สังคม

แพทย์ยืนยัน แม่ค้าส้มตำเป็นอาสาวิจัยวัคซีน แต่ยังสรุปสาเหตุผิวหนังพุพอง ไม่ได้

โดย paranee_s

17 พ.ค. 2565

270 views

ความคืบหน้า กรณี นางเพ็ญนภา สุขอินทร์ อายุ 35 ปี แม่ค้าส้มตำ ชาวอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี เกิดอาการผิดปกติ มีแผลพุพองขึ้นทั่วตัว ผิวหนังหลุดลอก ได้รับความเจ็บปวดทรมาน จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่สามารถสวมเสื้อผ้าหรือนอนบนที่นอนปกติได้ ต้องใช้ใบตองมารองร่างกายเพื่อรับน้ำ หนองที่ไหลออกจากแผล และยังต้องหยุดขายของจนขาดรายได้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก


โดยอาการดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก นางเพ็ญนภา ได้รับจ้างให้ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่โรงพยาบาลในตัวเมือง จ.กาญจนบุรี โดยได้รับค่าจ้างในการฉีดวัคซีนเข็มแรก 1,000 บาท และได้รับเงินค่าตอบแทนในการเดินทางไปตรวจสุขภาพหลังการฉีดวัคซีนอีกครั้งละ 1,000 บาท รวม 6 ครั้งเป็นเงินจำนวน 7,000 บาท


แต่หลังจากฉีดวัคซีน และไปรับการตรวจสุขภาพได้ถึงครั้งที่ 4 นางเพ็ญนภา เริ่มมีอาการป่วยผิวหนังหลุดลอก เป็นแผลพุพอง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ทางนางสาวพลอย ธนิกุล เลขานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยมดูอาการพร้อมให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น รวมถึงประสาน โรงพยาบาล ให้ทราบถึงอาการเจ็บป่วยของนางเพ็ญนภา


ล่าสุด ทางโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ได้รับตัวนางเพ็ญนภา เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว โดยนายแพทย์รักษ์พงศ์ เวียงเจริญ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า นางเพ็ญนภา เป็นหนึ่งในอาสาสมัครโครงการวิจัย เพื่อประเมินผลความปลอดภัย ปฏิกิริยาตอบสนอง และผลการสร้างภูมิคุ้มกัน ของวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ชนิดเชื้ออะดีโนไวรัส26 (Ad26CoVS) โดยการฉีดกระตุ้น หลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย มาแล้ว 1-2 เข็ม ซึ่งเป็นโครงการวิจัยที่ผ่านกระบวนการ ระเบียบวิธีวิจัย รวมถึงการผ่านการรับรองจริยธรรมวิจัย โดยคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมวิจัยในคน และคณะกรรมการวิจัยประจำสถาบันเรียบร้อยแล้ว


โครงการนี้มีอาสาสมัครในการวิจัยมากกว่า 300 คน การศึกษาในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์วัคซีนคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี โดยมี แจนเซ่น เอเชีย แปซิฟิก ประเทศสิงคโปร์ เป็นผู้ให้ทุนวิจัย และสนับสนุนวัคซีนวิจัย


ส่วนอาการที่นางเพ็ญนภา เกิดมีแผลพุพองและผิวหนังหลุดลอกนั้น จากการตรวจสอบยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่าเป็นผลข้างเคียงมาจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ เนื่องจากในอาสาสมัครที่เข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวนกว่า 300 คนนั้น มีนางเพ็ญนภาเพียงรายเดียวที่มีอาการผิดปกติในลักษณะดังกล่าว เมื่อแพทย์ทำการตรวจสอบบาดแผลพุพองและผิวหนังที่หลุดลอกนั้น พบว่าเป็นการหลุดลอกที่ผิวหนังชั้นที่ 1 อันมีสาเหตุมาจากการที่มีเซลล์ไปกระตุ้นอาการภูมิแพ้ ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น ซึ่งอาการชนิดนี้ มักจะพบในผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง


อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวสามารถรักษาให้หายได้ โดยผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในความดูแลของแพทย์ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการรักษาประมาณ 4 สัปดาห์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษานั้น ทางโครงการวิจัยมีการตกลงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ให้กับอาสาสมัครที่เกิดอาการป่วย หรือมีอาการผิดปกติรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว


โดยหลังจากนี้ นางเพ็ญนภา จะเข้ารับการรักษา อยู่ที่หอผู้ป่วยพิเศษโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เพื่อรับการดูแลรักษาจากแพทย์อย่างใกล้ชิดจนกว่าจะหายเป็นปกติ ซึ่งในส่วนของการช่วยเหลือ หรือเยียวยานั้น จะมีการประสานไปยังผู้ดูแลโครงการวิจัย ให้พิจารณาการให้ความช่วยเหลือนางเพ็ญนภาต่อไป


ด้านนางสาวพลอย ธนิกุล เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือ และ ประสานนำตัวนางเพ็ญนภา เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล กล่าวว่า จากการติดตามข้อมูลของอาสาสมัคร ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มดังกล่าวจำนวนกว่า 300 คน ซึ่งมีผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ อ.ท่ามะกา พร้อมกับนางเพ็ญนภาเป็นจำนวนมากนั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีรายใดที่มีอาการผิดปกติหลังการฉีดวัคซีน


อย่างไรก็ตามหากผู้ที่ไปรับการฉีดวัคซีนพร้อมกับนางเพ็ญนภา แล้วมีอาการผิดปกติ สามารถติดต่อมาที่ตนเอง หรือทีมงานผ่านทางเฟซบุ๊ก ‘พลอย ธนิกุล’ ได้ทันที เพื่อที่ตนเองและทีมงานจะได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล และประสานกับทางโรงพยาบาลนำตัวมาตรวจรักษาอาการตามลักษณะอาการที่พบต่อไป



คุณอาจสนใจ

Related News