สังคม

‘หมอมนูญ’ โพสต์โควิดรอบนี้ 'ระบาดรอบใหญ่’ ชี้ โอมิครอน BA.5 แพร่เชื้อเร็ว ติดง่ายที่สุด

โดย petchpawee_k

15 ก.ค. 2565

214 views

วานนี้ (วันที่ 14 ก.ค.) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว บางช่วงบางตอนระบุว่า  การระบาดรอบนี้ น่าจะเป็นการระบาดรอบใหญ่ เหมือนช่วงเดือน มี.ค. ที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ BA.1, BA.2 ตัวเลขผู้ติดเชื้อขณะนี้กำลังเพิ่มเป็นทวีคูณ และจากนี้ไปไม่นานจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ รวมทั้งผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น


ปัจจัยสำคัญที่สุดคือ เชื้อไวรัสโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่ระบาดขณะนี้ กำลังเปลี่ยนเป็น BA.5 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็วที่สุด ติดต่อกันง่ายที่สุด และหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีกว่าทุกสายพันธุ์เดิม ไม่ว่าจากการได้รับวัคซีนหรือการติดเชื้อตามธรรมชาติ


ทำให้คนที่ได้รับวัคซีนไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ติดเชื้อรอบนี้และคนที่เคยติดเชื้อมาแล้วติดซ้ำอีก จำนวนคน 2 กลุ่มนี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประกอบกับคนเริ่มผ่อนคลาย เหนื่อยล้ากับการป้องกันตัวเอง มีกิจกรรมพบปะกันมากขึ้น มีการเดินทางมากขึ้น มีวันหยุดยาว ทำให้เชื้อแพร่ระบาดไปทั่วประเทศได้เร็วขึ้น


ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดของกระทรวงสาธารณสุขต่ำกว่าความเป็นจริงมาก เพราะรายงานเฉพาะผลตรวจ RT-PCR ขอให้ดูตัวเลขของผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้ป่วยใส่ท่อหายใจ และผู้เสียชีวิตเป็นหลัก แนวโน้มกำลังเพิ่มขึ้นแน่นอน


ขณะที่ นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทย ระดับความรุนแรงยังอยู่ที่ระดับ 2 ยังเป็นสีเขียว หากเทียบกับสถานการณ์ตอนที่สายพันธุ์เดลตาระบาดเมื่อปีทีผ่านมา ซึ่งเป็นสีแดง ข้อมูลที่ติดตามเป็นหลักคือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาใน รพ.ที่มีปอดอักเสบและผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ  โดยขณะนี้ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจใกล้จะถึง 400 รายแล้ว  สถานการณ์ที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้เป็นในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล


ช่วงนี้ที่ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเป็นผลพวงจากการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเมื่อ 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 2 สัปดาห์ที่แล้วที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 ช่วงนี้จึงต้องปรับรูปแบบการรักษาให้เร็วขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยหนักให้น้อยลง


คาดการณ์ว่าสถานการณ์ระบาดรอบนี้จะสูงสุดช่วงหลังวันแม่ 12 ส.ค. 2565 ตัวเลขข้อมูลในส่วนต่างๆจะมากขึ้นกว่าปัจจุบันราว 1 เท่าตัว  โดยผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นก่อนจำนวนมาก จากนั้นจะมีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นตามมา


ทั้งนี้  หากสามารถควบคุมโรคได้ดี กลุ่มเสี่ยง 608 มีอาการไม่รุนแรงมากนักและจำนวนไม่มาก ก็อาจจะควบคุมโรคได้เร็ว ไม่กระจายต่อทั่วประเทศ  


ถ้าจะมีการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคก็ต่อเมื่อ 1. มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาใน รพ. เกิน 4,000 รายต่อวัน 2.ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ เกิน 400-500 รายต่อวัน ก็อาจต้องปรับมาตรการรักษา ให้ยาเร็วขึ้น ป้องกันโรคอื่นด้วย และ 3.ผู้เสียชีวิต เกิน 40 รายต่อวัน ถ้าเกินต้องมีมาตรการเพิ่มเติม


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/MzoY7eii9Ik

คุณอาจสนใจ

Related News