สังคม

ชาวไร่สับปะรดปิ้งไอเดียเพิ่มราคา จากโลละ 3 ดีดเป็น 50 บาท

โดย taweelap_b

3 มิ.ย. 2565

570 views

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 65 นางสาวหล้า เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ต้องช่วยกันปอกสับปะรดพันธุ์ภูแล เพื่อขายให้กับลูกค้าได้เลือกซื้อไปรับประทานในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ให้ทันต่อความต้องการ โดยนางสาวหล้า กล่าวว่า เป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เมื่อเปรียบเทียบกับการขายสับปะรดภูแล ที่จ.เชียงราย เพราะมีการปลูกและปอกวางขายกันเป็นจำนวนมาก และยังขายได้ในราคาถูกอีกด้วย


บรรยากาศการขายสับปะรด พบว่าลูกค้าชาวจ.พิษณุโลก ต่างให้ความสนใจ หมุนเวียนกันเข้ามาสอบถามและเลือกซื้อสับปะรดภูแล ที่วางจำหน่าย 2 รูปแบบ คือ แบบยังไม่ได้ปอก ขายกิโลกรัมละ 15 บาท 5 กิโลกรัม 60 บาท และแบบปอกให้ ขายกิโลกรัมละ 50 บาท ซึ่ง แบบปอกให้เลย จะขายดีมาก ปอกกันแทบไม่ทัน ถึงแม้ว่าจะเตรียมปอกมาจากบ้านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องคอยปอกเพิ่มตลอด นอกจากนี้ยังมีคนมาขอซื้อราคาส่งนำไปขายต่อด้วย


นางสาวหล้า กล่าวด้วยว่า ตนและครอบครัวเป็นเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด บ้านป่ากุ๊ก ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ได้รับผลกระทบจากปัญหาราคา สับปะรดตกต่ำ เนื่องจากโรงงานไม่รับซื้อเหมือนเมื่อก่อน เพราะยังไม่สามารถส่งออกไปประเทศจีนได้ จึงทำให้สับปะรดที่เคยส่งขายให้โรงงาน ในราคากิโลกรัมละ 10 - 12 บาท ปัจจุบัน กิโลกรัมละ 3 บาท ก็ยังไม่มีคนรับซื้อ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลทำให้เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในพื้นที่บางคน ยอมทิ้งสับปะรด เป็นปุ๋ยให้เน่าคาไร่ เพราะเมื่อถึงเวลาเก็บผลผลิต หากโรงงานรับซื้อกิโลกรัมละ 3 บาท จะมีต้นทุนค่าตัดกิโลกรัมละ 1 บาท และค่าขนส่งอีกกิโลกรัมละ 1 บาท เกษตรกรจะมีรายได้เพียง 1 บาทต่อกิโลกรัม


แต่การปลูกสับปะรดรุ่นหนึ่ง จะมีต้นทุนต่อไร่ประมาณ 15,000 บาท จึงไม่คุ้มต้นทุน เพราะสามารถเก็บสับปะรดได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น ดังนั้น จึงได้ตระเวนออกมาจากจ.เชียงราย จนมาพบว่าที่จ.พิษณุโลก สามารถขายสับปะรดได้ราคาดี ถึงแม้ว่าจะปรับราคาขาย ต่อกิโลกรัมขึ้น จากตอนแรกกิโลกรัมละ 8 บาท เป็นกิโลกรัมละ 15 บาท เพราะราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม นางสาวหล้า และครอบครัว เตรียมปักหลักเช่าบ้านที่จ.พิษณุโลก เพื่อนำเอาสับปะรดภูแลของเธอและญาติพี่น้องที่ปลูกในไร่รุ่นกัน นำเอามาขายที่จ.พิษณุโลกต่อไป 

คุณอาจสนใจ