ทะเลคลั่งซัด ‘เรือหลวงสุโขทัย’ อับปางกลางอ่าวไทย ทัพเรือเร่งลำเลียงกำลังพลลอยคอในทะเล

ระทึกกลางอ่าวไทย “เรือหลวงสุโขทัย” น้ำทะลักเข้าเรือ อุปกรณ์สื่อสารใช้ไม่ได้ อยู่ห่างจากชายฝั่ง 16 ไมล์ทะเล ระหว่างปากน้ำปราณบุรีกับบางสะพาน ด้านลูกเรือส่งข้อความขอช่วยเหลือ ก่อนระดมพลกู้เรือเพื่อยื้อเวลา รอกองทัพส่งเรือใหญ่เข้าช่วยเหลือ

ล่าสุดโฆษกกองทัพเรือ ออกแถลงระบุ กำลังพลทุกนายปลอดภัย สาเหตุคาดว่าเกิดจากเครื่องจักรขัดข้อง น้ำไหลย้อนเข้าตัวเรือ ส่งผลให้เรือเอียง ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออก แต่หากไม่สำเร็จต้องสละเรือ

วานนี้ (18 ธ.ค. 65) เวลา 19.00 น ชุดปฎิบัติการกู้ภัยเฉพาะกิจ สว่างสรรเพชญ ได้รับรายงานว่า ‘เรือหลวงสุโขทัย’ ประสบอุบัติเหตุจากคลื่นลมแรง น้ำทะลักเข้าเรือทางกราบด้านขวา ทำให้เรือเอียง ห้องวิทยุสื่อสารไม่สามารถใช้การได้ มีกำลังพลอยู่บนเรือ 110 นาย

เมื่อกองทัพเรือได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงได้สั่งการให้เรือรบ และอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน

ซึ่งในขณะที่ เรือหลวงกระบุรีกำลังเทียบเรือหลวงสุโขทัยเพื่อลำเลียงกำลังพล 110 ราย คลื่นลมแรงและสูงมาก ทำให้การช่วยเหลือเต็มไปด้วยความลำบาก

ต่อมา ขณะที่เรือหลวงสุโขทัยยังอยู่ในสถานะเอียง 60 องศา กำลังพลทั้งหมดยังปลอดภัยดี แต่ได้มีการตัดสินใจให้กำลังพลทั้งหมดเกาะอยู่ที่ราวข้างกราบเรือ เนื่องจากการเคลื่อนย้ายกำลังพลขณะที่คลื่นลมยังคงแรงอันตรายมาก สถานการณ์เวลานั้นไม่สามารถปลดแพชูชีพแล้วให้กำลังพลลงไปอยู่ในแพชูชีพได้ เพราะจากการประเมินแล้วพบว่าปลอดภัยน้อยกว่าเกาะอยู่กับราวข้างกราบเรือ และ ยังรอเรือทักซึ่งกำลังเข้ามาช่วย โดยเป็นเรือที่ใช้ผลักดันเรือใหญ่ เวลาจะเข้าออกท่ามาช่วยสนับสนุน

วันนี้ (19 ธ.ค. 65) เวลา 05.21 น. เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ได้โพสต์ว่า

ร.ล.กระบุรี เรือประจวบ 4 และ5 ช่วยเหลือ กำลังพลประจำเรือหลวงสุโขทัย

สอ.รฝ.และ นย.

ตลอดทั้งคืน มีเรือน้ำมัน มาช่วยด้วย

พาขึ้นเรือและขึ้นฝั่ง

แต่ ยังไม่ครบ

และ มีได้รับบาดเจ็บ

หลังเรืออัปปาง

เรือหลวงอ่างทอง ถึงพื้นที่ รุ่งสาง

มีรายงานว่า  เมื่อ เวลา 02.10 น. ได้ช่วยเหลือกำลังพล ร.ล.สุโขทัย สอ.รฝ.และ นย. ได้แล้ว 73 นาย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บ 3 นาย และยังคงอยู่ในน้ำ 33 นาย

จากนั้น ร.ล.กระบุรี เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพาน ประจวบฯ เพื่อส่งกำลังพลที่บาดเจ็บไปรักษา และส่งกำลังพลที่เหลือไปตรวจเช็กร่างกายที่โรงพยาบาลประจวบ

ส่วนการค้นหากำลังพลที่เหลือ ยังคงดำเนินต่อไปทั้งคืน โดย ร.ล.กระบุรี เรือประจวบ 4 และ เรือประจวบ 5 ที่เป็นเรือ Tug ลากจูง

นอกจากนี้ ยังมีเรือ Star Energy  และ เรือศรีชัยยา ที่เป็นเรือน้ำมัน ให้การช่วยเหลือด้วย

โดย ร.ล.อ่างทอง เรือยกพลขึ้นบก ขนาดใหญ่ของทร. จะเดินทางถึงพื้นที่  ราว 06.00 น.

-----------

โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค. 65) เวลา 19.00 น ชุดปฎิบัติการกู้ภัยเฉพาะกิจ สว่างสรรเพชญ ได้รับรายงานว่า ‘เรือหลวงสุโขทัย’ ประสบอุบัติเหตุจากคลื่นลมแรง น้ำทะลักเข้าเรือทางกราบด้านขวา ทำให้เรือเอียง ห้องวิทยุสื่อสารไม่สามารถใช้การได้ มีกำลังพลอยู่บนเรือ 110 นาย

โดยในคลิป ที่มีการเผยแพร่จาก ‘คุณนัฐพล แสนหมื่น’ ชุดปฎิบัติการกู้ภัยเฉพาะกิจ สว่างสรรเพชญ จะเห็นได้ว่า เรือเอียงอย่างชัดเจน จนแทบจะขนานไปกับทะเล ขณะที่มีคลื่นลมแรงอยู่ตลอด เวลาขณะที่แสงของพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าไปด้วย

อีกคลิปหนึ่ง ที่มีความยาว 7 วินาที จะเห็นว่าบรรยากาศโดยรอบนั้นมืดสนิท ไม่มีแสงแล้ว มีเพียงไฟฉายที่ส่องสว่าง เพื่อให้สัญญาณกับทีมกู้ภัยทางทะเลเท่านั้น ขณะที่ลูกเรือหลายนายต้องใช้มือห้อยตัวกับเสาเรือ เพราะเรือได้ตะแคงนอนระนอบเดียวกับทะเลแล้ว เพื่อรอทีมกู้ภัยมา

ต่อมา มีการเปิดเผยข้อความของลูกเรือ ได้ส่งข้อความข้อความช่วยเหลือเข้ามายังกลุ่มไลน์หนึ่งของกองกับเรือ โดยระบุว่า “เรือหลวงสุโขทัยอยู่ในสถานะวิกฤติ เรืออยู่กลางทะเล 16 ไมล์ทะเล ระหว่างปากน้ำปราณบุรีกับบางสะพาน ติดต่อใครก็ได้ ช่วยเหลือด้วย ด่วนๆ เลยครับ”

นอกจากนี้ ยังได้ระบุเพิ่มว่า “จะพยายามยื้อให้ถึงที่สุด ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ทหารได้เข้ามารับเรื่องพร้อมกับประสานเข้าช่วยเหลือ ขณะที่ลูกเรือท่านนี้ส่งข้อความครั้งสุดท้ายว่า ขอฝากนายประจำเรือ นายทุกนาย (ทหารบนเรือ) ให้กลับบ้านด้วยนะครับ” ก่อนขาดการติดต่อไป

หลังจากรับแจ้งเหตุ กองทัพเรือได้ส่งเรือซึ่งเป็นเรือที่ใกล้ที่สุดไปให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน  แต่มีอุปสรรคเพราะมีคลื่นสูงกว่า 2-3 เมตร และเริ่มมืดไม่มีไฟ รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารใช้ไม่ได้ คลื่นลมแรงมาก เรือเล็กเข้าไม่ได้ ต้องให้เรือใหญ่ เรือกู้ภัยของกองทัพเรือขนาดใหญ่ เข้าให้การช่วยเหลือ

เวลา 21.00 น. พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงกรณีเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียง ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเรือหลวงสุโขทัยกำลังลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ได้ประสบเหตุเรือมีอาการเอียง เนื่องจากขณะนั้น บริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้า โดยผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ ส่งผลให้เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา

ทั้งนี้เมื่อกองทัพเรือได้รับแจ้งเหตุดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ เรือรบ และอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน

นอกจากนี้ ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรีได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างเร่งให้ช่วยเหลือกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยเป็นอันดับแรก สำหรับเรือหลวงสุโขทัยยังคงมีอาการเอียง แต่สามารถผนึกน้ำได้แล้ว ปริมาณน้ำภายในตัวเรือมีปริมาณคงที่

ทั้งนี้ กองทัพเรือจะดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล และกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ

เวลา 22.14 น. มีรายงานว่า ยังไม่สามารถเทียบเรือไม่ได้ เรือหลวงกระบุรีฝ่ากระแสคลื่นลม และพยายามเทียบเรือเพื่อช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย

ด้าน พลเรือเอกอะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ระบุ เรือหลวงกระบุรีอยู่ระหว่างเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อเข้าช่วยเหลือกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยทั้ง 110 นาย โดยการเข้าช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องฝ่ากระแสคลื่นลมแรงสูง ยังอยู่ระหว่างการเข้าช่วยเหลือ

เวลา 22.51 น. ผบ.กองเรือยุทธการ เผยว่า เรือหลวงกระบุรีกำลังเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อลำเลียงกำลังพล 110 ราย แต่ยังทำไม่ได้ เพราะคลื่นลมแรงและสูงมาก และยืนยันกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยยังอยู่บนเรือ และทุกนายปลอดภัยดี คาดว่าเรือหลวงภูมิพลจะเข้าถึงที่หมาย เวลา 01.00 น. เพื่อเข้าช่วย

เวลา 23.20 น. เรือหลวงสุโขทัยยังเอียง 60 องศา กำลังพลยังอยู่บนเรือ ปลอดภัยดี และให้เกาะอยู่ทีราวเรือ หากเคลื่อนย้ายขณะคลื่นลมแรง จะอันตรายมากกว่า และยังคงรอเรือทักเข้ามาสนับสนุนการเคลื่อนย้าย

ด้านพลเรือเอกอดูง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการระบุว่า สถานการณ์เมื่อเวลา 22.45 น. เรือหลวงสุโขทัยยังอยู่ในสถานะเอียง 60 องศา แต่ยังคงปลอดภัยสำหรับกำลังพลทั้งหมด ที่ยังคงอยู่บนเรือ เนื่องจากการเคลื่อนย้ายกำลังพลขณะที่คลื่นลมยังคงแรงแบบนี้อันตรายมาก การเกาะอยู่ที่ราวข้างกราบเรือจะปลอดภัยที่สุด เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรงมาก และกราบเรือค่อนข้างสูงจากน้ำมาก

ไม่สามารถปลดแพชูชีพ แล้วลงไปอยู่ในแพชูชีพได้ เพราะจากการประเมินแล้วพบว่าปลอดภัยน้อยกว่าเกาะอยู่กับราวข้างกราบเรือ และยังรอเรือทักซึ่งกำลังเข้ามาช่วย โดยเป็นเรือที่ใช้ผลักดันเรือใหญ่ เวลาจะเข้าออกท่ามาช่วยสนับสนุน

เวลา 23.30 น. มีรายงานว่า เรือหลวงสุโขทัยอับปางแล้ว โดยพลเรือเอกปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า เมื่อเวลา 23.30 น. เรือรบหลวงสุโขทัยได้จมลงแล้ว หลังพยายามที่จะเข้ากอบกู้สถานการณ์แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากคลื่นลมที่ยังคงแรงมาก ส่วนกำลังพลทั้งหมดปลอดภัย โดยอยู่ในระหว่างการลำเลียงขึ้นบนเรือหลวงกระบุรี

โดยสถานการณ์ล่าสุด คือ ได้ช่วยเหลือกำลังพล ร.ล.สุโขทัย สอ.รฝ.และ นย. ได้แล้ว 73 นาย ในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บ 3 นาย และยังคงอยู่ในน้ำ 33 นาย

และ ร.ล.อ่างทอง เรือยกพลขึ้นบก ขนาดใหญของทร. จะเดินทางถึงพื้นที่ราว 06.00 น.

----------

เรือหลวงสุโขทัย จากข้อมูลบนเว็บไซต์กองเรือฟรีเกตที่ 1 เป็นเรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ (2 ลำ) สร้างโดย TACOMA BOATBUILDING COMPANY ที่เมือง TACOMA สหรัฐอเมริกา

โดยเรือหลวงสุโขทัยมีชื่อเดิมว่า RTN 252 FT PSMM MK-16 #446 ที่ได้รับการติดตั้งระบบอาวุธยุทโธปกรณ์และระบบอำนวยการรบที่ทันสมัย มีขีดความสามารถและประสิทธิภาพสูงพร้อมปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติในเวลาเดียวกัน คือ การป้องกันภัยทางอากาศ ผิวน้ำ และสงครามปราบเรือดำน้ำ กว้างxยาวxสูง: 9.6 x 76.7 x 26.82 เมตร

ภารกิจหลักของเรือหลวงสุโขทัยคือการปราบเรือดำน้ำ ลาดตระเวนตรวจการณ์ คุ้มกันกระบวนเรือ สนับสนุนการยิงฝั่ง ส่วนภารกิจรองคือสนับสนุนภารกิจกองทัพเรือ

เป็นเรือหมายเลข 442 วางกระดูกงู เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2527 ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.พ. 2530

----------

ล่าสุด เรือหลวงอ่างทองถึงที่หมายแล้ว ยืนยันว่า กำลังค้นหากำลังพล 33 นาย และคาดว่าจะค้นหาพบทั้งหมดในเช้าวันนี้

----------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KQa_YY7V86c