ฉาววงการตำรวจ เอี่ยวขบวนการซื้อขายรถเถื่อนค้างไฟแนนซ์ข้ามชาติ

จากกรณีเพจ อยากดังเดียวจัดให้ รีเทิร์น part3 "นำเรียนไปยัง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงทางคดีด้วยค่ะ เปิดคลิปเสียงการสนทนา ของขบวนการซื้อขายรถเถื่อนค้างไฟแนนซ์ ส่งข้ามชาติ หักหลังกันเองโดยมีนายตำรวจ ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมขบวนการด้วย(จริงไหม) และยิ่งไปกว่านั้นยังมีการอ้างถึงนายตำรวจระดับรอง ผกก.ร่วมเอี่ยวด้วยซึ่งขณะนี้มีการแจ้งความลง บันทึกประจำวันไว้ที่ ส.ภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.พ.65 โดยคดีนี้ มีการตรวจยึด รถยี่ห้อโตโยต้ารีโว้ สีขาว 4ประตู ทะเบียนป้ายแดง ษ-1819 กทม. เอาไว้ และมีรายงานล่าสุด ทั้งคนอัดคลิปและนายตำรวจคนดังกล่าว จะมีการนัดเคลียร์กัน ที่ สภ.บางใหญ่ ในวันพรุ่งนี้"

ต่อมาวันที่ 14 ก.พ.65 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามข้อมูลโดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 18.00 น.ที่บริเวณถนนแก้วอินทร์ จ.นนทบุรี โดยมี พ.ต.ท. ประทีป ชูศรี รองผกก.กก.3บก.ปทส.บช.ก พร้อมกำลังได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น รีโว้ 4ประตู สีขาวมุก เลขทะเบียนป้ายแดง ษ-1819 กทม.จาก นาย วัยวัฒน์ เพ็ชรนิล อายุ 24 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 17 ซอย ปากน้ำกระโจมทอง 23 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กทม ตรวจยึดได้บริเวณริมทาง ถนนแก้วอินทร์ ต เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป โดยมีพฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 18.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ (คปจร.ตร)ได้ออกตรวจพื้นที่เขตรับผิดชอบเมื่อถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดเปิดไฟฉุกเฉินซึ่งขณะนั้นพื้นที่ดังกล่าวมีการจราจรหนาแน่น เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบนายวัยวัฒน์หรือโอม แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.65 ที่ผ่านมา นายวัยวัฒน์ ได้พาพี่ชายมาซื้อรถคันดังกล่าว กับ น.ส.กรรณิการ์ ในราคาหนึ่งล้านสี่หมื่นบาท ที่ตลาดแสงจันทร์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ขับมาถึงที่เกิดเหตุ รถได้เกิดปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารของรถ พบว่าชื่อเจ้าของรถไม่ตรงกับนาย วัยวัฒน์ และ พบว่าไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของรถคันดังกล่าวได้เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวไว้เพื่อตรวจสอบต่อไปและได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธนกฤษณ์ ศาลางาม พงส.สภ.บางใหญ่ เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตร.สภ.บางใหญ่ ได้ให้นำรถคันดังกล่าวมาไว้ที่สภ.บางใหญ่ เพื่อทำการตรวจสอบต่อไป

พ.ต.อ.วันชัย ชูจิตร ผกก.สภ.บางใหญ่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีนี้ว่า จากการสอบถามนายโอม เขาไม่ได้โพสร้องเรียนไปที่ไหน จึงสอบถามเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตร.ไปตรวจรถ และไม่ได้มีเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งตำรวจที่เข้าทำการตรวจค้นเป็นชุด สปจร.ไปตรวจยึดมาและขอลงบันทึกประจำวันที่โรงพักบางใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตร.สภ.บางใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่เป็นความรับผิดชอบของพื้นที่นี้ ตอนนี้ได้นำรถมาไว้ที่นี่แล้วรอการตรวจสอบ และรอเจ้าของรถคันดังกล่าวนำเอกสารมายืนยัน เพื่อรับรถกลับคืน โดยในวันนี้นายโอมพร้อมพี่ชายและทนาย ได้นำเอกสารที่ซื้อมาจาก น.ส. กรรณิการ์ ซึ่งเป็นคนขายรถให้ แต่ตอนนี้ยังติดต่อทางเจ้าของไม่ได้ ที่มีข่าวไปลงว่าตำรวจบางใหญ่ยึดรถ ขอยืนยันว่าไม่ใช่ตำรวจของบางใหญ่อย่างแน่นอน ทางเราแค่รับรถไว้ตรวจสอบ ตอนนี้ทราบชื่อของผู้ซื้อคนแรกแล้วคือ น.ส.กรรณณิการ์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกเพื่อมาให้ปากคำ ส่วนเงินก็มีการโอนเงินจริงแต่เป็นชื่อทางสามี ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าเป็นแก๊งค์ลักลอบซื้อขายรถหลุดไฟแนนซ์รึไม่ เพราะว่าเป็นการซื้อขายปกติ มีหลักฐานการโอนเงินจำนวน หนึ่งล้านสี่หมื่นบาท โดยเป็นการซื้อสด โดยที่มารถคันนี้คือโดนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดมาเพราะว่ารถคันนี้เสียระหว่างทางและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกค้นและพบว่าชื่อไม่ตรงกับเอกสารที่มี ตอนนี้ต้องเรียก น.ส. กรรณิการ์ มาให้ปากคำเพิ่มเติมและต้องตรวจสอบเพิ่ม ส่วนจาการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุดที่จับมามีอยู่จริง และยึดมาถูกต้องตามกฏหมาย ตอนนี้ก็ต้องตรวจสอบการซื้อขายตามความจริง

ทางด้านนายวัยวัฒน์ หรือโอม หลังออกจากห้องสอบสวนก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆแก่ผู้สื่อข่าวพร้อมกับรีบเดินขึ้นรถออกจาก สภ.บางใหญ่ไปทันที