ออกหมายจับ ล่าหนุ่มโหดยิงเพื่อนข้างห้องดับหน้าลิฟต์ คาดสางแค้นเรื่องหมา

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 เม.ย.67 ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุชาย 1 ราย ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในชั้น 9 ของคอนโดแห่งหนึ่ง ซ.งามวงศ์วาน 23 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี


ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียม สูง 16 ชั้น บริเวณโถงทางเดินชั้น 9 ก่อนถึงลิฟต์ พบศพชายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด สวมเสื้อยืดสีเทา กางขาสั้นสีฟ้า นอนหงายเสียชีวิต ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายคงชัย อายุ 45 ปี เป็นพนักงานโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง พบบาดแผลบริเวณแก้มซ้ายทะลุท้ายทอยด้านขวา แฉลบแก้มขวา และแขนซ้าย ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืน จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


ทั้งนี้มีภาพจากกล้องวงจรปิด ไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณชั้น 9 ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ของวันที่ 29 เม.ย.67 ซึ่งกล้องตัวดังกล่าวช้ากว่าเวลาจริง 6 นาที


เวลาในกล้องเวลา 06.07 น. เป็นวินาทีก่อเหตุ จะเห็นภาพที่เห็นผู้ตายเดินจากห้อง ถือถุงขยะออกมา แล้วไปทิ้งขยะ แต่มีจังหวะเหมือนหันไปมองอะไรบางอย่าง จากนั้นเดินกลับมาจากทิ้งขยะ และมีลักษณะพูดคุยโทรศัพท์ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายนารินทร์ หรือแซม อายุประมาณ 40 ปี ซึ่งสวมไอ้โม่งเดินออกมาจากทางห้องของทั้งคู่ แล้วใช้ปืนยิงไปที่ผู้เสียชีวิตล้มลง แล้วจ่อยิงที่ศีรษะอีก 1 นัด พอยิงเสร็จนายแซมเดินกลับไปทางห้อง แล้วเดินกลับมาเพื่อไปลงลิฟต์ ซึ่งเวลาในกล้องประมาณ 06.09 น.


ผ่านไป 4 นาที ภาพวงจรปิดจะเห็นว่า ภรรยาของผู้เสียชีวิตวิ่งมาจากห้อง และเข้ามาพยายามเรียกผู้เสียชีวิต และเริ่มมีคนเดินเข้ามาดูเหตุการณ์ จนเวลาในวงจรปิดประมาณ 06.17 น. ระหว่างที่ภรรยาของผู้เสียชีวิต กำลังปั๊มหัวใจช่วยชีวิตผู้ตาย จะเห็นว่านายแซม ผู้ก่อเหตุ เดินมาจากทางบันไดหนีไฟ แล้วก็เดินผ่านผู้เสียชีวิตกับภรรยาไปแบบเรียบเฉย ไม่ได้หันมามอง และเดินไปยังห้องพักของตนเอง ซึ่งตอนนั้นยังสวมใส่ชุดเดียวกับตอนก่อเหตุ


จนเวลาผ่านไปประมาณ 7 นาที โดยเวลาในวงจรปิดคือ 06.24 น. ผู้ก่อเหตุเดินมาจากห้อง แต่รอบนี้ใส่เสื้อแจ็กเก็ตแขนยาว ใส่แว่นตา และถือหมวกกันน็อค เดินผ่านผู้เสียชีวิตและภรรยาที่กำลังปั๊มหัวใจอยู่ โดยหันมามองทั้งสองคนสักครู่แล้วก็ไปกดลิฟต์ เพื่อลงลิฟต์ลงไปด้านล่าง ด้วยท่าทางปกติ ไม่ได้ดูเร่งรีบ ก่อนจะหลบหนีไป


และจากนั้นผ่านไปไม่ถึง 5 นาที เวลาในวงจรปิดประมาณ 06.30 น. ตำรวจก็มาถึงยังที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 9 จากนั้นประมาณ 06.37 น. ตามภาพวงจรปิดจะเห็นว่า นายแซมขี่รถจักรยานยนต์ออกจากคอนโดเพื่อหลบหนีไป โดยใช้เส้นทางออกไปทางปากซอยงามวงศ์วาน 23 และเข้าถนนงามวงศ์งาน ภาพวงจรปิดจับไว้ได้เวลาประมาณ 06.47 น. ซึ่งจากคอนโดที่เกิดเหตุออกไปยังปากซอย ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร


และยังได้มีภาพจากกล้องวงจรปิด พบนายแซมขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านบริเวณแยกท่าพระ เวลาประมาณ 08.14 น. มุ่งหน้าไปทางเขตบางกอกน้อย กทม.


นอกจากนี้ ยังมีภาพวงจรปิดในมุมของแผนกช่างของคอนโด โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายช่าง ให้ข้อมูลว่า นายแซมได้มาขอยืมไขควง ซึ่งภาพในวงจรปิดจะเห็นว่า นายแซมลงมาที่ห้องแผนกช่างอยู่ใกล้กับลานจอดรถ ซึ่งตอนนั้นชุด สวมใส่ชุดที่ก่อเหตุอยู่ คือเสื้อแขนสั้น ใช้เวลาประมาณ 1 นาที พอได้ไขควงก็เดินออกมาทันที ซึ่งคาดว่าจะเป็นจังหวะที่เดินกลับขึ้นห้องไปทางบันไดหนีไฟ ตามวงจรปิดที่ไล่เลียงก่อนหน้านี้


สอบถาม เสมียนคอนโดฯ เล่าว่า ไม่เคยเห็นทั้งคู่ทะเลาะกัน และไม่เคยมีลูกบ้านมาเล่า หรือมาฟ้องอะไร ทั้งคู่ก็อยู่กันเงียบ ๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่ผ่านมาลูกบ้านที่นี่ไม่เคยก่อปัญหาทะเลาะวิวาทกันเลย เคสนี้เป็นรายแรก


ด้าน แม่บ้านของคอนโด ให้ข้อมูลว่า ช่วงเช้าขณะที่ตนกำลังทำความสะอาดคอนโด ได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด จึงรีบวิ่งลงมาบอกเจ้าหน้าที่ด้านล่างให้ไปตรวจสอบ ซึ่งผู้ตายและผู้ก่อเหตุ พักอยู่กับภรรยาทั้งคู่ และเลี้ยงสุนัขไว้ในห้องเหมือนกัน ปกติก็ไม่เคยได้ยินเขาทะเลาะกัน


หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้เชิญตัวภรรยาของนายแซม เข้ามาให้ปากคำเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยภรรยานายแซม เปิดเผยว่า สามีตนทำงานเป็น รปภ.แห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก และเพิ่งออกจากงานมาได้ 1 อาทิตย์ แล้วหันมาขายของออนไลน์อยู่กับบ้าน โดยที่ห้องของตนได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ อายุ 2 ปี โดยเลี้ยงอยู่ในห้องพักและจะพาลงไปเดินเล่นที่ข้างล่างคอนโดเป็นประจำ จนคนแถวนั้นรู้จักเจ้าสิงโตกันเป็นอย่างดี


ซึ่งตนอยู่กินกับแฟนคนนี้มาหลายปี เขาเป็นคนไทย 2 สัญชาติ เนื่องจากย้ายไปอยู่กับแม่ที่ประเทศสวีเดนตั้งแต่เด็กจนได้รับสัญชาติสวีเดน ก่อนจะกลับอยู่ประเทศไทยไม่ถึง 10 ปี ตนไม่ทราบสาเหตุที่เขาตัดสินใจลงมือก่อเหตุว่าเกิดมาจากเรื่องอะไรกันแน่ แต่เขาเคยมาปรึกษาอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่เขาถูกเพื่อนร่วมงานนินทาว่าเขาเคยไปมีอะไรกับเด็ก ซึ่งเป็นเรื่องเก่านานนับสิบปีมานินทา กับเรื่องที่เพื่อนข้างห้องเวลาเมามักมีนิสัยโวยวายด้วยคำหยาบคายทุกครั้ง ทำให้เขาคิดว่าเพื่อนข้างห้องมาแอบด่าคำหยาบใส่เขาเป็นประจำ จนเขารับไม่ได้

ซึ่งตนยังได้เตือนเขาไปว่า ให้ใจเย็น ๆ อย่าคิดไปเอง เพราะเพื่องข้างห้องอาจจะคุยโทรศัพท์หรือด่าคนอื่นอยู่ ซึ่งเขาก็รับฟังและไม่ได้พูดอะไร ส่วนเรื่องอื่น ๆ ตนไม่ทราบอะไรเพราะเขาไม่เคยบอก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าเขาซื้อหรือได้มาจากไหน แต่ตนมักเห็นเขาวางไว้ที่หน้าทีวีเป็นประจำ โดยหลังเกิดเหตุแล้วเขาได้ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์หลบหนีไป ซึ่งตนก็ยังไม่สามารถติดต่อกับเขาได้เลย ทั้งนี้ ภรรยาให้การด้วยว่านายแซมป่วยเป็นโรงซึมเศร้า ทานยารักษาตัวอยู่  


ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญภรรยาผู้เสียชีวิต มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงสาเหตุการสังหารในครั้งนี้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ โดยสาเหตุคาดมาจากปัญหาสุนัข ที่คนตายและคนยิงเลี้ยงไว้ และมีข้อพิพาทกันมานานกว่า 1 ปี


ด้าน พ.ต.ท.ภาคิน พงษ์กาญจนะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้ ทราบตัวคนก่อเหตุแล้วเป็นหนุ่มลูกครึ่งไทย-สวีเดน ส่วนสาเหตุนั้นเท่าที่สอบปากคำภรรยาผู้ตาย ทราบว่าผู้ตายกับนายแซม มีเรื่องบาดหมางกันเกี่ยวกับปัญหาสุนัข ที่ทั้งสองฝ่ายเลี้ยงไว้มานานกว่า 1 ปีแล้ว


โดยสุนัขที่นายแซมเลี้ยงไว้ มักจะใช้เล็บตะกุยข้างฝาผนังห้อง ทำให้ผู้ตายได้รับความเดือดร้อนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ส่วนนายแซม ผู้ก่อเหตุเอง ก็มาต่อว่าคนตายที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์เล็กและชอบเห่าเสียงดังประจำเหมือนกัน ทำให้ทั้งสองคนมีเรื่องบาดหมางระหองระแหงกันมาตลอด โดยก่อนหน้าที่นายแซมจะยิงผู้เสียชีวิตนั้น ทั้งสองคนเคยเจอกันในลิฟต์และเกิดปากเสียงด่าทอกับนายแซม แต่ทั้งสองเคลียร์ปัญหากันไม่จบ ทำให้นายแซมเกิดความโกรธแค้น หาจังหวะเผลอในวันเกิดเหตุขณะผู้ตายนำขยะไปทิ้ง และกำลังเดินกลับมาที่ห้องพัก นายแซมซึ่งดักรอจังหวะอยู่แล้ว จึงเปิดประตูห้องออกมาและกระหน่ำยิงผู้ตาย 3 นัด จนล้มลงเสียชีวิตทันที ก่อนจะหลบหนีไป


ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับกุมตัวนายนารินทร์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาแล้ว โดยศาลจังหวัดนนทบุรี ได้อนุมัติหมายจับกุมนายนารินทร์ ตามหมายจับเลขที่ จ.371 ลงวันที่ 29 เม.ย.67 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิด และสั่งให้ชุดสืบสวนระมัดระวังตัวอย่างเต็มที่ เนื่องจากคนร้ายที่ก่อเหตุออกจากจะหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืนแล้ว ยังมีทักษะในการใช้อาวุธปืนพกสั้นอีกด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ELrXwwbSQL4