สังคม

ลามถึงหมอ! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้าง DSI โทรตุ๋นนับสิบ - คลิปเสียงหมอรู้ทัน ซัดกลับจนต้องวาง

โดย thichaphat_d

13 ม.ค. 2565

775 views

นพ.ชลภิวัฒน์ ตรีพงษ์ นายแพทย์ชำนาญการ สถาบันประสาทวิทยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรและประชาสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีแพทย์จำนวนมาก ทั้งสถาบันประสาทฯ รพ.รามาธิบดี โรงเรียนแพทย์ และ รพ.สังกัดอื่น ๆ ถูกกลุ่มมิจฉาชีพโทรเข้ามาหลอกลวง ซึ่งเบอร์จะขึ้นต้นด้วย 093 เหมือนกัน และเป็นเบอร์ซ้ำ ๆ กัน


นพ.ชลภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนได้รับสาย 2 ครั้ง คือ วันที่ 10 ม.ค. ครั้งแรก แต่ติดคนไข้เลยไม่ได้คุย ล่าสุด เมื่อช่วง 10.00 น.ของวันนี้ จึงอัดเสียงไว้ โดยผู้โทรเข้ามาอ้างว่าชื่อ ร.ต.ต.หญิง อติภา แสดงตัวว่าอยู่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ สน.พญาไท ระบุว่ามีเอกสารฉุกเฉินคดีแดงเลขที่ จ 939/2564 อ้างว่ามีผู้ต้องหาคดีฟอกเงินชื่อ นายสุเมธ ซัดทอดว่า ตนเปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีให้ จึงขอให้ไปรายงานตัวที่ดีเอสไอ หรือ สน.พญาไท


“ผมหลอกล่อเขาว่า เป็นพี่สาวของเพื่อนหรือไม่ เพราะนามสกุลเหมือนกัน เขาบอกว่าให้ไปที่ สน.พญาไท เบื้องต้นได้ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล ทั้ง 2 รายชื่อที่อ้างถึงผ่านกูเกิล แต่ไม่พบข้อมูล ไม่แน่ใจว่าสะกดผิดหรือไม่ เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบกับต้นสังกัด คือ ดีเอสไอ และ สน.พญาไท


ล่าสุดได้แจ้งไปยังเพจรับเรื่องร้องเรียนกับทางดีเอสไอแล้ว เนื่องจากเรื่องลักษณะนี้ที่เคยเห็นตามข่าวการหลอกลวง จะมีคนแรกโทรมาแจ้งประเด็นให้เราตกใจก่อน จากนั้นครั้งต่อมาจะมีคนโทรมาว่า เป็นคนที่สามารถช่วยเหลือทางคดีได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีตัวละครอื่น ๆ เข้ามา สิ่งที่อยากเตือนคือ ให้ระวัง ยิ่งตอนนี้ที่ตรวจสอบกลับพบว่า 2-3 วันมานี้เป็นแพทย์ที่ถูกโทรศัพท์เช่นนี้ทั้งหมด


เท่าที่คุยแพทย์ที่ถูกโทรหา เข้าใจว่ายังไม่มีใครที่ตกเป็นเหยื่อ เพราะคนที่โดนส่วนใหญ่ก็มักไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีพวกนี้อยู่แล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าเพราะเขาไม่ทราบว่าข้อมูลเบอร์โทรที่ได้ไปนั้น เป็นเบอร์ของแพทย์ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม กังวลว่าจะมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ จึงอยากเตือนให้ระมัดระวังตัว หากมีคนโทรมาแอบอ้างเรื่องต่างๆ อย่าเพิ่งหลงเชื่อ และทำตาม ขอให้ตรวจสอบกับหน่วยงานนั้นๆ โดยตรงเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ


สำหรับข้อมูลแพทย์ที่อยู่ในมือมิจฉาชีพนั้น ไม่ทราบว่าหลุดออกมาจากที่ไหน คาดว่าน่าจะเป็นแหล่งที่มีข้อมูลแพทย์จำนวนมาก เพราะเท่าที่ติดตามบุคลากรการแพทย์สายงานอื่นๆ พยาบาล ต่างก็ไม่มีใครได้ได้รับสายเช่นนี้ มีเพียงแพทย์ที่โดน และไม่คิดว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขถูกแฮคซ์ข้อมูล เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคนที่จะถูกโทรหาน่าจะเป็นผู้ป่วย"


เมื่อถามว่าแพทย์ที่ถูกโทรศัพท์ดังกล่าวมีจำนวนมากน้อยแค่ไหนและอยู่ที่ไหนบ้าง นพ.ชลภิวัฒน์ กล่าวว่า "น่าสังเกตว่าเป็นอายุรแพทย์ทั้งหมด อย่างเท่าที่ทราบที่สถาบันประสาทวิทยาโดนไป 4-5 คนรวมทั้งตนเอง ขณะที่โรงพยาบาลรามาธิบดีทั้งแผนกอายุกรรมก็มีโทรศัพท์เข้ามาด้วย รวมทั้งหมอที่ขอนแก่นอีก ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะมีอีก ที่สงสัยคือ ทำไมถึงเป็นอายุรแพทย์ มีข้อมูลรั่วไหลจากที่ใด"


ถามต่อว่าเป็นไปได้หรือไม่จะเป็นข้อมูลรั่วไหลจากก่อนหน้านี้ ที่มีข่าวว่าถูกแฮกข้อมูล นพ.ชลภิวัฒน์ กล่าวว่า "ไม่น่าใช่ เพราะหากถูกแฮกข้อมูลก่อนหน้านี้ จะต้องหลากหลายอาชีพ และเท่าที่ทราบไม่มีคนไข้ แต่เป็นแพทย์ทั้งหมด คงต้องปรึกษาผู้ใหญ่ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร"




ด้าน พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้โพสต์เฟชบุ๊ก ถึง “กรณีแพทย์ถูกโทรศัพท์หลอกลวง” ว่า ตามที่มีแพทย์แจ้งสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา ว่าถูกโทรศัพท์หลอกลวง ว่าท่านตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน โดยมีคดีเลขที่ AAA อยู่ที่ DSI หรือ ตำรวจ รตต.BBB จาก สถานีตำรวจ CCC จับกุมคนร้ายได้ และ ตรวจพบสมุดบัญชี บัตรเครดิตชื่อของท่าน ให้ไปรายงานตัว เตรียมเอกสารมากมาย ขู่ในหลายประเด็น และหลอกลวงโอนเงินให้มิจฉาชีพนั้น


1. เลขาธิการแพทยสภาได้ดำเนินการหาข้อมูลเพิ่มเติมโดยเปิดรับรายละเอียดผ่านกลุ่ม line และ facebook รับผิดชอบ คุณหมอโน๊ต ภาสกร วันชัยจิระบุญ ผู้ช่วยเลขาธิการ ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก เพื่อนำไปหารือกับ อธิบดี DSI ทั้งนี้ต้องขอบคุณผู้ให้ข้อมูลทุกท่าน และหากมีเบาะแสเพิ่มเติม ท่านยังสามารถ inbox ได้ที่คุณหมอภาสกรครับ


2. จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเป็นการดำเนินการโดยใช้ข้อมูลซ้ำๆกันและมีการแจ้งผู้ที่โทรไปหาว่าคุณ XXX มีคดีความ โดยยังไม่พบว่าระบุเป็นนายแพทย์หรือแพทย์หญิง แต่จะมีเนื้อหาคล้ายกัน ตามไดอะแกรมแนบ


ทั้งนี้แพทยสภาได้นำเรื่องหารือกับท่านอธิบดีกรม สอบสวนคดีพิเศษ นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ Triyarith Temahivong แล้ว พบว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมามีคดีเกิดขึ้นจำนวนมาก และเกิดขึ้นกับกลุ่มบุคคลในหลายอาชีพ ทั้งกลุ่มนักกฎหมายเอง ข้าราชการ เอกชน ทุกอาชีพ


โดยมีผู้เสียหายจำนวนมาก แจ้งเหตุมายัง DSI จึงได้มีการสืบสวนและประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติจับกุมผู้กระทำผิดจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเครือข่ายผู้กระทำความผิด เพื่อดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดและยึดทรัพย์ผู้กระทำความผิดต่อไป


โดยมีข้อมูลเพิ่มเติม และแนวทางปฏิบัติดังนี้

ข้อ 1. จะไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐติดต่อพี่น้องประชาชนทางโทรศัพท์ให้ทำธุรกรรมทางการเงินหรือธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ หากเป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะต้องมีหนังสือราชการเพื่อติดต่อ และนัดหมาย ณ สถานที่ราชการเท่านั้น


ข้อ 2. หากมีคนร้ายติดต่อมายังท่าน ให้พยายามขอข้อมูลในการติดต่อกลับ และอย่าได้ทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น และนำข้อมูลดังกล่าวไปแจ้งความพนักงานสอบสวน ท้องที่ที่ท่านอยู่เพื่อเป็นเบาะแสในการดำเนินคดีกับคนร้ายดังกล่าว รวมทั้งขอให้แจ้งดังกล่าวมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทางสายด่วน 1202 หรือร้องเรียนผ่านเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามร่องรอยคนร้ายโดยเร็วต่อไป


ข้อ 3. ในกรณีที่ท่านตกเป็นเหยื่อของคนร้ายโดยมีการโอนเงินเป็นที่เรียบร้อย ให้รีบแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุทันที และประสานธนาคารปลายทางที่โอนเงินไปให้ เพื่อติดตามร่องรอยทางการเงิน ต่อไป


3. กรณีความปลอดภัยของฐานข้อมูลของแพทยสภาปัจจุบัน ถูกดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่บน Government Data Center and Cloud service (GDCC) ระบบมาตรฐานภาครัฐ โดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมี นพ.อนุวัตร สุขสมานพาณิชย์ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กำกับดูแล และวางมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลภายใต้คำแนะนำ ของ Government Big Data Institute (GBDi) โดยมี นพ.ธนกฤติ จินตวร ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กำกับดูแล พร้อมมีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมด ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วพบว่าระบบความปลอดภัยยังสมบูรณ์ ไม่พบการรั่วไหลของข้อมูล ทั้งนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจจะตรวจสอบและกำกับอย่างเข้มข้นต่อไป โดยหากท่านใดพบจุดรั่วใดที่เกี่ยวข้องกับฐานข้อมูลแพทยสภา โปรดส่งมาที่สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา email tmc@tmc.or.th เพื่อการตรวจสอบจะเป็นพระคุณยิ่ง


4. สำนักงานเลขาธิการแพทยสภาขอขอบคุณสมาชิกที่แจ้งเรื่องเข้ามา และจะติดตามกรณีดังกล่าวต่อไปพร้อมยกระดับมาตรการป้องกันให้มากขึ้นอีก โดยขอแสดงความห่วงใยยังเพื่อนแพทย์ และ ประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายในกรณีดังกล่าว ขอให้รีบแจ้ง DSI ดำเนินคดีตามขั้นตอนที่ท่าน อธิบดี DSI แจ้งไว้ และขอย้ำว่า ท่านอธิบดี DSI แจ้งว่าไม่มีให้ผู้ใดโทรแจ้งคดีต่างๆเพื่อโอนเงินแน่นอน โปรดอย่าหลงเชื่อ ทั้งนี้แพทยสภาจะประสานงานใกล้ชิดกับ DSI ต่อไป โดยเฉพาะผู้เสียหายที่แจ้งเข้ามาครับ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/eEr-3dmD0eI


คุณอาจสนใจ

Related News