สังคม

อดีตทีมงานคิวเทโอปป้า ร้องทนายไพศาลช่วยเคลียร์

โดย onjira_n

16 มี.ค. 2565

8K views

ดรามา ยูทูปเบอร์หนุ่มเกาหลี คิวเท ออกมาทำคลิปเรื่องที่ทีมงานของตัวเองนั้นลาออกยกทีม เพราะต้องการเงินเดือนเพิ่ม ทั้งที่บางคนจบ ม.6 ไม่มีประสบการณ์ แต่ก็ให้เงินเดือนถึง 3 หมื่น บางคนยังลักของแบรนด์เนมไปขาย ล่าสุดวันนี้อดีตทีมงานของหนุ่มคิวเท เปิดใจอยากเข้าไปพูดคุยเคลียร์ใจ กับคิวเทอีกครั้ง





นางสาวชาริณี เศวตไพบูลย์ หรือน้ำหวาน และ นายศาสตราวุฒิ จันทร์ตรง หรือใจแอ้น อดีตทีมงานของ  “คิวเท โอปป้า” เดินทางเข้าพบ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เพื่อขอคำปรึกษาและให้ทนายไพศาลเป็นตัวกลางในการพูดคุยเจรจากับคิวเท หลังกระแสดรามาขึ้นเทรนทวิตเตอร์อันดับหนึ่งในประเทศไทยหลังคลิปของคิวเทลงในยูทูป โดยเข้าไปปรึกษาและเล่าปัญหาที่เกิดขึ้นให้ทนายไพศาลฟังเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนที่ทนายไพศาลจะพาทั้งคู่มาเปิดใจถึงเรื่องราวดรามา  นางสาวชาริณี เศวตไพบูลย์ หรือน้ำหวาน อดีตเลขาส่วนตัว เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องและออกมาจากบริษัทตั้งแต่เดือนมกราคม ตนยังไม่ได้ติดต่อไปพูดคุยกับคิวเท ยอมรับว่าไม่กล้าคุย และไม่รู้ว่าคิวเทคิดอย่างไร ส่วนตัวทำงานกับคิวเทมานาน รักคิวเทมาก รู้ว่าคิวเทชอบหรือไม่ชอบอะไร  ส่วนตัวไม่ได้โกรธ อยากปรับความเข้าใจกัน แต่ขอให้ทนายเป็นตัวกลาง  ส่วนจะกลับไปทำงานร่วมกันอีกหรือไม่นั้น ทุกคนเคารพการตัดสินใจของคิวเท แต่ตนยินดี และอยากกลับไปร่วมงานด้วย



ส่วนประเด็นที่มีการแสข่าวออกมาว่ามีคนขโมยของออกไปด้วย ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่รู้เห็นเรื่องนี้ จนมาทราบจากที่คิวเทโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก และยูทูป





ส่วนนายศาสตราวุฒิ จันทร์ตรง หรือใจแอ้น อดีตทีมตัดต่อ บอกว่า กรณีเรื่องเงินเดือน ยืนยันว่าทั้ง 4 คนที่ออกมาไม่ใช่คนโพสต์ แต่มีบุคคลอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันจนเกินเลยไปไกล ส่วนตัวรู้สึกผิด กับสิ่งที่เกิดขึ้น ย้ำว่ารักครอบครัวนี้มากและเสียใจไม่ต่างจากคิวเท หากส่วนไหนที่ทำให้คิวเทไม่สบายใจก็ขอโทษ อยากปรับความเข้าใจกัน เพราะกับคิวเคก็เป็นเหมือนคนในครอบครัว ส่วนคิวเทจะกล้ารับตนเองกลับไปทำงานอีกหรือไม่นั้นก็เคารพการตัดสินใจของคิวเท ส่วนตอนนี้ตนเองก็ยังว่างงานอยู่ตั้งแต่ออกจากคิวเทมา





ด้านทนายไพศาลบอกว่า ทั้งคู่มีอาการเสียใจ พูดไปร้องไห้ไป ส่วนตัวเชื่อว่า ทั้งหมดอยู่กันแบบครอบครัว รักกันมาก แต่มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกัน  จนไม่คุยกันก่อนจะออกมาแบบคาใจทั้งสองฝ่ายโดย

เปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ เหมือนพ่อ มีลูก 4 คน ซึ่งมีเรื่องที่ทำให้ทั้ง 4 คน น้อยใจพ่อ ตัดสินใจออกจากบ้านกัน ส่วนประเด็นในโซเชียล มีการแสดงความคิดเห็นกันเกินจากความเป็นจริง ซึ่งอยากหาโอกาสให้ทั้ง 2 ฝ่าย ปรับความเข้าใจกัน  ส่วนตัวเชื่อว่าหากมีการพูดคุยกัน จะทำให้กลับมารักกันมากกว่าเดิม เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมาย ไม่มีเรื่องอะไรน่ากังวล


คุณอาจสนใจ