หมอไขปริศนา โรคหายาก! เด็กหญิงเลือดออกทางตา หู จมูก ปาก รูทวาร

มีคุณแม่รายหนึ่งอยู่ที่อยุธยา โพสต์ลูกสาววัย 1 ขวบ 4 เดือน ป่วยเป็นโรคประหลาด มีเลือดออกทั้งหู ตา และรูทวาร พาลูกรักษามา 4 เดือน หมอยังหาสาเหตุไม่ได้

คุณแป้ง แม่ของน้องพอใจ วัย 1 ขวบ 4 เดือน เล่าให้ฟังว่า เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ช่วงที่น้องอายุ 1 ขวบ 1 เดือน เริ่มมีปัสสาวะเป็นสีชมพู หลังจากนั้นแม่พาไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เบื้องต้นหมอบอกว่าปัสสาวะติดเชื้อ พอกลับมาที่บ้านน้องนั่งทานข้าวอยู่ จู่ๆ ก็อาเจียน แล้วเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นน้องเลือดออก

แม่พากลับไปที่โรงพยาบาล น้องต้องทำ MRI หาจุดที่เลือดออก แต่ก็ไม่ดีขึ้น น้องมีเลือดออกเยอะขึ้น จากเริ่มที่ทวาร ก็เป็นออกจมูก ที่หู และล่าสุดเลือดก็มากระฉูดที่ตา

ต่อมาน้องอาเจียนเป็นเลือด ต้องแอดมิดด่วน หมอส่องกล้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ผลออกมาว่าติดเชื้อไว้รัส กระเพาะอักเสบ หลังจากนั้นน้องก็เลือดออกทุกวัน มีวันนึงมากสุด 6-7 ครั้ง ขณะที่หมอบอกว่ายังหาสาเหตุที่น้องมีอาการเลือดออกไม่ได้ ได้แต่รักษาตามอาการ และจ่ายยาห้ามเลือด กับยาบำรุงเลือด ตอนนี้กังวลอยากรู้สาเหตุที่แท้จริง น้องจะได้รักษาให้หายขาดเป็นการถาวร เพราะที่ผ่านมาน้องเจ็บมาเยอะแล้ว

ซึ่งล่าสุด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ที่รังสิต

ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) มองว่า กรณีเด็กหญิงวัย 1 ขวบ มีอาการเลือดไหลออกดวงตา หู ปาก จมูก และอวัยวะเพศ ทางการแพทย์พบได้ยากมาก ในโลกนี้มีรายงานน้อยมาก

จากการสืบค้นข้อมูลทางการแพทย์ พบว่าเคยมีรายงานผู้ป่วยลักษณะดังกล่าวที่ประเทศอินเดีย หญิงสาวชาวดินเดียวัย 10 กว่าขวบ มีเลือดไหลออกทางตา โดยไม่มีอาการแสบ หรือเจ็บปวดไม่สบาย แต่จะมีอาการแบบนี้ทุกครั้ง ช่วงที่เป็นประจำเดือน

โดยทีมแพทย์วินิจฉัยว่า มีอาการผิดปกติที่เรียกว่า Ocular Vicarious Menstruation เป็นภาวะโรคที่หาได้ยากมาก จะมีอาการเลือดจะออกตามอวัยวะที่จะเกิดขึ้นช่วงที่มีประจำเดือน ที่พบได้บ่อยที่สุดคือรูจมูก แต่เลือดก็สามารถไหลออกจากริมผีปาก ดวงตา ปอด และกระเพาะอาหารได้เช่นกัน

อาการดังกล่าวเกิดขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโทรเจน และโปรเจสเตอโรน เป็นฮอร์โมนเพศทั้งคู่ ส่งผลต่อการซึมผ่านของเส้นเลือดฝอย ส่งผลให้เกิดภาวะเลือดคั่ง จนไปถึงเลือดไหลออกมาทางเนื้อเยื่อภายนอกร่างกาย

อาการของเด็กหญิงรายนี้ มีความเป็นไปได้ที่อาจจะมีความผิดปกติของฮอร์โมนทางเพศ อาจจะมาก่อนวัยอันควร ประกอบกับเส้นเลือดของเด็กยังไม่แข็งแรงจึงเกิดอาการดังกล่าวได้ ส่วนการรักษาต้องควบคุมเกี่ยวกับเรื่องระดับฮอร์โมนให้เป็นปกติ อย่างชาวอินเดียก็รักษาหายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน