สังคม

เหยื่อนายทุนสูบเงินโผล่อีก อ้างบอกเป็นลูกทูตฯ หลอกทำงาน

โดย paranee_s

17 ต.ค. 2565

241 views

จากกรณีที่นครบาลบุกช่วยเหลือ 3 อดีตพยาบาล กับเด็ก 2 คน และสืบสวนขยายผลสาวสองคนไทยอ้างเป็นเกาหลีสร้างลัทธิล้างสมองสูบเงินเหยื่อแถมอุปโลกน์หนี้ 140 ล้านหลอกใช้เหยื่อหากขัดขืนสาดน้ำร้อนลวก


ชุดลาดตระเวนออนไลน์ ของ กองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล บุกเข้าช่วยเหลือ อดีตพยาบาล พร้อมเด็กชายและเด็กสาว ที่ รวม 5 คน คือ น.ส.ไพริน (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ,น.ส.พลอย (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ,น.ส.ไข่มุก (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ,ด.ญ. อายุ 10 ปี บุตรของ น.ส.ไพริน และด.ช. อายุ 6 ปี บุตรของ น.ส.ไพริน ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านพระราม 8 หลังมีญาติของผู้เสียหาย เข้าร้องเรียนว่า ผู้เสียหายได้แอบแชตพร้อมส่งรูปภาพมาเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยส่งรูปภาพที่ส่งมามีสภาพร่างกาย ถูกโกนผมสั้น และมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก และยังมีการบังคับให้ผู้เสียหายตบตีทำร้ายเด็ก 2 คนที่เป็นลูกอีกด้วย ถ้าไม่ทำจะสาดน้ำร้อนใส่เด็กๆ


โดยเมื่อตำรวจเข้าไปช่วยเหลือ สภาพทั้ง 5 คน อยู่ภายในห้องอย่างแออัด และจากการตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นพบว่า น.ส.ไพริน มีบาดแผลการถูกน้ำร้อนลวกทั่วบริเวณไหล่ซ้าย ส่วนน.ส.ไข่มุก มีบาดแผลการถูกน้ำร้อนลวกทั่วบริเวณหน้าอก


ขณะที่ ด.ญ.มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตา และ ด.ช. มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาและลูกตามีรอยแดง


จากการสอบถามเด็กที่ถูกทำร้าย บอกว่า ตัวผู้ก่อเหตุได้ให้แม่ของเธอตบทำร้าย เพื่อแลกกับโอกาส และจากการสอบถามผู้เสียหายที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งหมดมีอาการหวาดกลัว เสมือนคนเกิดภาวะผิดปกติทางจิต และได้ให้ข้อมูลว่าได้ถูกบังคับให้ทำงานหาเงินใช้หนี้ให้กับนายทุนที่อ้างเป็นนายแพทย์หญิงลูกครึ่งเกาหลี ญี่ปุ่น ทำงานสถานทูตประเทศใหญ่


พบว่า ผู้เสียหาย เป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่ลาออกและมาทำธุรกิจร่วมกับ นายทุน โดยนายทุนผู้นี้จะใช้อุบายหลอกลวงทั้ง 3 โดยแรกเริ่มจะทำทีร่วมธุรกิจด้วยกัน แต่จะให้รวมเงินไว้ที่ตนเองและเมื่อเริ่มขับเคลื่อนธุรกิจ นายทุนผู้นี้จะใช้ทุนดำเนินการต่าง ๆ โดยที่ทั้ง 3 ไม่ทราบแต่อย่างใด และจะใช้ “ความกลัว” เข้ากดขี่ เช่น หลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ , ลูกค้าเรียกเงินคืน , ฝากบุตรเข้าโรงเรียนดัง ฯลฯ


จากนั้นนายทุนผู้นี้ก็จะอุปโลกน์ “หนี้” ยัดเยียดให้กับทั้ง 3 และใช้การหลอกว่ารู้จักกับตำรวจ จะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ทำให้เกิดความกลัวและยอมตกเป็นเบี้ยล่างทำงานใช้หนี้ทิพย์นี้เรื่อยมากว่า 3 ปี โดยล่าสุดทั้ง 3 เข้าใจว่าตนเองตกเป็นหนี้นายทุนผู้นี้ถึง จำนวน 140 ล้านบาท ทั้งที่แท้จริงทั้ง 3 ได้ถูกนายทุนหลอกลวงทรัพย์สิ้นไป รวมเป็นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท ขณะนี้ได้นำตัวเหยื่อ และเด็กเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตร.


ขณะที่วันนี้ นักข่าวได้ไปพูดคุย กับผู้เสียหายอีกกลุ่มหนึ่ง ที่บอกว่า เธอถูก ผู้ก่อเหตุคนเดียวกับที่กักขังอดีตพยาบาล หลอกให้ทำงานแล้วไม่ได้ค่าจ้าง


โดยผู้เสียหายเป็น หญิง อายุ 27 ปี ได้บอกว่า ผู้ก่อเหตุที่หลอกเธอในตอนนั้น ใช้ชื่อว่า “ซอยอ” อ้างว่าเป็นลูกทูตฯ ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยและเป็นลูกครึ่งสัญชาติเกาหลี-ญี่ปุ่น ซึ่งได้บอกว่าเธอถูกชักชวนจากรุ่นพี่ที่ทำคลินิกแพทย์แผนจีน ให้ช่วยหาคนทำงานร่วมกับ “ซอยอ” ซึ่งระหว่างสอบสัมภาษณ์ ผู้ก่อเหตุได้ใช้หลักจิตวิทยาในการพูดจี้ปมและพูดหว่านล้อมให้ผู้เสียหายอยากทำงานร่วมกันกับผู้ก่อเหตุ จนสุดท้ายร่วมทำงาน และถูกหลอกว่าจะให้ทำโปรเจ็คต์งานต่าง ๆ ทั้งอาหารเสริมคาเฟ่


โดยหลอกให้ผู้เสียหายหาข้อมูลต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีผลิตภัณฑ์หรือชิ้นงานเกิดขึ้นจริง ลักษณะคล้ายหลอกใช้ทำงานโดยจะให้ผลตอบแทนเงินเดือน 25,000 บาท แต่เธอทำมา 4 เดือนได้เงินมาเพียง 15,000 บาท จนระยะหลังเธอเริ่มเอะใจว่าถูกหลอก เนื่องจากผู้ก่อเหตุได้อ้างว่าจะให้เธอไปเปิดบัญชีพร้อมขอข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ มาไว้ที่ตัวผู้ก่อเหตุโดยให้เหตุผลว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถเปิดบัญชีหรือทำทุรกรรมในประเทศไทยได้ และได้ขอให้กลุ่มผู้เสียหายนำเงินมาลงทุนให้ก่อน


อีกทั้งลักษณะการทำงานก็ถูกบังคับห้ามพูดคุยกันภายในออฟฟิศและให้ทำงานตั้งแต่ 9 โมงจนถึงเที่ยงคืน เมื่อเธอเริ่มเอะใจจึงไปพูดคุยกับรุ่นพี่ที่ชักชวนเธอมารุ่นพี่ก็บอกว่าได้คุยและเคลียร์กับผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ผู้เสียหายก็รู้สึกไม่สบายใจจึงพยายามไปขอลาออกและไปฟ้องร้องเรื่องค่าแรง


ขณะที่ช่วงบ่ายกลุ่มผู้เสียหายได้เข้ามาชี้ตัวผู้ก่อเหตุก็ตกใจเพราะว่า “ซอยอ” คนที่ สัมภาษณ์เธอรับเข้าทำงานกลับกลายเป็นผู้ชายและเป็นคนไทยอายุ 37 ปี และเมื่อนักข่าวสอบถามว่าเมื่อทราบข่าวว่าผู้ก่อเหตุไปกักขังอดีตพยาบาลเธอก็รู้สึกตกใจ

คุณอาจสนใจ

Related News