นักบินเล่านาทีทะเลเกรี้ยวกราด ขณะช่วยเรือหลวงสุโขทัย - 'พันจ่าเอก' รอดตาย เซฟแรงปล่อยตัวตามคลื่น

วานนี้ (20 ธ.ค. 65) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Hongthong Sirisak ซึ่งคาดว่าเป็นนักบิน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า

“ขออนุญาตแท็กนักบินและผอป.ครับ (ผมไม่มีเฟซพี่ถนอมกับพี่เทพและผู้ฝูงครับ)

เชือกแพที่พูกไว้กับริง ที่ผมส่งลงไปช่วยพี่ 1 คนที่ลอยคออยู่ในทะเล ตอนคืนวันเกิดเหตุ มันคือแพขนาด 6-8 คน ที่ผมภาวนาให้พี่คนนั้น ขึ้นหรือเกาะแพไปให้ได้ครับ (ตอนนั้นเรือจมแล้วคนกระจัดกระจายไปแล้ว)

ตอนนั้นทะเลเกรี้ยวกราด และน่ากลัวแบบถึงที่สุด ถึงผมจะเคยอยู่เรือ และออกกับเรือตอนพายุเข้า (สมัยพายุปลาบึก) แต่ความน่ากลัวมันต่างกับการลอยคออยู่ในน้ำที่มีคลื่น 4-5 เมตร ขนาดเครื่องที่ดีที่สุดอย่าง S70B ที่ทำออกมาเพื่อการกู้ภัยทางทะเล และนักบินที่ดีที่สุดของฝูงบิน ยังไม่สามารถให้อยู่นิ่งๆ ได้นานพอที่จะทำการช่วยเหลือแนวดิ่ง

ลมตอนนั้น 35 นอต+ แน่นอนคือเลวร้ายที่สุดของที่สุดแล้ว ขนาดเรืออ่างทองยังโคลง ทุกเวลานี้ผมขอให้ นักบิน ผอป. และกำลังพลของเรือที่ร่วมกันค้นหาในภารกิจครั้งนี้ ปลอดภัยในการค้นหา และขอให้กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยได้กลับบ้านทุกคนด้วยเทิดครับ

ผมจำทุกอย่างในคืนนั้นได้ดี และจะจำตลอดไป ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วยครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่สูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้ครับ”

-------------

ด้าน พันจ่าเอก นที ทิมดี ได้เล่านาทีชีวิต ว่า 

"ตอนที่สละเรือ ได้เกาะกลุ่มอยู่กับเพื่อน ตอนนั้นสวมเสื้อชูชีพ มีคลื่นลูกใหญ่ซัดมา ทำให้หมดแรงจนแขนหลุด ลอยคอออกมาจากกลุ่ม แล้วมืดมาก น้ำเย็น คลื่นแรงเป็นระยะๆ ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวคือตายไม่ได้ เพราะยังมีแม่ แล้วคิดถึงเสด็จเตี่ย ตอนนั้นมั่นใจว่ากองทัพเรือจะช่วยได้แน่ ก็เซฟแรงปล่อยตัวไปตามคลื่น ตลอดเวลาที่ลอยคอ ก็เอาชูชีพมากอด ตอนเช้าก็เห็นเฮลิคอปเตอร์ พยายามเป่านกหวีด แต่เฮลิคอปเตอร์ไม่ได้ยิน โชคดีที่เรือหลวงกระบุรีมา ลอยเป่านกหวีด โบกมือแล้วได้รับการช่วยเหลือ"
-------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/w5uyErwkbck