ช่างภาพงานหมั้นขอโทษ อ้างภาพที่ถ่ายเป็นสไตล์ที่ถนัด ชี้รูปที่โพสต์ยังไม่ได้คัด-แต่ง

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์รูปภาพงานหมั้นกว่า 10 ภาพ และข้อความระบุว่า “จำไว้เป็นบทเรียน ใครที่จะจ้างช่างภาพ ผมได้จ้างช่างภาพมาถ่ายรูปงานหมั้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาที่ผ่านมา มีการนัดแนะเวลาและรายละเอียดกันเป็นที่เรียบร้อย พอถึงวันงานมาถึง


1. สิ่งแรกที่เห็นคือช่างภาพ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีดำ และผู้ชายใส่กางเกงสั้นเสมอเข่า ผู้หญิงใส่กางเกงขาสั้นเหมือนกางเกงนอน จนผมต้องให้น้าสาวเอากางเกงไปให้เปลี่ยน (ญาติผู้ใหญ่ในงานเยอะมากและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าช่างภาพแต่งตัวไม่โอเค และไม่ให้เกียรติงานเลย)


2.นัดแนะที่เวลา 8.00 น. ช่างภาพไปเจอที่บ้านต้นขันหมาก ก่อนถ่ายรูปขันหมากประมาณ 10 กว่านาทีก็ขอตัวเดินทางไปที่บ้านที่จัดงาน (ห่างกันไม่ถึง 1 กิโลเมตร) ทั้งโทรมาบอกว่าขอแวะซื้อน้ำแล้วหายไปเกือบชั่วโมง มาถึงที่จัดงานเกือบๆ 9.00 น. (ซึ่งฤกษ์คือ 9.00 น.) และกลับจากงานไปตั้งแต่ยังไม่ถึง 11.00 น. ซึ่งถ่ายไปประมาณ 2 ชั่วโมงทั้งที่ตกลงไว้ 4 ชั่วโมง


3.ภาพที่ถ่ายมาทั้งหมด 536 ภาพ มีรูปซ้ำมุมเดียวกันเยอะมาก นับแล้วได้ภาพคนละมุมกันยังไม่ถึง 100 รูปและรูปส่วนใหญ่ก็ถ่ายติดหลังคนบ้าง ติดประตูบ้าง เยอะมากตามตัวอย่างรูปในโพสต์เลยครับ ภาพตอนพิธีก็มีแต่มุมข้างหลัง พอเห็นรูปทั้งหมดผมกับแฟนรู้สึกแย่มากเลยครับ ที่จ้างมาก็เพราะเค้าส่งรูปตัวอย่างผลงานมาให้แล้วดูโอเค ไม่คิดว่าได้รูปออกมาแบบนี้


ซึ่งช่างภาพให้เหตุผลว่าคนในงานเยอะ และไม่ยอมหลบให้ถ่าย แต่ไม่มีการสื่อใด ๆ ให้คนหลบให้หรือแทรกตัวขึ้นมายืนข้างหน้าเลย และคนในงานยังไม่ถึง 50 คนเลยครับ งานก็จัดแค่ครั้งเดียว เป็นโมเมนต์เดียวในชีวิต กลับไม่มีภาพให้เก็บไว้เป็นความทรงจำเลย โทรไปคุยแล้วช่างภาพเค้าไม่ยอมพูดอะไรเลย มีแต่เราพูดอยู่ฝ่ายเดียว”


ทีมข่าว ได้เดินทางไปพูดคุยกับผู้เสียหายทั้ง 2 คือ คุณจอร์เจีย และ คุณภูมิ ซึ่งได้โชว์ภาพบางส่วนของช่างภาพมาให้ทีมข่าวดู พร้อมตั้งคำถามถึงองค์ประกอบภาพที่ไม่โอเคในหลายภาพ และบางภาพหน้าเจ้าสาวขาดไปครึ่งหน้า ภาพช่วงมอบพานให้ผู้ใหญ่ ก็กลับถ่ายเห็นแต่ด้านหลังของทั้งคู่ หรือบางภาพที่เป็นภาพถ่ายหมู่ หน้าของเพื่อน ๆ ก็หายไปครึ่งหน้า


โดยทั้งคู่เล่าว่า เมื่อกลางเดือนกันยายน ตนประกาศโพสต์ตามหาช่างภาพถ่ายงานหมั้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งก็มีคนของช่างภาพรายนี้ที่มาโพสต์ใต้คอมเมนต์ และแท็กไปที่ช่างภาพ พร้อมภาพผลงาน


จากนั้นจึงขอดูภาพผลงานเก่าๆ ก็พบว่า มีรูปแบบและสไตล์ที่ถูกใจ ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของราคา แต่ตนถูกใจผลงาน จึงตกลงว่าจ้างกันในราคา 3,000 บาท โดยให้ตนโอนเงินมัดจำไปก่อน 500 บาท


กระทั่งวันงาน ก็เห็นว่า ช่างภาพ มากันสองคน เป็นผู้หญิงและผู้ชายทั้งคู่ใส่เสื้อสีดำมา กางเกงขาสั้น จนทำให้ตนต้องหาเสื้อเปลี่ยนให้เพราะเป็นงานมงคล


จากนั้นช่างภาพ ก็เริ่มถ่ายงาน ที่ขบวนขันหมาก แต่จู่ ๆ ก็หายไปเป็นชั่วโมง และมาอีกครั้งที่บ้านเจ้าสาว ก่อนที่ในช่วงประมาณเกือบ 11:00 น. จะเดินทางกลับ จึงได้ส่งข้อความไปสอบถามว่ากลับแล้วหรือ งานยังไม่เสร็จเลย


ในระหว่างงานคนแอบสังเกตเห็นว่าช่างภาพยืนถ่ายรูปในมุมที่มีคนบังบ้าง ทั้งที่ในงานก็มีแขกเพียงแค่ 50 คนเท่านั้น แล้วก็มีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอที่จะให้ช่างภาพมาถ่าย หรือภาพบางมุมที่ควร เก็บภาพด้านข้าง เช่นช่วงมอบพานขันหมาก ก็มีแต่ข้างหลัง บางครั้งเห็นว่าแอบไปถ่ายตามมุมต่าง ๆ เอาม่านมาบัง เอาประตูรั้วเหล็กมาเป็น foreground จนเพื่อนต้องไปเอากล้องมาถ่ายเก็บภาพช่วย


ขณะเดียวกันตนก็จึงไปขอดูรูป ก็ตกใจ เพราะภาพไม่ตรงกับผลงานเก่าๆ ที่เห็นมา แต่ก็ยังไม่อยากว่าอะไร กระทั่งขอดูไฟล์ดิบทั้งหมด และพบว่า จาก 500 กว่าภาพใช้ได้ไม่ถึง 50 ภาพ


ซึ่งสาเหตุที่โพสต์ข้อความ เราต้องการเตือนให้ผู้ที่จะหาช่างภาพ ตรวจสอบ และเช็คให้ดี เพราะแต่ละงานนอกจากความทรงจำแล้ว ก็จะมีรูปภาพที่ช่วยบันทึกภาพความทรงจำเหล่านั้น แต่สำหรับตนภาพต่าง ๆ กลับใช้แทบไม่ได้เลย


ที่ผ่านมาพยายามติดต่อพูดคุยว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่ก็ยังไม่ได้คุยกันอย่างจริงจัง


หลังจากเรื่องราวถูกแชร์ไปในวงกว้าง คุณปาล์ม ซึ่งเป็นช่างภาพที่ถูกพาดพิง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงว่า “ในส่วนของงานผมได้รับทราบเเล้ว ผมต้องขออภัยด้วยนะครับ อันนี้ในส่วนของ Demo งานนะครับ ผมได้จัดส่งไปให้ภายในเวลาที่กำหนดของการส่งงานของเพจผม รูปในส่วนนั้นคือรูปที่ผมยังไม่ได้คัด เเละยังไม่ได้เเต่ง เพราะทางเจ้าภาพได้ขอไฟล์ดิบทั้งหมด ผิดพลาดผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ในส่วนของงานนี้ทางผมได้รับเงินมาคือมัดจำ 500฿ นะครับ ในส่วนต่างที่เหลือไม่ได้รับนะครับ”


ทีมข่าว ได้พูดคุยกับคุณปาล์มทางโทรศัพท์ว่า สาเหตุที่ภาพออกมาในลักษณะดังกล่าว เพราะในวันงาน มีญาติของคู่บ่าวสาวมาบังเฟรม ตนได้บอกให้หลบไปให้หน่อยนะครับ แต่ญาติ ๆ ไม่หลบ จึงถ่ายได้ตามที่ภาพออกมา ก็คือภาพมุมแคนดิด


และเมื่อถ่ายเสร็จ 11.00 น. คู่บ่าวสาวขอดูเดโม่รูป จึงส่งไปให้ดู ทั้งคู่ก็บอกโอเค แต่หลังจากนั้น ทักมาขอดูภาพไฟล์หลังกล้องทั้งหมด ซึ่งนี่ถือเป็นการฆ่าตัวตายมากๆ เพราะช่างภาพปกติจะไม่ส่งไฟล์หลังกล้อง ก่อนที่จะโทรมาหาว่า ไม่โอเคกับภาพ ซึ่งตนก็ได้บอกขอโทษไปแล้ว


แต่สิ่งที่เกิดขึ้น กลับเอาไฟล์หลังกล้องไปโพสต์ประจาน จนทำให้มีคนมาพาดพิงลูกค้ารายอื่นของตนว่าจ้างได้ยังไง ให้เลิกเป็นช่างภาพเถอะ จนลูกค้าต้องบอกให้ตนลบผลงานออกจากเฟซบุ๊ก เพราะรู้สึกอาย


ช่างภาพรายนี้ยังบอกว่า ตนเป็นช่างภาพไม่มีสไตล์ตายตัว แต่จะเน้นแคนดิดเป็นหลัก ซึ่งตนชอบ แต่บางคนอาจไม่ชอบ เหมือนงานระดับโลกบางชิ้นงาน ที่มองว่าไม่สวย แต่มันคือศิลปะ ไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบรูปนั้นหรือเปล่า


พร้อมตั้งคำถามกลับว่า ในเมื่อคิดจะจ้างช่างภาพคนหนึ่ง ก็ต้องไปดูผลงานเก่าๆ รูปแบบการถ่าย ไม่ใช่สักแต่จ้างเพราะเห็นราคาถูก


ทั้งนี้ ตนเองเป็นช่างภาพมาประมาณสองถึงสามปี รับงานเป็นจำนวนมาก เริ่มจากเป็นเป็นเด็กถือไฟ ในงานแต่งงาน งานรับปริญญา งานพรีเวดดิ้ง มาจนถึงตอนนี้ ตนมีเครดิตลูกค้า แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้น ยอมรับรู้สึกท้อ แต่ก็ต้องสู้ต่อไป พร้อมขอโทษช่างภาพทุกคนที่ทำให้เสื่อมเสีย รวมถึงคนที่ไม่ชอบผลงานของตนด้วย


ส่วนค่าจ้างนั้น คุณปาล์มอ้างว่า ทั้งคู่จะให้เงินเป็นรายภาพ ตนจึงคิดว่าจะไม่ขอรับเงินค่าถ่ายภาพแล้ว แต่จะส่งไฟล์ภาพและรูปภาพทั้งหมดที่แต่งแล้วไปให้