สังคม

ชาวบ้านร้อง พระมั่วสีกา หอบเงินกฐินหายกว่า 2 ล้าน เงียบยังติดไม่ได้

โดย onjira_n

7 พ.ย. 2565

3.3K views

จากกรณีชาวบ้านทนพฤติกรรมพระไม่ไหว จนต้องโพสต์ประกาศทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ประกาศนะครับทุกท่าน ไอ้หมอนี่มันไม่ใช่พระ ผมกับพรรคพวกชาวบ้าน ติดตามดูมันมาสักพักใหญ่ ๆ มันอยู่กินกับเมียชาวบ้านที่เชียงใหม่ มันไม่เคยอยู่วัด มันสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ศาสนา และชาวบ้านวัดหนองตายายเป็นอย่างมาก มันไม่ได้มียศ ไม่มีตำแหน่ง เป็นพระธรรม ตามที่มันอ้าง พวกเราชาวบ้านทุกคนต้องช่วยกันกำจัดมารศาสนา เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มันเอาไป มันต้องเอามาคืนวัด ผมในฐานะชาวการุ้ง ขอร่วมมือกับชาวบ้านทุกคนครับ ช่วยกันแชร์ครับพี่น้องชาวการุ้ง ช่วยกันแชร์ครับเราชาวการุ้ง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตามจับครับ ใครพบเบาะแส แจ้งวัดหนองตายายด้วยครับ"

ล่าสุดวันนี้ ( 7 พ.ย. ) ก็ยังไม่สามารถติดตามตัวได้แต่อย่างใด รวมติดต่อทางโทรศัพท์ก็ไม่รับสาย ทางไลน์ก็ไม่ตอบรับ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดหนองตายาย บ้านหนองตายาย หมู่ที่ 13 ตำบลเมืองการุ้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ได้พบกับพระวินัย รตตนปัญโญ และพระประเทือง กันตะธัมโม พระลูกวัด และกรรมการวัด และชาวบ้านจำนวนหนึ่งจับกลุ่มพูดคุยในเรื่องดังกล่าว และเผยว่าเดิมทีวันนี้ ( 11 พ.ย. ) จะมีการเปิดกุฏิของพระโมเพื่อตรวจสอบ แต่เนื่องจากได้ถูกยับยั้งและยังไม่มีการตรวจในวันนี้ ( 7 พ.ย. ) เนื่องจากตอดในแง่ของกฏหมายต้องใช้เวลา 30 วัน หลังเกิดเหตุและเรื่องแดง ต้องรอการประชุมและกำหนดวันอีกครั้ง พระวินัย รตตนปัญโญ ซึ่งเป็นพระลูกวัด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องเฟซบุ๊กดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริง เกี่ยวกับพระโม ขนตยาคโม หรือ นายกรกช ธนะวัตณ์ โดยมีชาวบ้านได้ติดตามพฤติกรรมของพระโม รูปนี้นานกว่า 1 ปี จนโป๊ะแตก ได้พาผู้หญิงรายซึ่งเป็นแม่ค้าในตลาดเมืองการุ้ง ทั้งทีได้มีสามีอยู่ พาไปบ้านพักที่ จังเชียงใหม่ หลังจากนั้นได้ถ่ายคลิบวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน พร้อมพิกัดทีพักมอบให้กับทางวัดไว้เป็นหลักฐาน

โดยพระวินัยฯและกรรมการวัดและชาวบ้าน ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูโบสถ์ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นอาคารปูน ซึ่งก่อนหน้านั้นพระโมจะมาสร้างเป็นโบสถ์ดินปั้น ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง แต่หลังโควิดมาได้สร้างเป็นโบสถ์ปูนแทนซึ่งใช้งบประมาณไปกว่า 2 ล้าน บาท และยังได้พาไปดูที่กุฏิของพระโมซึ่งถูกล็อคกุญไว้ และที่เห็นสมบัติของพระโมเหลือเพียงรถยนแวนยี่ห้ออีซูซุจอดอยู่ที่กุฏิ 1 คันเท่านั้น โดยพระโมได้มาจำวัดไปๆมาๆตั้งแต่ปี 63 และทำการเบิกเงินกฐินไปในปี 64 และ ปี 64 ไปกว่า 2 ล้าน บาท แต่มาปีนี้เรื่องเกิดแดงขึ้นมา เงินกฐินของปีในกว่า 6 แสน บาทไม่ได้ให้เบิกไป เรื่องนี้จึงอยากให้พระโมกลับมาชี้แจงความจริงว่าเป็นอย่างไร และเมื่อวานที่ผ่านมามีคนจำนวน 3 คนมาที่วัดแห่งนี้และมาอ้างกับพระวินัยฯว่าจะมาขนของๆพระโม ซึ่งพระวินัยฯบอกว่ากล้วว่าจะเป็นมิจฉาชีพแอบมาหลอกลวงว่พระโมใช้มา แต่ไม่ได้อนุญาตให้เข้าไปในกุฏิและขนของไป

คุณอาจสนใจ

Related News