สังคม

รวบแล้วโจรกระดาษลังวัย 29 ปี ให้เมียวัย 65 เอาไปขายหาเงินผ่อนมือถือ

โดย taweelap_b

14 มิ.ย. 2565

576 views

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.65 เวลา 16.30 น. พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธี ภิญโญประการ รอง ผกก.สส. และฝ่ายสืบสวนร่วมจับกุม นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) หรือ บอล อายุ 29 ปี อาชีพรับจ้างก่อสร้าง ชาวต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง พร้อมของกลางถังแก๊สจำนวน 3 ถัง ถังแก๊สปิกนิก 1 ถัง เครื่องช่างน้ำหนัก 1 เครื่อง นกเขาจำนวน 5 ตัว พระเครื่องอีกหลายองค์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีดทำครัวและของกลางอื่น ๆ รวมหลายรายการ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณตลาดนัดชินตา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง


สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเกิดเหตุมีคนร้ายนำกล่องกระดาษลังปิดหน้า เข้ามาลักทรัพย์ภายร้านหมูย่างเจ๊อ้อย และร้านค้าใกล้เคียงอีกประมาณ 3 ร้าน บริเวณถนนตรัง-พัทลุง ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ในช่วง 01.00 น. ของวันที่ 10 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา จากนั้นฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองตรัง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง จนสามารถทราบข้อมูลคนร้ายได้เบื้องต้น ก่อนพบหลักฐานว่านายณัฐวุฒิ เป็นผู้ก่อเหตุ จึงวางแผนจับกุม


ต่อมาผู้ต้องหา มีการประกาศขายเครื่องปิ้งขนมปังในราคา 300 บาท ทางชุดจับกุมจึงทำการสอบถามพบว่าเป็นของที่ถูกลักขโมยไป จึงให้สายลับทำการล่อซื้อและมีการนัดส่งของที่ตลาดนัดชินตา เมื่อนายณัฐวุฒิมาถึง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ในที่สุด


นายณัฐวุฒิ ให้การรับสารภาพอ้างว่า จะใช้เวลาช่วงกลางคืนขี่ตระเวนออกลักทรัพย์ แต่จะเน้นร้านค้าริมถนน เมื่อลักขโมยของเสร็จก็จะนำของออกไปเก็บไว้ที่บ้าน ส่วนนกเขาที่มีก็ไปลักมาเลี้ยงเอง เพราะเป็นคนชอบนกเขา ก่อนหน้านี้ก็ทำงานรับจ้างก่อสร้าง แต่ตกงานมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว โดยของกลางตนจะให้ภรรยาอายุ 65 ปี เป็นคนไปขาย เงินที่ได้ก็จะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแล้วก็ผ่อนโทรศัพท์มือถือ


ขณะเดียวกันหลังการจับกุมนางชลนิชา ยอดเพชร อายุ 54 ปี เจ้าของร้านหมูย่างเจ๊อ้อย 1 ในผู้เสียหายได้เดินทางมาดูของกลาง เมื่อมาถึงนายณัฐวุฒิ ได้ยกมือไหว้ขอโทษนางชลธิชา ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายเคยให้ข้าวให้น้ำและช่วยเหลือมาก่อน พร้อมทั้งพูดว่า "ทีหลังอย่าทำแล้วนะ" จากนั้นได้เดินดูของกลางก็พบของที่หายจากร้านทั้งตาชั่ง Router มีด และเขียงที่ใช้สับหมูย่าง


นางชลธิชา กล่าวว่า ตอนแรกตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่สามารถจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ เพราะว่าผู้ต้องหาใช้กล่องกระดาษลังมาปกปิดหน้าตา ซึ่งความเสียหายที่ร้านก็ได้ซ่อมฝาร้านที่คนร้ายทุบเข้ามา และมีการติดกล้องวงจรปิดใหม่แล้ว ตีเป็นเงินก้อนเป็นหลักหมื่น การที่ตำรวจจับคนร้ายได้ตนก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก 


พ.ต.อ.เชื้อชาติ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ตามที่มีข่าวคนร้ายไปลักทรัพย์ภายในร้านค้าในเขตพื้นที่รอบนอกเทศบาลนครตรัง ซึ่งการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจากภาคประชาชน ที่คอยให้ข้อมูล จนทำให้เจ้าที่สามารถจับผู้ต้องหาได้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและสมัครใจที่จะนำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดก่อเหตุ จนสามารถยึดของกลางมาได้หลายรายการ


ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่าสำหรับผู้ต้องหารายนี้ มักก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมืองตรัง และ อ.นาโยง โดยส่วนใหญ่จะเลือกร้านค้าริมทาง โดยจะก่อเหตุลักทรัพย์ 5 วัน หยุด 2 วัน ก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์เมื่อปี 52 ล่าสุดเพิ่งนำถังแก๊สไปขายได้เงินมา 700 บาท และนกกรงหัวจุก 3 ตัว ขายตัวละ 400 บาท นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังมีนกเขานกเขาเปล้า ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ไว้ในครอบครอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการประสาน บก.ปทส.ต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้เสียหายที่เคยถูกคนร้ายรายนี้ลักทรัพย์ สามารถมาตรวจดูของกลางที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองตรัง

คุณอาจสนใจ