สังคม

'หมอปลา' ปะทะ 'ตำรวจ' หลังเหยื่อร้อง แม่หมอพ่วงขายตรง สบู่อาบแล้วรวย

โดย thichaphat_d

25 มี.ค. 2565

117 views

นางสาวพัชรีรัตน์ อภิเดชเจริญภัคดี อายุ 53 ปี เล่าว่า เธอได้รู้จักกับอาจารย์ทิชา ซึ่งเป็นแม่หมอลงนะหน้าทอง โดยเพื่อนในเฟซบุ๊กแนะนำว่า อาจารย์คนนี้มีความสามารถพิเศษในการดูดวง เสริมดวง โดยการให้บทสวดมนต์ที่ตรงกับดวงตัวเอง


เธอจึงสนใจติดต่อขอดูดวงทางโทรศัพท์ ในราคา 999 บาท  เริ่มจากการเปิดไพ่ แล้วรู้สึกว่าหมอดูคนนี้ทักมาแม่น ตรง ทักว่าดวงการค้าขายกำลังมา ให้เริ่มธุรกิจขายของออนไลน์ จากนั้นอาจารย์ทิชาหลอกล่อให้สั่งผลิตภัณฑ์ที่ตัวแม่หมอเป็นผู้ผลิต และจำหน่าย คือ สบู่น้องร้อยล้าน เมตตามหานิยม เสริมดวงการงาน ครีมกันแดด เมตตามหาเสน่ห์ เสริมโชคลาภ บารมี


นอกจากนี้ ยังหลอกล่อให้สักลายมือก่อน เพื่อเสริมดวงการค้าขาย ก่อนจะรับผลิตภัณฑ์จากอาจารย์ทิชาไปขายต่อ ทำให้เธอเองหลงเชื่อจึงได้ทำการสั่งซื้อสบู่เป็นล็อตแรก จำนวนเงินประมาณ 4 แสนบาท ล็อตที่ 2 สั่งซื้อครีมกันแดด เป็นเงินประมาณ 3 แสนบาท


โดยหลังจากได้สินค้ามาแล้ว กลับขายไม่ดี จึงติดต่อไปที่อาจารย์ทิชาอีกครั้ง อาจารย์จึงแนะนำและพาเดินสายทำบุญเพื่อเป็นการเสริมดวง และทำพิธีบวงสรวง ลักษณะเหมือนพิธีชิงเปรต ที่บ้านของตนเอง ซึ่งอาจารย์ทิชาบอกว่า การแย่งกินของบวงสรวง จะช่วยส่งบุญให้ถึงเทวดา เธอจึงเชื่อ สุดท้ายสูญเงินไปอีกประมาณ 2 แสนบาท ส่วนสต๊อกสบู่และครีมยังอยู่เต็มบ้าน ขายไม่ได้


จากนั้นเธอขอให้อาจารย์ทิชาซื้อสินค้าคืน แต่อาจารย์ก็เงียบหายไป พยายามติดต่อก็ไม่ยอมคุยด้วย จึงมาร้องเรียนกับหมอปลา และทนายไพศาล


ด้าน ทนายไพศาล พาผู้เสียหายไปเจรจากับอาจารย์ทิชา แต่ปรากฏว่าอาจารย์ทิชาไม่ออกมาเจรจาด้วย แต่ให้คุยกับทนายความผ่านทางโทรศัพท์ โดยทนายของอาจารย์ทิชาบอกว่า อาจารย์ไม่สบายใจที่จะออกมาเจรจา โดยที่ไม่มีทนายความของตัวเองมาอยู่ด้วย พร้อมกับขอเบอร์โทรศัพท์ทนายไพศาลเพื่อที่จะติดต่อกลับมาคุยเรื่องคดีความ


กระทั่งสื่อมวลชนลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสุคนธสวัสดิ์ 1 ซึ่งเป็นบ้านของอาจารย์ทิชา ซึ่งนิติบุคคลอนุญาตให้สื่อมวลชนบางส่วนเข้าไปในพื้นที่ส่วนกลางได้ แต่ปรากฏว่าบ้านปิดประตูเงียบ ไม่พบอาจารย์ทิชาอยู่ในบ้าน ทราบจากทางนิติบุคคลว่า อาจารย์ทิชาขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้แล้ว


ขณะที่นายจิระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และ ทนายไพศาล พาผู้เสียหายเดินทางมาที่ สน.โคกคราม เพื่อแจ้งความ เข้าพบ ผกก.สน.โคกคราม ระหว่างพูดคุย หมอปลาพูดถึงประเด็นการรับแจ้งความว่า พนักงานสอบสวน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พูดจาไม่ดี ทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าแจ้งความ และเกิดความกลัวทั้งๆที่เป็นผู้เสียหาย จึงมีการโต้เถียงกันระหว่างหมอปลา กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ส่วนเครื่องรางของขลัง เป็นนางกวัก และตุ๊กตาลูกเทพ ชื่อน้องรถเบนซ์ ซึ่งทางผู้เสียหายได้บูชามาจากอาจารย์ทิชา โดยอาจารย์ทิชาอ้างว่าหากนำไปบูชาแล้วจะร่ำรวย ได้ขับรถเบนซ์ แต่หมอปลาเชื่อว่า เป็นการหลอกลวงและไม่เป็นความจริง จึงได้เปลี่ยนชื่อตุ๊กตาลูกเทพจากน้องรถเบนซ์ เป็นน้องตอแหล  พร้อมฝากเตือนว่าไม่มีใครที่จะรวยได้ด้วยวิธีการแบบนี้ คนที่จะรวยก็มีแต่เจ้าของกิจการเท่านั้น ก่อนที่จะนำน้องรถเบนซ์ ตุ๊กตาลูกเทพมาบีบคอและทุ่มไปที่พื้น เพื่อเป็นการยืนยันว่าสิ่งแบบนี้ไม่มีจริง


โดยกรณีนี้ ทนายไพศาลอธิบายว่า พฤติการณ์ของอาจารย์ธิชา เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารและยา ฐานโฆษณาเกินจริงและอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งจากการตรวจสอบเลขที่ใบจดแจ้ง พบว่า หมดอายุไปตั้งแต่มกราคม 2565 นอกจากนี้เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ขายตรงและการตลาดตรง และ ความผิดฐานฉ้อโกง


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/u_nRTOgauMk

คุณอาจสนใจ

Related News