ปรับมาตรการโควิด ยกเลิกกักตัวผู้ป่วยอาการน้อย - ไม่ต้องโชว์ใบวัคซีน - ATK ก่อนเข้าประเทศ เริ่ม 1 ต.ค.65

วานนี้ (21 ก.ย. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่ 7/2565

นายอนุทิน ระบุภายหลังการประชุมว่า มีเรื่องที่ได้ผ่านการพิจารณาคณะกรรมการโรคติดต่อ 2 เรื่อง คือ

1. เห็นชอบแผนปฏิบัติการควบคุมโรคโควิด-19 รองรับการเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 – ก.ย. 66 โดยได้มีการลงลงนามปรับให้เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังลำดับที่ 57 ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป

ภายใต้ยุทธศาสตร์ 4 ด้าน คือ การป้องกัน เฝ้าระวังควบคุมโรค // ด้านการแพทย์ และการรักษาพยาบาล // การสื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์ // ด้านการบริหารจัดการ กฎหมาย สังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องมีการ นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบต่อไปและให้ทุกจังหวัดจัดทำแผนปฏิบัติการดังกล่าวเพื่อให้เกิดความพร้อมทุกด้านประกาศเป็นพื้นที่หากสถานการณ์มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอาจประกาศให้เป็นพื้นที่โรคระบาดตามความจำเป็น

2. เห็นชอบมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค โควิด-19 เพื่อรองรับการเป็นโรคติดต่อที่เฝ้าระวัง คือ ก่อนเข้าประเทศจะมีการยกเลิกแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเอกสารวัคซีนหรือผลการตรวจ ATK โรค โควิด-19 ยกเว้นโรคไข้เหลืองที่ยังดำเนินการตามปกติ ยกเลิกการสุ่มตรวจ สอบบันทึกการฉีดวัคซีน โควิด-19 ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ แต่ยังคงเฝ้าระวังผู้เดินทางที่มีอาการป่วยของโรคติดต่ออันตรายหรือโรคติดต่ออุบัติใหม่

ปรับมาตรการแยกกักสำหรับผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่มีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการให้ปฏิบัติการตามมาตรการ DMHT คือ ไม่ต้องกักตัวแต่ต้องใส่หน้ากากอนามัย // ล้างมือ // เว้นระยะห่าง เป็นระยะเวลา 5 วัน และควรตรวจ ATK เมื่อมีอาการ ให้สวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่มีอากาศไม่ถ่ายเท หรือ พื้นที่ปิด และให้มีการตรวจคัดกรองในหน่วยงานเฉพาะกลุ่มที่มีอาการของโรคทางเดินหายใจ

นายอนุทิน ระบุอีกว่า ปัจจุบัน มีประชาชนฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 143 ล้านโดส คิดเป็นร้อยละ 47.3 ขณะที่เช็มกระตุ้นฉีดไปแล้ว 33 ล้านโดส และคณะกรรมการโรคติดต่อ เห็นชอบแผนบริหารจัดการวัคซีนและให้วัคซีน โควิด-19 สำหรับเด็กอายุหกเดือนถึงสี่ปีเป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้มคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ตามความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก ย้ำการนำเข้าวัคซีนยาและเวชภัณฑ์ยังอยู่ในภาวะฉุกเฉิน

ทั้งนี้ ข้อปฏิบัติทั้งหมดเกี่ยวมาตรการโควิด-19 ที่จะปรับเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังในวันที่ 1 ต.ค. จะนำเข้าที่ประชุม ศบค.รับทราบในวันศุกร์ที่ 23 ก.ย.นี้

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Yu1oveNcxMk