สังคม

สาววัย 22 ฉะตำรวจเมืองสุราษฎร์ธานี เอารถส่วนกลางให้เมียใช้ ตุ๋นเหยื่อหลายล้าน

โดย onjira_n

26 เม.ย. 2565

171 views

เพจ Bung Jack fc V.2 ได้โพสต์ข้อความ ผัว ตำรวจไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี สภ.เมือง เอารถ ส่วนกลาง ให้ เมียใช้ ตุ๋น เหยื่อ นับหลายล้าน บาท พอเหยื่อตามทวงเงิน หลอกเหยื่อว่าจะเอา รถให้ แล้วโทรหา ผัวตำรวจ พา พวกมา ยึดคืน พร้อม ข่มขู่ เหตุผลที่ให้ ผู้เสียหาย คือคำว่า รถ ที่ ยึดมาจาก ผู้ ต้อง หา ให้ ไม่ได้ คำถามคือ ครอบครัวตำรวจไทย สามารถ ใช้ รถ ส่วนกลาง ไปสร้างภาพหลอกเหยื่อได้ด้วยหรือ ผู้เสียหาย ตบเท้าแห่แจ้งความไปแล้ว หลายรายแต่ ตำรวจช่วยดองไว้ให้ หรือ เรื่องนี้ ตำรวจอยู่ เบื้องหลัง พร้อมคลิปวีดีโอ ความยาว 3.47 นาที ภายในปั๊มน้ำม้นแห่งหนึ่ง ทะเลาะโต้เถียงกัน โดยมีหญิงสาว ได้โต้เถียงเรื่องเงิน และมีตำรวจสวมชุดครึ่งท่อน จำนวน 2 นายและรถตราโล่ตำรวจ อยู่ด้วย มีผู้แสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์จำนวนมาก


หญิงสาวภายในคลิปดังกล่าว คือ นส แพรวไพลิน พรหมแก้ว อายุ 22 ปี แม่ค้าออนไลน์ ชาวตำบลบางไทร อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ผู้ที่ปรากฎโต้เถียงอยู่ภายในคลิป กล่าวว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 6 เมษายน คู่กรณี คือดาว ซึ่งเป็นคนที่ได้ชักชวนตนเองร่วมลงทุนและพบว่าได้มีการหลอกฉ้อโกงกว่าสองล้านบาท นัดมาเจรจาชดใช้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บนถนนอำเภอ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี โดยทางดาวแจ้งว่าจะนำรถคันดังกล่าวไปจำนำเพื่อนำเงินบางส่วนคืนให้กับตนเอง ก่อนจะมีผู้ชายที่ปรากฏภายในคลิปซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจ เข้ามาที่เกิดเหตุและบอกว่าไม่สามารถเอารถไปได้และมีตำรวจพร้อมรถตราโล่ตามมาภายหลัง ปรากฎตามในคลิปดังกล่าวและนำรถยนต์กลับไป ซึ่งรถคันดังกล่าวตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นรถของใคร คิดว่าเป็นรถของคู่กรณีที่จะไปจำนำ นำเงินมาคืนให้ และคิดว่าตำรวจที่มาเป็นพวกเดียวกัน เพราะเคยได้ยินว่าดาวมีแฟนเป็นตำรวจและโทรไปข่มขู่คู่กรณีคนอื่นๆ อยากให้ส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตรงนี้ และอยากให้รับแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายให้ ไม่อยากให้ไปหลอกใครอีก


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ตนเองเป็นลูกค้าซื้อทุเรียนกับดาว ก่อนจะถูกชักชวนให้ลงทุนซื้อทุเรียนภายในสวนเพื่อค้ากำไรโดยแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้อยู่ที่ 20-80 เปอร์เซ็นต์ชักชวนให้ลงทุน 100000 บาทเคยได้กำไรในหนึ่งวัน 80000 บาทหลังจากนั้นก็เป็นยอดอื่นๆมาตลอดจนกระทั่งรวมยอดกว่า 2 ล้านบาทและพบว่าถูกหลอกเนื่องจากไปพบ LINE ปลอมที่ได้สร้างขึ้นมา ขณะนี้ตนเองเดือดร้อนมาก เนื่องจากเป็นเงินที่ไปกู้มาและเงินออมทองของลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาทางดาวจะเซ็นเช็คไว้ให้พร้อมโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือ อยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ว่าหากมีใครชักชวนลงทุนเช่นนี้ อย่าหลงเชื่อ นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยัง ผู้ชายเสื้อยืดสีน้ำเงิน ภายในคลิป ทราบชื่อต่อมาคือด.ต.ภูวเรศ แป้นปลื้ม ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องปราบปราม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองว่างเวร และกำลังอยู่ที่บ้าน ได้มีเพื่อนตำรวจรุ่นเดียวกัน ซึ่งเดินทางไปธุระต่างพื้นที่ ได้ประสานให้ช่วยไปดูรถยนต์ ที่เป็นชื่อของภรรยา ซึ่งได้มีผู้เช่าเช่าไปและติดต่อแจ้งมาว่าจะมีคนยึดรถยนต์ไป ตนเองจึงเดินทางไปยังปั๊มน้ำมันดังกล่าวภายในคลิป เมื่อไปถึงพบว่า ได้มีชายหญิงที่โต้เถียงในคลิปและคนถ่ายคลิป ได้อยู่บนรถ และแจ้งว่า หญิงสาวชื่อดาว ซึ่งเป็นคนเช่ารถมา เป็นหนี้ตนอยู่จำนวน 2 ล้านบ้าน ตนจึงบอกว่ารถยนต์คันดังกล่าวเอาไปไม่ได้ เพราะคู่กรณีของทั้ง 2 ไม่ใช่เจ้าของรถ แต่เป็นของเพื่อน ส่วนเรื่องเงินเรื่องทอง ให้ไปคุยกันเองโรงพัก โดยขณะเกิดเหตุ ตนไม่ได้เข้าเวร และสวมชุดอยู่บ้านธรรมดา เข้าไปเพราะเพื่อนว่ายวานขอความช่วยเหลือ ถึงแม้มีอาชีพเป็นตำรวจ ณ ตอนนั้นก็เหมือนชาวบ้านคนหนึ่ง เลยได้โทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฎในคลิปให้เข้ามา


เนื่องกลัวว่าจะมีเหตุการณ์และได้ระงับเหตุได้ทัน และได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปไว้ที่ป้อม ให้เจ้าของมารับ ตนยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับดาว หรือใครในเหตุการณ์ เพราะหญิงสาวที่ชื่อดาว ยังเดินมาบอกตนเองว่า ให้พาเขาออกไปจากตรงนั้นด้วย ตนเองก็ยืนยันว่า น้องๆไปคุยกันเอง พี่มาเอารถเพื่อน เท่านั้น เรื่องเงินให้ไปเคลียร์กันเอง ซึ่งหากตนเองไปไม่ทัน รถยนต์คันดังกล่าวอาจจะสูญหาย โดยส่วนตัวไม่ได้กังวลหากจะมีการตรวจสอบ เพราะวันเกิดเหตุตนก็ทราบดีและบอกว่าถ่ายคลิปได้ และก็รู้ว่าภายในปั๊มน้ำมันมีกล้องวงจรปิด และตนเองได้ทำตามขั้นตอนให้ตำรวจมาเพื่อระงับเหตุ และได้ไปลงบันทึกประจำวันที่สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีไว้แล้ว ด้าน พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ให้ข้อมูลว่า หลังจากทราบเรื่อง ได้ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเบื้องต้น พบว่า รถยนต์ที่ปรากฎในคลิปดังกล่าว เป็นรถของผู้ครอบครองตามกฎหมายที่ได้ให้ผู้เช่าเช่าไป ไม่ใช่รถของกลางแต่อย่างใด ซึ่งจะได้เชิญตัวเจ้าของรถมาให้ปากคำเพิ่มเติมในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถยนต์ทางราชการในเบื้องต้นทราบว่าได้รับแจ้งให้เข้าระงับเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบในข้อเท็จต่อไป


คุณอาจสนใจ