สังคม

สองแม่ลูก ลั่นไม่ต้องการทำลายพุทธศาสนา เล่าเหตุถูกจับหน้าอก ยันพระลูกศิษย์ให้ขึ้นไปนั่งข้างบนได้

โดย thichaphat_d

13 พ.ค. 2565

8.7K views

สองแม่ลูกอ้างถูก ‘หลวงปู่แสง’ พระเกจิดังลวนลามดึงตัวไปกอดจับหน้าอกและของลับ ลั่นหมดศรัทธา ไม่ต้องการทำลายพระพุทธศาสนา ไม่ได้โกหกไม่อยากให้คนอื่นถูกกระทำเช่นนี้ ยันไม่ได้ใส่ร้ายต้องฟังอย่างมีสติ นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น “จะกลั่นแกล้งให้เกิดบาปกรรมทำไม”


จากกรณีที่ หมอปลา-จีระพันธ์ เพชรขาว หรือมือปราบสัมภเวสี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ และฝ่ายปกครอง บุกเข้าตรวจสอบ หลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 98 ปี พระเกจิชื่อดัง ที่อาศัยอยู่ในที่พักสงฆ์ พื้นที่บ้านดงสว่าง ต.โคกนาโก จ.ยโสธร

โดยมีการกล่าวหาว่า หลวงปู่แสง ลวนลามญาติโยมที่เป็นหญิงสาว ที่มีการโน้มตัวเข้ามาลูบศีรษะยื่นมือคล้ายจับแก้ม พร้อมเปิดคลิปหลักฐาน ซึ่งระหว่างลงพื้นที่จะพบว่า หลวงปู่แสงที่อยู่ในวัยชราไม่สามารถพูดตอบโต้ได้ โดยทางลูกศิษย์ชี้แจงว่า หลวงปู่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ หากหลวงปู่ทำอะไรไปจะไม่รู้ตัว

วานนี้ (12 พ.ค.) สองแม่ลูกอ้างเป็นผู้เสียหายเช่นกัน (ไม่ใช่คนถ่ายคลิป/หรือคนในคลิปที่ปรากฎตามข่าว) โดยนางจอย (นามสมมุติ) ผู้เป็นแม่ อายุ 60 ปี  เผยกับทีมข่าวว่า ครอบครัวของตนศรัทธาในพระพุทธศาสนาชอบไปทำบุญ โดยสามีได้ติดตามประวัติของหลวงปู่แสง เป็นพระอริยบุคคลท่านหนึ่ง ในวันเกิดเหตุช่วงเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ตนเอง สามี และลูกสาวได้ไปทำบุญที่วัดของหลวงปู่แสง กราบไหว้ท่านด้วยใจศรัทธาล้วน ๆ

ไปถึงที่วัดเจอหลวงปู่แสง และมีพระอีก 2 รูปนั่งอยู่ข้าง ๆ ตนทำบุญไป 2,000 บาท โดยได้นั่งพื้นกระเบื้องข้างล่างเป็นที่ต่างระดับ หลวงปู่แสง นั่งข้างบน ยืนยันไม่ได้ถ่ายคลิปหรือถ่ายภาพใด ๆ ทั้งสิ้น คลิปที่ปรากฎน่าจะเป็นผู้เสียหายคนอื่น ตอนที่ตนไปไม่คิดว่าจะเหตุการณ์เช่นนี้ ระหว่างที่นั่งอยู่ข้างล่าง หลวงปู่แสง เรียกให้ขึ้นไปนั่งข้างบน ตนจึงบอกให้สามีขึ้นไปนั่งเพราะเป็นผู้ชาย ตนเองกับลูกสาวจะนั่งข้างล่าง โดยหลวงปู่แสงแค่ตบไหล่

จากนั้นก็เรียกให้ตนกับลูกสาวขึ้นไปนั่งบริเวณที่หลวงปู่นั่งอยู่ ตนถามว่าขึ้นไปนั่งเทียบเท่ากับพระได้เหรอ ซึ่งพระที่นั่งข้างๆ บอกว่า “ขึ้นมาเลยโยม ขึ้นได้ไม่เป็นไร” และหลวงปู่แสง ก็พูดว่า “ขึ้นได้” ตนจึงขึ้นไปนั่งแล้วก้มกราบหลวงปู่แสง โดยหญิงวัย 60 ปี รายนี้อ้างว่า หลวงปู่แสง ได้ใช้มือของท่านจับมือของตนแล้วบีบๆ  ตนจึงพยายามถอยหลังออกมา จากนั้นหลวงปู่ ได้เรียกลูกสาววัย 25 ปี ของตนเข้าไปหา พอกราบเสร็จลูกสาวก็ขยับถอยออกมา จากนั้นหลวงปู่ก็เรียกให้ตนเข้าไปหาอีกครั้ง

หญิงวัย 60 ปี รายนี้ยังอ้างอีกว่า “ภาพเหตุการณ์วันนั้นยังฝังอยู่ในหัว เสียความรู้สึกอยู่ทุกวันนี้ เราไม่ได้คิดล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ขอความเป็นธรรมกับเราด้วย เราไม่ได้อยากให้มันเกิดแต่ถูกดึงเข้าไป พระที่นั่งข้างๆ บอกขยับเข้าไปได้โยม เราก็เอะใจพยายามที่จะไม่เข้า แต่หลวงปู่ดึงเข้าไปใกล้ๆ ขณะเดียวกันมือของหลวงปู่ก็จับทันทีทั้งข้างบนข้างล่างอย่างรวดเร็ว จับหน้าอกไม่ได้ล้วงเข้าไปข้างในเพราะเราใส่เสื้อยืดมิดชิด และจับอวัยวะเพศ เราก็เอามือป้องไว้ดันตัวออกมา”

ขณะที่พระรูปอื่นนั่งอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ตนตกใจมาก ไม่ใช่ว่าเราอยากโดนกระทำ แต่เป็นเหตุการณ์ที่พาเราไปทำให้เกิดขึ้น มีคนแย้งว่าเป็นผู้หญิงทำไมปล่อยให้พระทำ ขอยืนยันไม่ใช่สักนิด แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยที่ตนไม่ได้คิด ไม่สามารถแก้สถานการณ์ได้ในขณะนั้น ทำได้เพียงดันตัวเองออกมาให้ห่างจากการกระทำเช่นนั้น อึ้งทำอะไรไม่ถูก กราบลาพระเสร็จก็เดินออกมาจากวัด ก็ถามลูกสาวว่า “หนูโดนอะไรบ้างมั้ยตอนที่กราบหลวงปู่” ลูกสาวบอก “หนูโดนจับหน้าอก” ตนจึงร้องอุทานออกมา “เฮ้ย! ทำกับเราไม่พอ ทำกับลูกเราด้วยเหรอ”

หญิงวัย 60 ปี  กล่าวต่อว่า “ขอความเห็นใจจากทุกคนด้วย เราไม่ต้องการทำลายพระพุทธศาสนา สิ่งที่เราพูดไม่ได้โกหก ไม่อยากให้คนอื่นมาถูกกระทำเช่นนี้ อยากให้ยุติการกระทำ เพราะถ้าท่านทำอย่างนี้ศีล 5 ท่านก็ไม่ครบแล้ว”

สามีของตนพูดว่า เสียใจมากที่พาลูกและภรรยามาเจอเรื่องแบบนี้ “เราหมดศรัทธา วัตถุมงคลที่ได้จากท่าน เรานำโยนทิ้งลงแม่น้ำหมด เพราะเป็นของไม่บริสุทธิ์ อย่าเอาไปให้คนอื่นเลย จะเป็นตราบาปในใจเรา ตั้งปฏิญาณจะไม่เดินกลับไปที่วัดนั้นอีกเด็ดขาด”

การที่ตนออกมาพูดครั้งนี้ อยากให้ทุกคนทราบว่าการที่เราจะไปทำบุญต้องมีสติ เราขาดสติ ตนหลงว่าจะต้องไปหาพระเกจิอาจารย์ดัง ๆ มันจึงเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นมันไม่ถูกต้อง “ตนไม่กล้าการันตีว่าท่านทำเพราะไม่รู้ตัว แต่พฤติกรรมที่ท่านทำไม่มีพฤติกรรมว่าจะเป็นอัลไซเมอร์ มีสติสัมปชัญญะทุกอย่าง บางคนโจมตีตนว่าใส่ร้ายท่าน ยืนยันไม่ได้ใส่ร้าย ต้องฟังอย่างมีสติ นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น”

ทั้งนี้ “ในใจจริงไม่อยากทำถึงขนาดนั้นว่าต้องสึก ท่านเป็นพระที่แก่อายุเยอะแล้ว เราไปให้ท่านสึกแล้วชีวิตท่านจะเป็นอยู่ยังไง ใคระดูแลท่าน แต่เราก็คิดว่าทำไมพระรูปอื่นๆ ไม่ช่วยบอก คนอื่นไม่รู้แต่ตัวท่านรู้ ถ้าไม่มีความเกรงกลัวต่อบาปละอายแก่ใจท่านตกนรก โชคดีแล้วที่เจอพวกเราที่เตือนให้หยุดยั้งการกระทำเช่นนี้ ท่านต้องมีสติว่าทำถูกต้องมั้ย ไม่มีใครกลั่นแกล้ง จะกลั่นแกล้งให้เกิดบาปกรรมทำไม”

ด้านลูกสาววัย 25 ปี เผยว่า หลวงปู่เป็นคนเรียกเอง เรียกตนเองกับแม่ขึ้นไปแต่ตนเองรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่ควรขึ้นไป แล้วพ่อก็หันไปถามแล้วว่าขึ้นได้หรือครับ พระลูกศิษย์ก็บอกว่า “ขึ้นได้เลยขึ้นได้เลยโยมหลวงปู่ท่านเมตตา” พอขึ้นไปก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นโดนจับหน้าอก ตอนนั้นรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่การเอ็นดูหรือเมตตา เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับเรา ยิ่งสถานที่เกิดขึ้นในวัดมันไม่ควรจะเกิดขึ้น

ตอนนั้นที่ขึ้นไปเพราะเกรงใจพระ และครอบครัวก็ศรัทธามากจึงขึ้นไป เราก็รู้อยู่ว่าพระแตะต้องตัวสีกาไม่ได้ แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ตอนนั้นคิดเยอะไปหมด เราจะต้องทำอะไรจะโวยวายไหมหรือควรจะทำแบบไหน ถ้าหลวงปู่ท่านป่วยก็ต้องมองย้อนกลับไปลูกศิษย์ที่ดูแลว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จุดนั้นมีป้ายห้ามถ่ายภาพ  คลิปที่ปรากฎฝ่ายตนเองไม่ได้ถ่าย

“หนูมองว่าเป็นผู้หญิงนั่งเสมอกับพระไม่เหมาะสมอยู่แล้ว รู้ว่าสีกาเข้าใกล้พระไม่ได้ ขึ้นไปเพราะหลวงปู่และพระเลขาฯ เรียกขึ้นไปนั่ง ตอนก้มกราบหลวงปู่ ใช้มือข้างหนึ่งกอด และใช้มืออีกข้างสอดเข้ามาจับหน้าอก  หนูตกใจจึงปัดมือท่านออก พ่อกับแม่ไม่เห็น มันไม่มีเหตุจำเป็นที่ตนต้องไปใส่ร้าย การที่ออกมาพูดไม่ได้เสียประโยชน์อะไร มันกระทบจิตใจเรา เราไปด้วยศรัทธา”    


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/T8m9BAby3Hk

คุณอาจสนใจ

Related News