ครูเกษียณทดแทนคุณพาแม่วัย 99 เที่ยว ถึงแล้วแก่งผาไดจุดสุดแผ่นดินไทย

กรณีอดีตข้าราชการครูเกษียณ ขับรถพาคุณแม่วัย 99 ปี ตระเวนท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ตั้งแต่ภาคใต้ขึ่นไปถึงภาคเหนือ กลายเป็นกระแสฮือฮาและโด่งดังในโลกโซเชียลฯ และได้รับความชื่นชมให้กำลังจากผู้ทราบเรื่องเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ถ่ายภาพโพสต์ในเฟซบุ๊ก หลังจากทั้ง 3 คนได้เดินทางไปเข้าพักค้างแรมที่ สภ.สะเมิง ในวันที่ 13 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา

วันที่ 19 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางติดตามการเดินทางของคณะทัวร์วัยเก๋าดังกล่าวจนทราบว่าทั้ง 3 คน เดินทางมาท่องเที่ยวและเข้าพักที่บริเวณสวนสาธารณะแก่งผาได ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย สุดเขตประเทศไทยระหว่างไทย-สปป.ลาว

โดยเดินทางมาด้วยรถตู้ ทะเบียน สงขลา แม้จะไม่ได้เป็นรถที่หรูหรือใหม่เอี่ยม แต่ก็ได้มีการตกแต่งภายในเพื่ออำนวยความสะดวก ปรับโซนด้านหลังเป็นเตียงนอนและช่องเก็บสัมภาระเป็นสัดส่วน ทั้งของใช้และถังน้ำสำหรับใช้บริโภคและใช้สอยทั่วไป

นายวันชัย สุขนิคม อายุ 70 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ชาวอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และนางจงกลณี สุขนิคม อายุ 67 ปี ภรรยา ภายในรถยังมียายจริน สุขนิคม อายุ 99 ปี ซึ่งเป็นคุณแม่ของนายวันชัย เดินทางร่วมมาด้วยอีก 1 คน ขณะที่ด้านนอกก็มีชุดอุปกรณ์สำหรับนั่งประกอบอาหาร เพื่อรับประทานสำหรับทั้ง 3 คน

นายวันชัย เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ตนและภรรยาพาคุณแม่ที่อายุมากถึง 99 ปี ตระเวนเที่ยวทั่วไทย เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูและส่งเสียเรียนสูง ได้ทำงานเป็นครูจนเกษียณอายุ ซึ่งแม่และพ่อนั้นทำงานหนักมาตลอดชีวิต ยึดอาชีพเป็นกรรมกรตระเวนรับจ้างไปตามจังหวัดต่าง ๆ ทางภาคใต้ ตอนทำงานห่วงแต่ทำงานอย่างเดียวตนก็ไม่มีโอกาสที่จะพาพวกท่านไปเที่ยวไหน กระทั่งพ่อเสียชีวิตทำให้รู้สึกเสียใจมาก ทุกวันนี้ก็ยังเสียใจ หลังเกษียณจึงตั้งใจว่าจะพาแม่เที่ยวผักผ่อนให้ได้มากที่สุด

ทั้งนี้ ตนเริ่มพาคุณแม่ออกเที่ยวช่วงประมาณ 10 ปี หลังเกษียณ เดิมทีจะเที่ยวในรูปแบบทัวร์ของบริษัทต่าง ๆ แต่ตอนหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ทัวร์ยกเลิกให้บริการ จึงใช้รถเก๋งตระเวนเที่ยวเอง แต่ไม่สะดวก ในช่วง 2 ปีมานี้จึงตัดสินใจซื้อรถยนต์ตู้คันนี้ขับตระเวนเที่ยวแทน เพราะบรรทุกสิ่งของได้มาก มีสถานที่หลับนอนและพาคุณแม่เดินทางสะดวก สามารถใช้ชีวิตภายในรถได้ไม่ต้องขึ้นลงรถลำบาก ซึ่งจะมีบ้างก็ตอนพาคุณแม่นั่งรถเข็นไปชมวิวในสถานที่สำคัญ ๆ

นายวันชัย กล่าวด้วยว่า การตระเวณเที่ยวรอบนี้เดินทางออกจากบ้านที่ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.65 ไล่เที่ยวตามจังหวัดภาคใต้ขึ้นมาเรื่อย ๆ ผ่านภาคกลางยาวไปจนสถึงเชียงใหม่ และต่อมาเที่ยวที่เชียงราย ไม่ได้กำหนดสถานที่ท่องเที่ยวที่แน่นอน จะขับมาเรื่อยที่ไหนน่าเที่ยวก็แวะเที่ยว แต่หากถึงเวลาประมาณบ่าย 3 หรือบ่าย 4 โมง ถึงพื้นที่ไหนก็จะหาที่พัก เพราะตนแก่มากแล้ว สายตาไม่ค่อยดีขับรถตอนกลางคืนไม่ได้ โดยจะเลือกนอนตามสถานที่ราชการบ้าง วัดบ้างหรือสถานที่สาธารณะบ้างที่เขาอนุญาติให้จอดรถเพื่อหลับนอนได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ ภายในรถมีการเตรียมชุดปฐมพยาบาลมาพร้อม จึงไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพของคุณแม่ และจะเลือกนอนตามสถานที่ไม่ไกลจากชุมชน หรือพื้นเสี่ยงที่เป็นอันตราย ซึ่งคุณแม่แม้จะอายุมากถึง 99 ปี แต่ก็ยังแข็งดีจึงไม่ต้องห่วง ส่วนเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางนั้นมีแน่นอน เพราะจะค่อย ๆ เดินทางแบบไม่รีบ เพราะไม่มีธุระอะไรที่ไหน ตั้งใจจะพาคุณแม่และครอบครัวไปเที่ยวเรื่อย ๆ จนกว่าแม่หรือตนจะไปเที่ยวไม่ไหว การเที่ยวลักษณะนี้จะได้ประสบการณ์หลายอย่าง สัมผัสทั้งวัฒนธรรม ผู้คน ทิวทัศน์และสภาพอากาศที่บริสุทธิ์ โดยเฉพาะภาคเหนืออากาศจะดีมาก ๆ ซึ่งจะทำให้คุณแม่มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงขึ้น ซึ่งตนก็อยากให้ทุกครอบครัวมาท่องเที่ยวแบบตนบ้าง

นางจงกลณี กล่าวว่า ตนเป็นคนที่ชอบท่องเที่ยวอยู่แล้ว เมื่อสามีคิดจะพาคุณแม่ออกตระเวนเที่ยวตนก็เห็นด้วย เพราะปกติก็ชอบเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยกรุ๊ปทัวร์อยู่แล้ว ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ไปมาหมด แต่การท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัวแบบนี้ก็มีความสุขไปอีกแบบ เพราะจะเห็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย เห็และสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ยิ่งมาทางภาคเหนืออากาศนั้นดีมากเย็นสบาย ตั้งใจจะเที่ยวกับสามีและคุณแม่ไปเรื่อย ๆ เท่าที่จะทำได้

อย่างไรก็ตาม คณะทัวร์คุณลุงคุณป้ามีกำหนดที่จะเดินทางท่องเที่ยวใน จ.เชียงราย อีกประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่จะเดินทางลงทางภาคใต้ และจะต้องกลับไปถึงบ้านพักที่ จ.สงขลา ก่อนวันที่ 5 ม.ค.66 เนื่องจากจะต้องพาคุณแม่เข้าพบแพทย์ หลังจากนั้นหากคุณพบหมอแล้ว พักผ่อนที่บ้านระยะหนึ่ง ทุกคนพร้อมก็ตระเวนเที่ยวไปตามจังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทยต่อไป แต่ยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปเส้นทางใด