อาชญากรรม

รวบแพทย์แผนจีนเถื่อนคาบ้านพัก เจาะเลือด ฝังเข็มรักษาประชาชน

โดย kanyapak_w

28 ส.ค. 2567

1.8K views

ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) ร่วม สบส., สสจ.พังงา รวบแพทย์แผนจีนเถื่อนคาบ้านพัก เจาะเลือด ฝังเข็มรักษาประชาชน


วันที่ 28 สิงหาคม 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแพทย์แผนจีนเถื่อน ในพื้นที่ จ.พังงา ทำการฝังเข็ม เจาะเลือดรักษาโรคให้ประชาชน



สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ให้ตรวจสอบกรณีมีประชาชนรับบริการฝังเข็มจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ใช่แพทย์แผนจีน และไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ ในพื้นที่ ต.บางเตย อ.เมืองพังงา โดยมีการรักษาให้ประชาชนด้วยวิธีการฝังเข็ม และใช้เข็มฉีดยาเจาะผิวหนังเพื่อปล่อยเลือดออกจากร่างกาย โดยมีประชาชนในพื้นที่ จ.พังงา และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้ามารับการรักษาจำนวนมาก และผู้รับบริการหลายรายได้รับผลข้างเคียงจากการปล่อยเลือด คือ มีอาการใจสั่น ภาวะโลหิตจาง และอาการเจ็บปวด บวมช้ำบริเวณที่เจาะเลือด



นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ จ.พังงา ว่า พบขยะติดเชื้อส่งกลิ่นเหม็นในพื้นที่สาธารณะ เช่น ปลอกใส่เข็มฉีดยา ถุงมือเปื้อนเลือด สำลี และกระดาษชำระเปื้อนคราบเลือดเป็นจำนวนมาก อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ ได้รับผลกระทบด้านสุขอนามัย และเกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากขยะดังกล่าว



เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๔ บก.ปคบ. จึงได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนพบว่า มีบุคคลมีพฤติกรรมเปิดบ้านพักเป็นสถานที่รักษาโรคให้กับประชาชนทั่วไป และมีประชาชนหลายคนนั่งรอรับการตรวจรักษา ในพื้นที่ ต.บางเตย จ.พังงา จริง



โดยในวันที่ 13 สิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา(สสจ.พังงา) เข้าตรวจสอบ บ้านพักอาศัยในพื้นที่ ต.บางเตย อ.เมืองพังงา จ.พังงา โดยขณะเข้าตรวจสอบ พบ นายอาหยิง (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี กำลังทำการรักษาโรคให้ประชาชนด้วยวิธีการฝังเข็ม และใช้เข็มฉีดยาเจาะบริเวณข้อพับขาทั้งสองข้างของประชาชนเพื่อระบายเลือดโดยไม่สวมถุงมือป้องกันเชื้อโรคและสิ่งสกปรกแต่อย่างใด เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่า บ้านหลังดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และไม่มีใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล อีกทั้งผู้ทำการตรวจรักษาไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม และใบอนุญาตการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีนแต่อย่างใด



โดยนาย อาหยิงฯ กล่าวอ้างว่าตนมีความรู้เรื่องการรักษาแพทย์แผนจีนจากการสืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษ ซึ่งตนเป็นรุ่นที่ 3 โดยทำมาแล้วประมาณ 4 ปี



เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันจับกุม นาย อาหยิงฯ พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ หัวเข็มฉีดยาหลายขนาด (ใช้สำหรับเจาะเลือด) จำนวน 445 ชิ้น, เข็มฉีดยา(สำหรับใช้ในการฝังเข็ม) จำนวน 1 กล่อง, แอลกอฮอล์สำหรับล้างแผล จำนวน 2 ขวด, ชุดทำความสะอาด จำนวน 1 ชุด, และขยะติดเชื้อเปื้อนคราบเลือดหลังทำหัตถการกับผู้ใช้บริการ จำนวน 2 ถุง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา ดำเนินคดี



เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม



1. พ.ร.บ.ประกอบโรคศิลปะ พ.ศ.2542 ฐาน “ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนจีน โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐาน “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ขึ้นทะเบียน และไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวว่า การรับบริการทางการแพทย์จากคลินิกเถื่อน หรือหมอเถื่อน ย่อมมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ร่างกาย อย่างการเสริมความงามก็มีสิทธิที่จะเกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อจากบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งในบางรายก็เกิดผลกระทบที่รุนแรงถึงขั้นพิการ ตาบอดสนิทหรือเสียชีวิต ดังนั้น ผู้รับบริการจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ไม่ด่วนตัดสินใจเลือกรับบริการเพียงด้วยคำบอกเล่าปากต่อปากว่าดี หรือราคาที่ถูกกว่า



โดยจะต้องเลือกรับบริการจากสถานพยาบาล และแพทย์ที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากหลักฐานที่สถานพยาบาลจะต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ณ จุดบริการ ได้แก่ 1) มีการแสดงป้ายชื่อสถานพยาบาล ซึ่งแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก 2) มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล 3) มีการแสดงใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล และ 4) มีการแสดงหลักฐานของแพทย์ที่ให้บริการ โดยมี ชื่อ-นามสกุล และภาพถ่ายที่หน้าห้องตรวจ อีกทั้ง เพื่อความมั่นใจควรตรวจสอบชื่อสถานพยาบาลกับเว็บไซต์กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (www.mrd-hss.moph.go.th)



พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรศึกษาข้อมูลและขั้นตอนการรักษาโรคให้ดีก่อนที่จะเข้ารับบริการ การตรวจรักษาโรคต้องกระทำโดยผู้มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม เนื่องจากการกระทำหัตถการกระทำกับร่างกายโดยตรง วิธีการที่จะต้องใช้ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ควรตรวจสอบสถานพยาบาล ผู้ทำการตรวจรักษา หรือแพทย์ที่ทำการรักษาว่าได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่ และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน คลินิกเถื่อน หรือกลุ่มบุคคลที่อาศัยความหวาดกลัวต่อโรคร้ายของประชาชนมาเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค



“ผู้ต้องหาหรือจําเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคําพิพากษาถึงที่สุด”


คุณอาจสนใจ

Related News