สังคม

'หมอศุภกิจ' เผย BA.2.75 ครองประเทศแล้ว - 'กรมการแพทย์' ชี้ควรฉีดเข็มกระตุ้น รับมือปีใหม่-สงกรานต์

โดย nattachat_c

7 ธ.ค. 2565

574 views

วานนี้ (6 ธ.ค. 65) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุถึงการระบาดของโควิดประเทศไทย ว่า 


ปัจจุบัน สายพันธุ์ BA.2.75 ได้เข้ามาแทนที่สายพันธุ์ BA.5 แล้ว โดยพบผู้ป่วยจำนวนกว่า ร้อยละ 76 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา 


ส่วนสายพันธุ์ BA.2.75 นอกจากนี้ยังพบ BA.5 ในสัดส่วน ประมาณร้อยละ 26  และที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 2 เป็นสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ 


สำหรับสายพันธุ์ XBC หรือสายพันธุ์ลูกผสม ระหว่างเดลต้าและโอมิครอน จากเดิมพบคนเดียว ขณะนี้พบประมาณ 10 ราย


นอกจากนี้ การที่ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นแล้ว ยังสามารถติดเชื้อซ้ำได้ หากการติดเชื้อเป็นสายพันธุ์ที่แตกต่าง ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ตลอดเวลา

-------------  

วานนี้ (6 ธ.ค. 65) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้สถานพยาบาลในสังกัดเร่งรณรงค์ฉีดวัคซีน พร้อมทั้งเปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย 


หากได้รับวัคซีนช่วงนี้ก็จะสามารถป้องกันได้ทั้งช่วงปีใหม่นี้ และยังมีภูมิคุ้มกันต่อเนื่องไปได้ถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย


สำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ที่ใช้การรักษาแบบ เจอ แจก จบ ให้กักตัวอย่างน้อย 5 วัน ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้านควรป้องกันตนเอง เพื่อลดโอกาสแพร่เชื้อ 


ข้อมูลผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 และผู้มีโรคร่วมและไม่ฉีดวัคซีน โดยพบร้อยละ 70 ในผู้เสียชีวิตเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนน้อยกว่า 3 เข็ม ร้อยละ 50 ไม่ฉีดวัคซีนเลย ร้อยละ 20 ฉีดเพียง 2 เข็ม ดังนั้น ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนจึงเป็นกลุ่มที่อันตรายที่สุด คนที่ได้รับวัคซีนแล้วซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานผลิตภูมิคุ้มกันที่จะไปต่อสู้กับเชื้อโรค


สำหรับจำนวนผู้ป่วยโควิดที่เข้ามารักษาแบบผู้ป่วยนอก ภาพรวมในสถานพยาบาลทั่วประเทศมีมากขึ้น จากเดิมช่วงที่สถานการณ์เบาบางเฉลี่ยมีผู้ป่วยสัปดาห์ละ 2,000 คน ขณะนี้เพิ่มเป็นเท่าตัว เฉลี่ยสัปดาห์ละ 4,000 คน หรือประมาณวันละ 700-800 คน


ดังนั้น จึงต้องขอความร่วมมือผู้ป่วยที่รักษาแบบผู้ป่วยนอก ให้กักตัวเองอย่างน้อย 5 วัน แต่หากจำเป็นต้องออกไปภายนอก พยายามป้องกันไม่ให้ไปติดผู้อื่น โดยเฉพาะมาตรการป้องกันตนเองทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ ขอให้หมั่นปฏิบัติ

-------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/51KxXSfxbOU


คุณอาจสนใจ

Related News