เปิดกลแก๊งคอลฯ จ้างสาวหาเหยื่อในแอปฯหาคู่ ก่อนหลอกกดลิงก์เถื่อน ดูดเงินกว่าครึ่งล้าน

หญิงวัย 26 ปี เข้าไปหาเหยื่อในแอปหาคู่ หลังจากรับงานจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับการว่าจ้างจากเอเยนต์ ให้นำลิงก์เถื่อน ไปติดตั้งในโทรศัพท์มือถือของชายที่นัดพบกัน หลังจากติดตั้งลิงก์เถื่อน และกดปลดล็อกโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เข้ามาควบคุมเครื่อง ทั้งบัตรเครดิตและเงินในบัญชีของผู้เสียหาย ถูกโอนออกบัญชีไปร่วม 560,000 บาท



หญิงวัย 26 ปี ซึ่งเข้าไปคุยกับผู้เสียหายชาย ที่เข้าไปโพสต์ในแอปหาคู่ ว่าต้องการหาหญิงสาวมาดูแล ในที่สุดได้พูดคุยกับหญิงวัย 26 ปี รายหนึ่ง



กระทั่งนัดพบกัน และนัดกันไปเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี แต่ฝ่ายชายไม่ได้เฉลียวใจว่าหญิงที่นัดเดต กันรับงานมาจากแก๊งมิจฉาชีพ เมื่อฝ่ายชายหลับ ภารกิจเริ่มขึ้น โดยถ่ายรูปบัตรเครดิตของผู้เสียหาย ส่งไปให้แก๊งมิจฉาชีพ



ที่สำคัญได้นำลิงก์เถื่อน ส่ง SMS เข้าไปในมือถือฝ่ายชาย และได้ทำการติดตั้งในมือถือฝ่ายชาย หลังจากนั้นเครื่องจะไม่อนุญาตให้ติดตั้งลิงก์อันตรายนี้ แต่ฝ่ายหญิงได้เข้าไปกดอนุญาตให้เข้าถึง Link ได้ หลังจากนั้นเครื่องของผู้เสียหายจะถูกควบคุมจากมิจฉาชีพได้ทันที



การพบกันระหว่างสองฝ่าย มิจฉาชีพได้นำโทรศัพท์อีกเครื่องให้ฝ่ายหญิงแอบไว้ในกระเป๋า ในรัศมีที่ใกล้กับโทรศัพท์ของเหยื่อด้วย



ครั้งแรก เงินจากบัตรเครดิตถูกได้โอนออกไป 190,000 บาท ครั้งที่ 2 เงินจากบัญชีออมทรัพย์ ได้ถูกโอนออกไป กว่า340,000 บาท รวมทั้งหมด 560,000 บาท และเธอยอมรับว่าวิธีการไม่ได้ยาก เพราะคนร้ายที่สั่งการให้เธอมาหาเหยื่อได้ติดตั้งแอปเถื่อน เพื่อเข้าถึงบัญชีของผู้เสียหาย



ขณะที่ผู้เสียหาย ระบุว่าได้ติดต่อธนาคาร แล้ว พบว่ามีการส่ง OTP แจ้งมายังโทรศัพท์ของผู้เสียหายจริง 4 ครั้ง จึงข้องใจว่า คนร้ายทราบ OTP จากเครื่องตนได้อย่างไร



ตำรวจที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี คาดว่าแก๊งมิจฉาชีพใช้วิธีควบคุมเครื่องระยะไกล เนื่องจากใช้หญิงสาว เปรียบเสมือนนกตก ติดตั้งลิงก์เถื่อน ในมือถือได้แล้ว จะเข้ามาควบคุมมือถือของเหยื่อได้ แต่ระบบธนาคารยังมีการสแกนหน้าเจ้าของบัญชี ต้องตรวจสอบว่าผู้เสียหายสแกนหน้าผ่านได้อย่างไร