หลานคลั่งยาขอเงินย่าไม่ได้ใช้จอบมีดตีฟันจนย่าเสียชีวิต

เมื่อเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ผู้กำกับการ สภ.คลองกิ่ว พร้อมด้วยอาสากู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งที่ ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งมีเหตุผู้สูงอายุถูกหลานแท้ๆใช้มีดฟัน เมื่อไปถึงพบศพนอนคว่ำหน้า ทราบชื่อ คือ นางนิยม อายุ 79 ปี มีแผลฉกรรจ์หลายแห่ง เช่นที่หน้า ศรีษะ และบริเวณหัวไหล่ซ้ายพบบาดแผลถูกของมีคมฟันเข้ากระดูกโผล่ แผ่นหลังมีรอยช้ำเป็นทางยาวประมาณ 6 นิ้ว รอบๆร่างผู้เสียชีวิตมีรอยมีดขีด ใกล้กันพบจอบขุดดินด้ามเหล็กความยาวประมาณ 1.20 เมตร มีคราบเลือด และไขมันติดอยู่บริเวณส่วนสันของจอบ อยู่ข้างๆผู้ตาย 1 อัน และนอกจากนี้ภายในห้องนอนยังพบมีดปังตอสภาพเก่าบิดเบี้ยว สนิมเขรอะ 2 เล่ม วางอยู่บนโต๊ะ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายพิพัฒน์พงศ์ อายุ 30 ปี เป็นหลาน ที่ยังอยู่ในอาการคลั่ง สภาพคล้ายคนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุม ทำไปสอบสวนต่อที่ สภ.คลองกิ่ว จากการสอบถามนางสาวสุภาพร  อายุ 48 ปี เป็นลูกสะใภ้ของผู้ตาย และเป็นแม่เลี้ยงของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองอยู่ในบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้ๆกันได้ยินเสียงดังผลั๊วะๆ อยู่ข้างบ้าน จึงเปิดผ้าม่านหน้าต่างดูก็เห็นนายน๊อต ซึ่งเป็นหลานของผู้ตายกำลังใช้ด้ามจอบตีย่า จึงร้องห้ามและรีบวิ่งออกจากบ้านเพื่อจะมาช่วยเหลือ แต่แฟนของนายน็อตได้ร้องห้ามบอกว่าอย่าเข้าไปเนื่องจากนายน็อค กำลังคลั่งและตาขวางมองมาทางนางสาวสุภาพร จึงวิ่งย้อนกลับมาในบ้านและเอาโทรศัพท์หาน้องสาว ให้ช่วยโทรแจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ จากนั้นก็มีผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับแจ้งมาที่เกิดเหตุและช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ ส่วนผู้ถูกทำร้ายก็เสียชีวิตไปแล้ว

โดยนางสาวสุภาพร เล่าว่านายน็อต ไม่ได้ทำงานอะไร จะชอบขอเงินย่า เป็นประจำ หากวันไหนไม่ได้ก็จะโวยวายและส่งเสียงดังทะเลาะกับย่า และวันนี้ ที่ก่อเหตุอาจเป็นเพราะย่าไม่ให้เงิน อีกทั้งคาดว่านายน็อต น่าจะคิดว่าเมื่อจัดงานศพพ่อเสร็จ ย่าน่าจะได้เงินจากการจัดงานศพจึงได้ทวงขอเงินจากย่าอีกเช่นเคยประกอบกับ น่าจะเสพยาบ้าไปหลายเม็ด จนทำให้ขาดสติ จนทำให้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งได้เห็นข่าวแบบนี้ ทุกวัน ไม่คิดว่าจะมาเจอกับครอบครัวตัวเอง เห็นแล้วรู้สึกหดหู่ใจ อยากให้หน่วยงานภาครัฐ เอาจริงกับการปราบปรามให้มากกว่านี้

ส่วนนางสาวเอ นามสมมุติ แฟนของผู้ก่อเหตุ เล่าว่ารู้จักกับนายน็อต มาประมาณ 1 ปี นายน็อต เพิ่งจะบวชหน้าไฟให้ผู้เป็นพ่อที่เสียชีวิต ไปเมื่อวานนี้ส่วนสาเหตุคาดว่านายน็อต เกิดจากยาเสพติด หรือบรรดาโทสะเรื่องเงินๆทองๆที่ได้จากการจัดงานศพพ่อที่ตายและเงินสะสมจากประกันสังคม ที่ผู้ตายกับนายน็อต มีปากมีเสียงกัน จนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ตนเองยอมรับว่าก้ได้เสพยาเสพติดเหมือนกัน แต่ก็อยู่ในช่วงบำบัด ตอนเกิดเหตุก็ได้ห้ามนายน็อต แล้วแต่ก็ไม่ยอมฟังแถมยังพูดไม่รุ้เรื่องอีกด้วย เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ไว้ก่อน ซึ่งจะมีการสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากในขณะนี้ ผู้ต้องหาพูดจาไม่รู้เรื่องจากที่เสพยามาเป็นจำนวนมาก ยังอ้างว่าตนเองเป็นทหาร และไม่มีส่วนรู้เห็นกับการฆ่าย่า อีกทั้งช่วงเกิดเหตุไม่อยู่ ได้ไปล่อซื้อยาเสพติดและตนเองเป็นทหารยศสิบตรี อยุ่กรมทหารสื่อสารเขาเรด้า อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องรอดูอาการนายน็อต อีกครั้งว่าพอจะสอบปากคำรุ้เรื่องหรือไม่เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นอกจากนี้จากการตรวจปัสสาสะนายน็อต และนางสาวเอ แฟนสาว พบว่าทั้งสองปัสสาวะเป็นสีม่วงมีสารเสพติด (แอมเฟตามีน) ทั้งคู่อีกด้วย