จับแล้ว! โจรชิงทอง 1 บาท อ้าง หาเงินแก้บน ไอ้ไข่วัดเจดีย์

จากกรณี พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ได้รับรายงานมีเหตุคนร้ายชิงทองร้านทอง บริเวณสะพานยกระดับข้ามถนน 5 แยกน้ำกระจาย ถนนกาญจนวานิชฝั่งขาเข้า ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา หลังรับรายงานจึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ


ที่เกิดเหตุร้านทองทวีทรัพย์เยาวราช มีพนักงานกำลังยืนรอให้การเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบคนร้ายเป็นวัยรุ่นชาย 1 ราย ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ รุ่น 110 สีฟ้าขาว ไม่ทราบป้ายทะเบียน ก่อเหตุชิงทองรูปพรรณหนัก 1 บาท 1 เส้น


จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบลักษณะของคนร้ายเป็นวัยรุ่นชายอายุประมาณ 30-35 ปี ใส่เสื้อเจ็คเก็ตสีแดง สวมกางเกงยีน รองเท้าแตะ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพียงคนเดียว ก่อนจอดรถไว้หน้าร้าน จากนั้นคนร้ายทำทีเดินเข้ามาในร้านขอพนักงานดูทองรูปพรรณ อาศัยใช้จังหวะพนักงานเผลอชิงทองไปได้ 1 บาท พร้อมยกมือไหว้ ก่อนเดินไปที่รถจักรยานยนต์และขับหลบหนีไป


ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสงขลา และชุดสืบสวนกองปราบปราม 6 ได้ร่วมกันจับกุมคนร้ายชิงทองรูปพรรณหนัก 1 บาท ได้ที่บ้านพักส่วนตัว พื้นที่เกาะยอ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เบื้องต้นทราบเป็นชายอายุ 29 ปี


จากการสอบถาม คนร้าย ให้การว่า สาเหตุที่ก่อเหตุนั้นมาจาก ไอไข่กุมารทองได้มาเข้าฝัน ให้หาเงินมาแก้บน หลังตนได้เดินทางไปที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ที่อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เพื่อบนบานศาลกล่าวเอาไว้ หลังตื่นจากฝันจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาพบร้านทอง จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น


ทางด้าน พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา เปิดเผยว่า พ.ต.อ.ภูวรา แก้วพารัตน์ ผกก.สภ.เมืองสงขลา ได้กล่าวหลังจากจับตัวคนร้ายได้ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 08.40 น. โดยชายที่ก่อเหตุทำทีจะเข้ามาขอซื้อทอง และมีการขอดูทองราคา 5 บาท แต่เจ้าของมีสัญชาตญาณ เลยให้ดูแค่ทีละบาท ตอนนั้นที่ชายคนก่อเหตุจะขอดูทองอีกเส้นหนึ่ง ทางคนขายจึงได้เอาเส้นในมือกลับมาก่อน แต่หลังจากที่ดูอยู่นั้น ก็ได้ยกมือไหว้เจ้าของร้านและวิ่งหลบหนีขี่จักรยานยนต์ออกไป ส่วนสาเหตุที่ได้ก่อเหตุลงมือทำนั้น เพราะเกิดจากความคึกคะนองของวัยรุ่น


ในเรื่องจับตัวคนร้ายได้เร็ว ก็ต้องขอขอบคุณคนขายของที่ให้ถอดแมสก์ เพราะทำให้สามารถเห็นภาพทันที และตรวจสอบเส้นทางที่หลบหนี คือมุ่งหน้าไปทางเกาะยอ ฝ่ายสืบสวนของสภ.เมืองสงขลา กับกองปราบปรามรวมกันทั้ง 2 ทีม จึงลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง และสืบทราบได้ว่าอยู่บ้านหลังดังกล่าว จึงเข้าไปนำตัวมาทันที ซึ่งขณะจับกุมไม่ได้มีการขัดขืนแต่อย่างใด


อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่นำตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา พร้อมของกลางสร้อยทองรูปพรรณ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป