ทัพเรือเร่งค้นหา 30 กำลังพล 'รล.สุโขทัยอับปาง' ยันยังไม่พบผู้เสียชีวิต รับชูชีพไม่พอ แต่มีห่วงช่วยพยุง

ผู้บัญชาการทหารเรือย้ำชัด ยังไม่พบผู้เสียชีวิต เร่งค้นหา 31 กำลังพลที่ยังสูญหาย เผย อุปสรรคทั้งคลื่นลมแรง ยอมรับเสื้อชูชีพ มีไม่พอกับจำนวนลูกเรือ เนื่องจากมีกำลังเสริม จากหน่วยนาวิกโยธิน และ หน่วยต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อีก 30 นาย เร่งสอบ เหตุใดจึงไม่เพิ่มเสื้อชูชีพ ให้ครบจำนวนลูกเรือ

ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พบกำลังพลรอดชีวิต 1 นาย หลังลอยคอในทะเล โดยเรือหลวงกระบุรี นำขึ้นฝั่งท่าเทียบเรือบางสะพาน ได้อย่างปลอดภัย

จากกรณี วันที่ 18 ธ.ค. 2565 เรือหลวงสุโขทัยอับปางจากคลื่นลมแรง สาเหตุจากเครื่องไฟฟ้าดับ ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เวลา 17.16 น. มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ

เวลา 18.17 น. เครื่องไฟฟ้าดับ เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว

เวลา 19.56 น. จากการที่น้ำเข้าภายในตัวเรือ ทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา

เวลา 23.46 น. วันที่ 18 ธ.ค. 2565 เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำ เนื่องจากมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ มีกำลังพลทั้งหมดบนเรือ 105 นาย ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 75 นาย เหลืออีก 30 นาย ที่ยังสูญหาย และทางกองทัพเรือกำลังเร่งค้นหา เพื่อเข้าช่วยเหลือ โดยรายชื่อกำลังพลทั้ง 30 นาย มีดังนี้

1. พ.จ.อ.อำนาจ พิมที

2. จ.อ.ไพร ร่วมญาติ

3. พลฯ วรพงษ์ บุญละคร

4. พลฯ อับดุลอาชีด มะแอ

5. พ.จ.อ.จิราวัฒน์ เจริญศิลป์

6. พ.จ.อ.สมเกียรติ หมายชอบ

7. จ.ท.ธวัชชัย สาพิราช

8. พลฯ สุทธิพงษ์ หงส์ทอง

9. พลฯ จำลอง แสนแก

10. พลฯ ทวีศักดิ์ แซ่เชียว

11. พลฯ ชนัญญ แก่นศรียา

12. พลฯ จิราวัฒน์ ธูปหอม

13. ว่าที่ น.ต.พลรัตน์ สิโรดมภ์

14. ร.ท.สามารถ แก้วผลึก

15. ว่าที่ ร.ท.ฉัตรแก้ว ทองนิล

16. พ.จ.อ.อัซซา แก้วสุพรรณ์

17. จ.อ.จักรพงศ์ พลผล

18. จ.อ.บญเลิศ ทองทิพย์

19. จ.อ.ซูชัย เชิดซิต

20. จ.ท.สหรัฐ อีสา

21. จ.ต.นพณัจ คำวงศ์

22. จ.ต.สถาพร สมเนื้อ

23. จ.ต.ศราวุธ นาดี

24. จ.ต.ศภกิจ ทิวาลัย

25. จ.ต. โสภณ วงษ์สนิท

26. จ.ต.สิริธิติ งามทอง

27. พลฯ อัครเดช โพธิ์บัติ

28. พลฯ ปรีชา รักษาภักตี

29. พลฯ ชลัช อ้อยทอง

30. พลฯ ชัยชนะ ช่างวาด

-------------

วานนี้ (19 ธ.ค. 65) เวลา 00.30 น. สำหรับกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาเป็นชุดๆ ทางกองทัพเรือได้จัดรถบัส 2 คัน ไปรับกำลังพลเรือ 54 นาย หลวงสุโขทัยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ กลับมายังกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ในวันนี้ (20 ธ.ค. 65) จะจัดอากาศยาน บินไปรับกลับมารักษาตัว ที่ อ.สัตหีบ ต่อไป

ซึ่ง พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ผู้บังคับบัญชา เพื่อนๆ และครอบครัว ได้มารอรับกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือ

ทั้งนี้ เรือและอากาศยาน ยังคงทำการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลืออีก 30 นาย โดยได้กำหนดพื้นที่ค้นหา ขนาดพื้นที่ 20 X 15 ตารางไมล์ ซึ่งอยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมลงประมาณ 18 ไมล์ทะเล โดยคำนวนจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลม รวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด นำมาพิจารณาพื้นที่ที่เป็นไปได้ว่า กำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว

-------------

วานนี้ (19 ธ.ค. 65) เวลา 23.45 น. พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 บอกว่า ผู้สูญหายกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ตอนนี้คือ 30 นาย แต่ไม่ได้เป็นการพบเพิ่มเติม เพราะจากเดิมที่ระบุตัวเลขสูญหาย 31 นาย แต่จากการไปตรวจสอบข้อมูล พบรายชื่อที่ต้องขึ้นเรือ 106 นาย แต่ลากิจ1นาย ไม่ได้ขึ้นไปกับเรือ เท่ากับเหลือขึ้นเรือจริงๆ 105 นาย หมายความว่า ขณะนี้ยังต้องเร่งค้นหาอีก 30 นาย ส่วนกระแสข่าวเมื่อคืน ที่ว่า พบเพิ่มอีก 3 นายแล้วนั้นไม่เป็นความจริงและน่าจะเข้าใจคาดเคลื่อน

ส่วนการค้นหา จะยังค้นหาต่อไปตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีความหวังว่ากำลังพลทุกนายจะรอดปลอดภัย แต่มีอุปสรรคที่คลื่นลมแรง แต่วันนี้ (20 ม.ค. 65) จะทำการค้นหาให้ได้ โดยมีการใช้เรือหลวง 4 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ

โดยตอนนี้ เรือหลวงอ่างทองเป็นเรือบัญชาหลักในการค้นหา เรือหลวง๔ูมิพลทำหน้าที่ลาดตระเวนค้นหา 24 ชั่วโมง

ส่วนประเด็นเรื่องชูชีพ ยอมรับว่ามีไม่เพียงพอกับจำนวนคนบนเรือ ปกติชูชีพจะมีพอดีกับกำลังพล แต่ตามปกติแล้วบนเรือจะมีห่วงชูชีพ ซึ่งจากการฝึก และจากข้อมูล ถ้าเกาะห่วงชูชีพ จะสามารถมีชีวิตกลางทะเลได้นาน 3 วัน

-----------

วานนี้ (19 ธ.ค. 65) เวลา 20.30 น. เรือหลวงกระบุรีเข้าเทียบท่าบริเวณท่าเทียบเรือ B (ท่าเรือเอกชน) พื้นที่อำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือจากเหตุดังกล่าว จำนวน 1 นาย มาขึ้นฝั่ง

เมื่อเรือเทียบท่า ก็พบว่าผู้ที่ช่วยเหลือได้คือ พ.จ.อ.นที ทิมดี เป็นกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย สภาพโดยรวมปลอดภัย มีบาดแผลบริเวณศีรษะและข้อเท้า มีอาการอ่อนแรง ขณะที่รอการลำเลียงขึ้นรถโรงพยาบาล พ.จ.อ. นที ก็ชูสองนิ้ว ให้กับสื่อมวลชน จากนั้นรถพยาบาลโรงพยาบาลบางสะพาน ก็เข้ามาตรวจร่างกายเบื้องต้น และนำส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจอย่างละเอียด

-----------

วานนี้ (19 ธ.ค. 65) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และคณะ เดินทางลงพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์​ เพื่อเยี่ยมกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางกลางทะเล ณ อาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลบางสะพาน และศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก จำนวน 75 คน

โดยได้บอกว่า ปัจจุบันความช่วยเหลือได้ส่งอากาศยานของกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เฮลิคอปเคอร์และเครื่องบิน เพื่อค้นหาทางอากาศ โดยในพื้นที่มีเรือหลวงอ่างทองซึ่งเป็นเรือยกพลขนาดใหญ่จะเป็นเรือหลัก พร้อมเรือเล็กทำการค้นหาในพื้นที่เกิดเหตุห่างจากชายฝั่ง 19 ไมล์ทะเล และได้ส่งเรือเพิ่มเติมคือ เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงภูมิพล ช่วยค้นหาเพิ่มเติม

โดยในขั้นต้นการค้นหาเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค. 65) พบผู้ประสบภัยเพิ่มเติมอีก 1 คน คือ พ.จ.อ.นที ทิมดี ซึ่งเรือหลวงกระบุรีพบและช่วยเหลือได้สำเร็จ โดยผู้ประสบภัยสวมเสื้อชูชีพ ลอยคออยู่ และอยู่ในสภาพหมดสติ เบื้องต้นปลอดภัย แต่ขณะนี้ยังค้นหาไม่พบอีก 30 ราย

จากการคาดการณ์ตามโปรแกรมที่คำนวณ คลื่นลมจะพัดผู้ประสบภัยเข้าหาฝั่ง ตั้งแต่ทางใต้ของบางสะพานลงไป แต่อุปสรรคสำคัญคือสภาพลมแรง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค. 65) และมีแนวโน้มแรงต่อเนื่องไปจนถึงวันนี้ (20 ธ.ค. 65) ทำให้ต้องทำการเร่งค้นหาแข่งกับเวลา เพราะหากมืดจะทำให้การค้นหายากลำบาก

ส่วนกระแสข่าวลือว่า พบผู้เสียชีวิตในพื้นที่จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทับอับปางกลางทะเลนั้นไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าทั้งหมดยังอยู่สถานภาพเป็นผู้สูญหายในทะเลทั้ง 30 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะพยายามเร่งค้นหา โดยใช้สรรพกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

-----------

วานนี้ (19 ธ.ค. 65) เวลา 16.00 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้าค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย จากเหตุเรือจมจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดย พล.ร.อ.ปกครอง โฆษกกองทัพเรือ ระบุ กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าพบกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย และอยู่ในสภาพอิดโรย 9 นาย นั้น จากการตรวจสอบยืนยันว่า ไม่ใช่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งอับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากเหตุคลื่นลมแรงเช่นกัน

-----------

เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค. 65) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ, พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่1 และคณะเดินทางลงพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์​ เพื่อเยี่ยมกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางกลางทะเล  ณ อาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลบางสะพาน และ ศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก จำนวน 75 คน

ยอมรับว่า ชูชีพมีไม่เพียงพอกับจำนวนคนบนเรือ ปกติชูชีพจะมีพอดีกับกำลังพล แต่เนื่องจากวันดังกล่าว มีการขอกำลังเสริมนาวิกโยธิน และ ศูนย์ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) อีก 30 นาย จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบว่าทำไมไม่เอาเสื้อชูชีพไปเพิ่ม รวมถึงตรวจสอบหาสาเหตุของเรือหลวงสุโขทัยอับปาง

-----------

สำหรับ ‘เรือหลวงสุโขทัย’ มีภารกิจที่ต้องเดินทางไปร่วมงานจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย) หรือ ‘องค์บิดาของทหารเรือไทย เนื่องในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี  ที่บริเวณศาลกรมหลวงชุมพรฯ จ.ชลบุรี

โดยเมื่อแล่นเรือไปยังบริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จนเวลาประมาณ 17.16 น. น้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว และจากการที่น้ำเข้าภายในตัวเรือ ทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา จนเเรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำในที่สุด

ทั้งนี้ ในช่วงที่เรือหลวงสุโขทัยได้อับปาง เรือหลวงกระบุรีเป็นเรือลำแรกที่ได้เข้าไปช่วย โดย นาวาโทไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ ผู้บัญชาการเรือหลวงกระบุรี ซึ่งเป็นทีมค้นหา เล่านาทีที่ไปช่วย พ.จ.อ.นที ทิมดี ว่า ช่วงที่ค้นหานั้น พบเสื้อชูชีพสีส้มลอยกลางทะเล โดยผู้รอดชีวิต โบกมือ ให้สัญญาณเฮลิปคอปเตอร์ที่กำลังบินสำรวจ จากนั้นเรือหลวงกระบุรีก็เข้าไปช่วย

ขณะนั้น พ.จ.อ นที กอดชูชีพ นอนหงายหน้า คาดว่า อาจจะถูกชูชีพดันคอ ทำให้หายใจลำบาก จึงเอามากอด และลอยตามน้ำมาเรื่อยๆ เมื่อช่วยขึ้นมาได้ ก็ทำแผลและปฐมพยาบาล ทำให้ร่างกายอบอุ่น เจ้าตัวบอกว่า พยายามโบกมือให้เฮลิคอปเตอร์หลายครั้งจนได้รับการช่วยเหลือ

ส่วนการพยุงตัวทะเลนั้น ผู้บัญชาการเรือหลวงกระบุรี บอกว่า ก่อนที่จะมีการสละเรือ ทุกคนมีการตกลงกันว่าจะทยอยไปเป็นกลุ่มทีละ 10 คน ตามหลักคือจะลอยไปเป็นแพเพื่อช่วยเหลือกัน แต่กรณีนี้คือ ลงไปแล้วเจอกระแสน้ำคลื่นลมแรง ทำให้พัดกระจายกันไป

โดยหลัก หากมีชูชีพและห่วงยาง ทหารทุกคนจะไม่ได้ออกแรงว่ายน้ำ คือจะประคองตัวเองให้ได้รับความช่วยเหลือ ลอยไปกับน้ำเพื่อไม่ให้หมดแรง แต่เมื่อพบเป้าหมาย เช่น เรือจะมาช่วย หรือเฮลิคอปเตอร์ ก็จะส่งสัญญาณ หรือว่ายน้ำเข้าหาเรือ จุดนี้ทำให้เชื่อ และมีหวังว่าจะช่วยได้ทั้งหมด

นอกจากนี้ยังพบว่า ขณะที่ค้นหา พบเสื้อชูชีพถูกทอดทิ้งไว้ลอยอยู่กลางทะเลจำนวน 3 ตัว แต่ไม่พบคน ซึ่งไม่แน่ชัดว่ามีการช่วยเหลือไปแล้วหรือสามารถขึ้นฝั่งไปยังจุดอื่น

-----------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/VLospgrRvgA