ตัวแทนประกันยักยอกเกือบ 2 ล้าน เก็บเบี้ยลูกค้าเบี้ยวส่งให้บริษัท

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.65 เวลา 16.00 น. ที่บริษัทประกันแห่งหนึ่ง จ.ขอนแก่น นางวารุณี แปกลาง อายุ 49 ปี ชาวอ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น พร้อมตัวแทนผู้เสียหาย รวม 10 คน เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือ และขอความเป็นธรรมกับผู้จัดการบริษัทประกันดังกล่าว พร้อมกับขอเอกสารหลักฐาน เพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดีกับนางบังออน อายุ 65 ปี ตัวแทนบริษัทประกันชีวิต ลังจากเมื่อหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้เสียหายได้สมัครทำประกันชีวิตผ่านนางบังออน จำนวนหลายกรมธรรม์ โดยจ่ายเบี้ยประกันชีวิตให้กับนางบังออน เพื่อให้นำส่งต่อให้กับบริษัท

ต่อมากลุ่มผู้เสียหายเริ่มพบพิรุธว่า นางบังออน รับเงินเบี้ยประกันไปแล้วแต่กลับไม่ส่งต่อให้บริษัท มาตั้งแต่ปี 2560 และยังเรียกเก็บเบี้ยประกัน จากกลุ่มผู้เสียหายเรื่อยมา จึงได้รวมตัวกันไปติดตามทวงถาม ในวันที่ 9 ส.ค.65 ซึ่งนางบังออน ได้ยอมรับว่า ไม่ได้ส่งเบี้ยประกันให้กับบริษัทจริง รวมมูลค่าความเสียหายเฉพาะของผู้เอาประกันที่เดินทางมาวันนี้ รวมกว่า 1,800,000 บาท จากผู้เสียหายทั้งหมดที่มีอยู่เกือบ 20 คน ก่อนที่จะทำข้อตกลงว่า นางบังออน จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง ภายใน 3 เดือน แต่จนถึงขณะนี้นางบังออน ก็ยังเพิกเฉย

ดังนั้น กลุ่มผู้เสียหายจึงเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากผู้จัดการ จากการเข้าพบ ผู้จัดการชี้แจงว่า จะต้องรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ และแจ้งให้บริษัทใหญ่รับทราบ เพื่อพิจารณาในขั้นตอนต่อไป จากนั้นกลุ่มผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นเอกสารการสมัครเป็นลูกค้าผู้เอาประกัน เดินทางปยังสภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนางบังออน หลังจากไม่ทำตามข้อตกลงที่รับปากกับทางกลุ่มผู้เสียหายไว้

นางวารุณี ตัวแทนกลุ่มผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนได้สมัครสมัครทำประกันชีวิต ให้ลูกคนแรกกับนางบังออน ซึ่งเป็นเครือญาติกัน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2547 จำนวนเงินเอาประกัน 300,000 บาท ชำระเบี้ยประกันแบบรายปี ปีละ 20,400 บาท ระยะเวลาชำระ 20 ปี และครบกำหนดสัญญา วันที่ 1 ต.ค. 2567 จากนั้นได้ทำประกัน ให้กับลูกคนที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2550 จำนวนเงินเอาประกัน 150,000 บาท ชำระเบี้ยประกันแบบรายปี ปีละ 10,200 บาท ระยะเวลาชำระ 20 ปี และครบกำหนดสัญญา วันที่ 1 ส.ค.2570 และประกันให้กับมารดา เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2549 จำนวนเงินเอาประกัน 200,000 บาท ชำระเบี้ยประกันแบบรายปี ปีละ 16,980 บาท ระยะเวลาชำระ 20 ปี และครบกำหนดสัญญา วันที่ 24 เม.ย. 2581 ซึ่งในช่วงปีแรก ๆ ของการสมัครและประกันคุ้มครองก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ เวลาที่ลูกทั้ง 2 คน และมารดาเจ็บไข้ได้ป่วยจนต้องแอดมิดที่โรงพยาบาล ก็นำเอาใบเสร็จค่าใช้จ่ายมาทำเรื่องเบิกกับนางบังออน  ได้ตามปกติ โดยนางบังออน เป็นคนดำเนินการให้ แต่ทุกครั้งที่ตนเองสอบถามหาใบเสร็จรับเงินจากนางบังออน ก็จะได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด

กระทั้งในปี 2560 เริ่มมีชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่เป็นลูกค้า ทราบว่านางบังออน ไม่ได้ส่งเบี้ยประกันที่ลูกค้าจ่ายให้ ให้กับบริษัท จึงเริ่มตั้งกลุ่มพูดคุยกันถึงความผิดปกติ ซึ่งชาวบ้านที่เป็นลูกค้าทุกคนต่างก็ไม่เคยไดรับใบเสร็จรับเงินจากนางบังออน แม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้ง เวลาที่จ่ายเบี้ยประกันให้กับนางบังออน ก็มีทั้งคนที่จ่ายเป็นเงินสดและโอนเข้าบัญชีนางบังออน เมื่อทราบแน่ชัดว่านางบังออน ไม่ได้นำส่งเงินเบี้ยประกันให้ผู้เสียหายที่เป็นลูกค้าทำประกัน กับนางบังออนนับตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งมีกว่า 20 คน จึงเกิดความไม่มั่นใจว่า ประกันที่ทำไว้จะคุ้มครองตามกฎหมายและเงื่อนไขของบริษัทหรือไม่ หรือสถานะสิ้นสภาพไปแล้ว โดยที่ทางผู้เสียหายไม่ทราบเรื่อง ทั้ง ๆ ที่ได้มีการชำระเบี้ยประกันมาโดยตลอด ซึ่งหากการทำประกัน ของกลุ่มผู้เสียหายสิ้นสภาพกรมธรรม์ จะทำให้เกิดความเสียหายเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 1,850,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินเฉพาะของผู้เสียหายที่เดินทางมาวันนี้เท่านั้น

นางวารุณี กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนและผู้เสียหายคนอื่น ๆ ทราบว่านางบังออน ไม่ส่งเบี้ยประกันให้บริษัท ก็ได้รวมตัวกันไปทวงถามกับนางบังออน ในวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยในวันดังกล่าว นางบังออน รับปากว่าจะจัดการปัญหาทั้งหมดให้ โดยทุกอย่างจะเรียบร้อยไม่เกินวันที่ 28 ต.ค. 65 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ กลุ่มผู้เสียหายจึงได้เข้าร้องเรียนกับบริษัท และเรียกร้องให้นางบังออน รับผิดชอบทำกรมธรรม์ให้คืนสภาพ หากคืนไม่ได้ ให้ชดใช้ตามจำนวนวงเงินที่ทำประกัน ต้องการให้สำนักงานคณะกรรมกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหาย และต้องการให้สังคมทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากยังมีอีกหลายคนที่ถูกกระทำแต่ยังไม่ได้เดินทางมาร้องเรียนอีกจำนวนมาก