ระทึก 2 หนุ่มลูกพี่ลูกน้องคลั่งมีดพร้าไล่ฟันพ่อ สวาทบุกชาร์จสำเร็จ

เมื่อเวลา วันนี้ 6 ก.ค.65 ศูนย์วิทยุ สภ.กันตัง รับแจ้งเหตุว่ามีชายจำนวน 2 รายเกิดอาการคลุ้มคลั่ง 1 ในนั้นมีอาวุธมีดพร้ากำลังจะทำร้ายพ่อ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 14 ม.2 ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจ สภ.กันตัง พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลสถานตรัง และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศรีตรัง (SWAT.TRANG) จำนวน 7 นายนำโดย พ.ต.ต.ขวัญเจริญ ไกรทอง ผู้ควบคุมชุดฯ พร้อมไม้ง่ามและอุปกรณ์ครบ เข้าไปควบคุมสถานการณ์



ถึงที่เกิดเหตุพบนายแดง  อายุ 27 ปี มีอาการคลุ้มคลั่งโดยพูดจาบ่นเพ้อคนเดียวเรื่อยเปื่อย เอะอะเสียงดังแต่ไม่มีอาวุธแต่อย่างใด ส่วนอีกรายทราบชื่อคือนายกรกฎ หรือเจมส์ อายุ 27 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ถือมีดพร้านั่งเงียบแต่ขัดขืนไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้ ต้องอาศัยญาติคอยเกลี้ยกล่อมก่อนจะเดินมายังรถมูลนิธิฯ ในมือถือโกศใส่อัฐิไว้กอดไว้อย่างแน่นและแต่ยังขัดขืนไม่ยอมขึ้นรถ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ จะเข้าควบคุมตัวไว้ได้สำเร็จก่อนจำนำส่งไปยัง รพ.ตรังต่อไป ส่วนอีกรายเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวด้วย เนื่องจากไม่ได้มีอาวุธและไม่ได้ก่อเหตุอันตรายหรือรบกวนใครแต่อย่างใด



ขณะที่นางกัญญ์วรา อยู่บ้าน ถ.หนองยวน ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง อาชีพรับจ้างทั่วไป มีศักดิ์เป็นอา เล่าว่า มีเพื่อนบ้านโทรมาแจ้งว่าหลานได้คุ้มคลั่งอาละวาดและจะทำร้ายพ่อของตัวเอง ก่อนที่เพื่อนบ้านจะช่วยโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยจับ 10 วันก่อนหน้านี้ก็ได้พาไปรักษาตัวที่ รพ.กันตังแล้ว แต่ไม่ทันหายก็กลับมาบ้านก่อนจะกลับมาคลุ้มคลั่งรุนแรงอีกครั้ง ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 ที่หลานมีอาการคลุ้มคลั่งในช่วงระยะเวลา 3 เดือนก็มีการรักษามาโดยตลอดเมื่ออาการดีขึ้นก็กลับไปทำงานจนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว ปกติเวลาเกิดอาการคลุ้มคลั่งก็จะขี่รถ จยย.เวียนไปมา เข้าบ้านคนอื่นและพูดคุยกันแต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งอื่นๆเพราะหลานได้ถือมีดพร้า เสียงดังโวยวายและจะทำร้ายคนอื่น

นางกัญญ์วรา เล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้หลานเป็นเด็กดีปกติดีและเคยไปสอบคนทำกับข้าวในเรือน้ำมันอยู่ประมาณ 3 ปี หลังจากกลับมาก็เริ่มมีอาการดังกล่าวตั้งแต่ ต้นปี 2563 เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เคยพาไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้พบว่ามีปัสสาวะสีม่วงหรือไม่ได้พบว่ามีสารเสพติดแต่หลังจากนี้ตนก็อยากให้ทางโรงพยาบาลได้บำบัดรักษาให้หายขาดเพราะถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้นานๆไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวหรือคนในหมู่บ้านก็ต่างพากันหวาดผวาและกลัว ตนอยากให้หลานหายเป็นปกติเพราะรู้สึกสงสารพ่อของหลานต้องทำงานเหนื่อยและไม่เคยได้พักหลานเป็นคนกินเก่ง ต้องเสียเงินให้หลานมากกว่าปกติหลานจะอาศัยอยู่กับพ่อ โดยมีแม่และญาติห่างๆคอยแวะเวียนกัน