอร์มาโล่งตนเลย ตอนแรกคิดว่าเปิดผิดตู้ เลยเปิดดูใหม่ หลังจากนั้นตนวิ่งลงไปเพื่อแจ้งกับฟิตเนสว่าของหายหมดเลย ทางฟิตเนสบอกว่าจะช่วยดูกล้องให้ ตนเลยบอกขออนุญาตโทรแจ้งความ เพราะตรงห้องน้ำมันไม่มีกล้องวงจรปิด จะมีแค่บริเวณทางเข้า ที่จะเห็นได้แค่ว่าใครเข้า-ออก


หลังจากตนโทรไปแจ้งความ ตำรวจสายตรวจก็มาที่เกิดเหตุ แต่ทางฟิตเนสไม่ให้เข้าบอกต้องมีหมายมาก่อน ตอนนั้นประมาณ 3 ทุ่มแล้ว ฟิตเนสปิดประมาณ 4 ทุ่ม ตนเลยโทรหาเพื่อนให้มารับพาตนไปลงบันทึกประจำวัน และขอใบไปยื่นกับทางฟิตเนสเพื่อให้ตำรวจเข้าที่เกิดเหตุ


ทางฟิตเนสก็ดำเนินการตามขั้นตอนของเขา แต่ตนคิดว่าถ้าทำได้ดีกว่านี้คงไม่มีปัญหา ตนยังมองว่าทางฟิตเนสกัน ๆ บางส่วนอยู่ ทำไมเกิดเรื่องแล้วถึงไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไป ของตนที่หายมีนาฬิกา มีพระ มีสร้อยพระ เลส แหวน กุญแจรถ เสื้อเชิ้ตทำงานแขนยาว กางเกงสแล็ค แม้กระทั่งกางเกงในก็ยังเอาไป ครีมทาผิว ซึ่งเอาไปหมดเลย ตนกังวลว่าเรื่องมันจะนิ่ง


หลังจากที่เกิดเรื่องและมีข่าวออกไปก็มีคนทักมาหาตนว่า เขาก็เคยของหายเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน แต่ข่าวมันเงียบไป ตนก็เป็นผู้เสียหายที่ต้องมาร้องเรียน คือล็อกเกอร์มันต้องมีคีย์การ์ดใส่เข้าไปเพื่อบิดกุญแจออก ตนเอาของเก็บเสร็จก็ไปออกกำลังกาย เข้ามาก็ไขเหมือนเดิม ซึ่งล็อกเกอร์ไม่ได้มีรอยงัดอะไรแต่ของหายไปหมดเลย ตนไม่อยากจะเดาว่าเป็นคนใน แต่ลักษณะมันคือเอากุญแจไขเอาของไป ไม่ได้เปิดค้างไว้ คือเอาของไปและก็ไขกุญแจล็อกเหมือนเดิม


ตนเป็นคนออกกำลังกาย อยากให้มีความปลอดภัย มีความไว้ใจได้ มันก็ค่อนข้างใจหาย ตนใช้บริการที่นี่มาเป็นสิบปีแล้ว ระบบการรักษาความปลอดภัยควรจะรัดกุมมากกว่านี้ ลูกค้าที่มาใช้บริการออกกำลังกายจะได้ไม่ระแวงว่าข้าวของสูญหายระหว่างทำกิจกรรม

คุณอาจสนใจ

Related News