สังคม

'ปริญญ์' เดินสายโรงพัก รับทราบข้อหาอนาจาร เหยื่อเล่าถูกกระทำ ตอนฝึกงานเมื่ออายุ 17

โดย thichaphat_d

6 พ.ค. 2565

9 views

วานนี้ (5 พ.ค. 65) อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้ารับทราบข้อหาที่ สน.ห้วยขวาง ฐานกระทำอนาจารอดีตนักศึกษาฝึกงาน ระหว่างขับรถไปส่งยังสถานีรถไฟฟ้า เหตุเกิดเมื่อปี 2562 ซึ่งนับเป็นคดีที่ 6 แล้ว จากทั้งหมด 12 คดี


นาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้ารับทราบข้อหา พรากผู้เยาว์เพื่อกระทำอนาจาร และ กระทำอนาจารต่อธารกำนัล กรณีกระทำอนาจารนักศึกษาฝึกงาน ระหว่างขับรถไปส่งยังสถานีรถไฟฟ้า เหตุเกิดเมื่อปี 2562 นายปริญญ์ เดินทางมาถึง สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่ 08.10 น. ก่อนจะเดินเข้าไปพบพนักงานสอบสวนทันที และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน


สำหรับผู้เสียหายคนนี้ ปัจจุบันอายุ 21 ปี ตอนเกิดเหตุเมื่อปี 2562 เธออายุแค่ 17 ปี เท่านั้น เธอเป็นนักศึกษาฝึกงาน อ้างว่า นายปริญญ์ อาสาขับรถมาส่งที่รถไฟฟ้า แต่ระหว่างทางที่อยู่บนรถพยายามลวนลามเธอโดยการจับของสงวน ต้นขา


พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่าง ยื่นฝากขังผู้ต้องหาผัดแรกที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์พร้อมคัดค้านประกันตัว


ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาของศาล หากศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวก็จะแจ้งมายังผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง และให้ปล่อยตัวที่ สน.ได้ทันที ขณะที่ทนายความของผู้ต้องหา เดินทางไปยื่นหลักทรัพย์ ขอปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลอาญารัชดาแล้ว


พลตำรวจตรีไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกโดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่งได้ศาลได้รับฝากขังผัดแรก เป็นจำนวน 12 วันแล้ว ต่อมาศาลอาญาให้ประกัน นายปริญญ์ โดยตีราคาประกัน 2 เเสนบาทพร้อมตั้งเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล


ซึ่งทนายความของปริญญ์จึงยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาล


โดยภายหลังที่มีผลการ ให้ประกันตัวจากศาล นายปริญญ์ ได้เดินทางลงจากสน. ห้วยขวางก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปขึ้นรถที่จอดรออยู่บริเวณริมถนนหน้าสน.โดยไม่มีการ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่อยู่ระหว่างการเฝ้ารออยู่ที่บริเวณหน้าสน. ห้วยขวางแต่อย่างใดโดยมีเพียงการพยักหน้า ตอบรับเมื่อสื่อสอบถามว่าพรุ่งนี้จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สน. ลุมพินี ใช่หรือไม่โดยเจ้าตัวมีการพยักหน้าหนึ่งครั้ง เดินขึ้นรถ ก่อนจะปิดประตู และขับออกไป


โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2561 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี 2 เดือน ซึ่งเรียนจบ ม.6 ระหว่างรอเพื่อเตรียมตัวเรียนต่อชั้นมหาวิทยาลัย ได้พบโฆษณาการอบรมโครงการ “โตแล้ว ไปไหน” โดยบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งมีหลักสูตรในการอบรมหลายแผนกตามที่ใครสนใจ


น.ส.เอ สนใจที่จะศึกษาแนวทางการทำงานเกี่ยวกับ “หลักทรัพย์และการลงทุน” จึงขออนุญาตบิดาและผู้ปกครองสมัครเข้าอบรมหลักสูตรดังกล่าว แล้วไปทำการเช่าห้องพักคอนโดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ เขตราชเทวี หากต้องการไปไหนกับใคร ต้องขออนุญาตก่อนเสมอ


ซึ่งหลักสูตรนี้ยังมีคนอื่นเข้าร่วมอบรมด้วย รวมเป็น 2 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2561 ได้ ถูกส่งมาอบรมที่ บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน ซึ่งมีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร จึงได้จัดให้มีนายปริญญ์เป็น “พี่ต้นแบบอาชีพ”


ต่อมาในวันที่ 25 เม.ย. 2561 นายปริญญ์ ไปเป็นพิธีกรบรรยายเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนและตลาดหลักทรัพย์ จึงให้ น.ส.เอ และเพื่อนออกมา ฝึกงานนอกสถานที่โดยในวันดังกล่าว น.ส.เอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้น กระโปรงสีดำสั้น จนเมื่อเสร็จงานเวลา ประมาณ 15.00 น. นายปริญญ์ ได้ให้เพื่อนของ น.ส.เอ แยกกลับบ้านไป แล้วได้พูดชักชวนจะไปส่ง น.ส.เอที่คอนโดที่พักโดยรถยนต์ส่วนบุคคลคล้ายรถตู้สีดำ จำทะเบียนไม่ได้ แต่ น.ส.เอ ไม่ยินยอม


นายปริญญ์ จึงอาสาจะไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อโศก เนื่องจากเห็นว่าเป็น “พี่ต้นแบบอาชีพ”ที่มาฝึกอบรมอยู่และจะต้องเป็นผู้ประเมินการฝึกอบรม จึงยินยอมให้ไปส่ง


นายปริญญ์ ได้พาไปขึ้นรถที่บริเวณหน้าอาคารตลาดหลักทรัพย์ โดยในรถมีพนักงานขับรถประจำที่นั่งคนขับไม่มีกระจกกั้นระหว่างคนขับกับห้องผู้โดยสาร ซึ่งสามารถได้ยินการพูดคุยกันได้ชัดเจนหรือหากหันกลับมาดู ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ระหว่างที่ น.ส.เอ นั่งเบาะด้านหลังคนขับ ส่วนนายปริญญ์ นั่งคู่กับ น.ส.เอ


เมื่อรถขับออกมาเข้าถนนรัชดาภิเษกแล้วกลับรถขับไปตามถนนรัชดาภิเษกมุ่งหน้าด้านอโศก นายปริญญ์ได้ชวนพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากเกรงว่าคนขับรถจะรู้เรื่องที่คุยกัน


โดยสอบถามว่าเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหรือไม่ เคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟนมาแล้วกี่คน เคยมีเพศสัมพันธ์แบบชั่วคราว หรือความสัมพันธ์แบบคนเดียวหรือไม่ และพูดขอมีเพศสัมพันธ์


ออกอุบายชักชวนให้ไปทานข้าว ชวนไปดื่มแล้วจะไปเปิดห้องกันต่อ และทำการใช้มือมาจับแขนลูบแขนแล้ว จับบริเวณต้นขาลูบไล้ไปมา พร้อมทั้งโอบกอดและเอาใบหน้าเข้ามาใกล้หน้าของ น.ส.เอ พยายามหอมแก้มหลายครั้ง น.ส.เอพยายามบ่ายเบี่ยง เอียงตัวหนีมาตลอดทาง


ขณะนั้นเป็นเวลาที่มีการจราจรติดขัด และเป็นถนนสาธารณะมี รถยนต์วิ่งอยู่บนถนนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจมองเข้ามาในรถและเห็นเหตุการณ์ได้ น.ส.เอต้องอยู่ในรถดังกล่าวกับนายปริญญ์นานประมาณ 45 นาที เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส อโศก จึงขออนุญาตลงจากรถ


หลังจากนั้น น.ส.เอ เกรงว่าหากไปฝึกอบรมอีก อาจจะเกิดอันตรายและจะถูกนายปริญญ์ลวนลามหรือกระทำอนาจารทางเพศอีก เพราะเห็นว่านายปริญญ์มีเจตนาที่จะหาโอกาสเข้ามาใกล้ชิดตัวเองเพื่อทำอนาจาร หรือหากำไร และอาจถึงขั้นข่มขืนกระทำชำเราเมื่อมีโอกาส จึงไม่กล้าจะกลับไปฝึกอบรมอีก


จึงโทรศัพท์ไปแจ้งถอนการฝึกอบรมกับ บริษัทจนเมื่อ ประมาณวันที่ 14-15 เมษายน ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ น.ส.เอ อยู่บ้านกับบิดา พบว่ามีการ นำเสนอข่าว ของผู้เสียหายที่ถูกนายปริญญ์ กระทำอนาจาร ทางโทรทัศน์ น.ส.เอ จึงเล่าให้บิดาฟัง จากการกระทำ ดังกล่าวทำให้ น.ส.เอได้รับความอับอาย และหวาดกลัวในการที่จะต้องทำงานร่วมกับเพศชาย ได้รับความเสียหายจึง มาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด


เหตุเกิดที่ ในรถยนต์ส่วนตัวจากบริเวณอาคารเลขที่ 93 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2561


ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหามาโดยตลอด หากแต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจาก จะต้องสอบพยานจำนวน 3 ปาก, รอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหามาประกอบสำนวน การสอบสวนเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป ประกอบกับพนักงานสอบสวนเห็นว่ามีเหตุที่ จึงขออนุญาตศาลฝากขังผู้ต้องหาครั้งเเรก มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 5-16 พ.ค. 65


หากผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราว ของผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง


ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ภายหลังผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 2 เเสนบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล


ต่อมาเวลา 14.45 น. ที่ สน.ห้วยขวาง ภายหลังศาลอาญาอนุญาตปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกัน 200,000 บาท โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาตจากศาล นายปริญญ์ พร้อมทีมทนายความ เดินทางกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยไม่ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนแต่อย่างใด


ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.ดูแลด้านกฎหมายและคดี กล่าวว่า ผู้กล่าวหาได้กล่าวหาว่าถูกผู้ต้องหากระทำอนาจารและพรากผู้เยาว์ ส่วนในวันที่ 6 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. สน.ลุมพินี ได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหากระทำอนาจาร โดยเป็นเป็นคดีที่ 5 ที่มีการดำเนินคดี ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล


และบอกว่า ทั้งนี้ อีก 5 คดีที่เหลือ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยแต่ละคดีไม่สามารถรวมสำนวนได้ ต้องแยกเป็นต่างกรรมต่างวาระ


ส่วนการที่ผู้ต้องหาเตรียมแจ้งความผู้กล่าวหากลับ เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้เช่นกัน และเป็นหน้าที่ของตำรวจในการรวบรวมพยานหลักฐานทั้ง 2 ฝ่าย และเสนอความเห็นไปยังอัยการ ซึ่งตำรวจก็ต้องทำตามหน้าที่

คุณอาจสนใจ

Related News