สังคม

รวมหมอเถื่อน รับฝังมุกอวัยวะเพศ ทำเหยื่อติดเชี้อรุนแรง ใช้งานไม่ได้

โดย paranee_s

7 ธ.ค. 2565

1.9K views

วันนี้ (7 ธันวาคม 2565) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและแถลงผลงานจับกุม นาย อภิชาต อายุ 41 ปี ที่ห้องพักรายวันไม่ทราบเลขที่ แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ขณะกำลังให้บริการลูกค้าที่นัดหมายฉีดเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.)


โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าตนไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.4 พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยา, เวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ในการผ่าตัด รวม 25 รายการ


สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนให้ทำการสืบสวนกรณีมีบุคคลเปิดให้บริการผ่าตัดฝังมุกเสริมซิลิโคนและฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชายผ่านเฟซบุค “รับฝังมุก ซิลิโคนและฉีดฟิลเลอร์ sub skin” จนแผลเกิดการอักเสบและติดเชื้อรุนแรง มีหนองไหลออกมา โดยหลังรับการรักษาอาการอักเสบแล้ว ยังมีอาการเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง, กลั้นปัสสาวะไม่อยู่, อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และไม่สามารถใช้งานหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ตั้งแต่ไปฝังมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า จนคิดฆ่าตัวตาย


โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และรับว่าตนไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด จบการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยเคยทำงานในคลินิกช่วยหมอทำงาน หลังจากนั้นออกมาทำเองได้ประมาณ 5 ปี โดยเปิดเฟซบุ๊กรับงาน จากนั้นนัดหมายลูกค้าทำการผ่าตัดฝังมุกฉีดฟิลเลอร์เพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายตามโรงแรมม่านรูด หรือห้องพักรายวัน โดยคิดค่าใช้จ่ายครั้งละ 15,000-20,000 บาท แล้วแต่ลักษณะการทำ และจำนวนมุกที่ฝัง


เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม

1. พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐาน “ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คุณอาจสนใจ

Related News