สังคม

ลุงแท็กซี่เปิดใจ ถูกแก๊งเงินกู้ออนไลน์หลอก เครียดจะโดดสะพาน เผยเดือดร้อน-หน้ามืด

โดย thichaphat_d

13 ธ.ค. 2564

98 views

เวลา 07.00 น.วานนี้ (12 ธ.ค.) อาสาสมัครมูลนิธิและตำรวจ สน.ปากคลองสาน พยายามเจรจากับโชเฟอร์แท็กซี่ให้วางมีด หลังขับรถมาจอดรถกลางสะพานกรุงเทพ แต่เจ้าตัวไม่ยอมง่ายๆ ยังพยายามใช้มีดข่มขู่คนที่จะเข้าใกล้


สุดท้ายเจ้าหน้าที่มูลนิธิตัดสินใจยอมถอย และตำรวจเข้ามาเจรจารับฟังปัญหา จนเขายอมวางมีด และเปิดใจว่า เครียดที่โดนแก๊งเงินกู้ออนไลน์หลอกเงินไปจนหมดบัญชี


ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณลุงวัย 60 ปี เล่าว่า สาเหตุที่ตัดสินใจคิดสั้น เพราะตอนนั้นหาทางออกไม่ได้ ในการหาเงินมาจ่ายค่างวดรถแท็กซี่ที่ค้างชำระมาหลายงวด แล้วยังมาถูกแก๊งกู้เงินหลอก ตนเองมีเงิน 15,000 กว่าบาท


โดยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เห็นโฆษณาชักชวนกู้เงินในเฟซบุ๊ก จึงลองติดต่อไป ทางแอดมินจึงให้แอดไลน์เพื่อดำเนินการกู้เงินจำนวน 20,000 บาท โดยตอนแรกบอกว่าไม่มีค่าดำเนินการ ในตอนนั้นทางแอดมินระบุว่า ต้องเสียค่าดำเนินการ ค่าเอกสาร ค่าเปิดบัญชี ค่าใช้จ่ายต่างๆ โอนครั้งละหลักพัน


ตนเองจึงตัดสินใจนำเงินเก็บที่บ้าน ที่สะสมกับภรรยามาจ่ายค่าดำเนินการ รวมเบ็ดเสร็จที่โอนให้มิจฉาชีพไปทั้งสิ้น 9,000 บาท หลังจากนั้นทางแอดมิน ก็พิมพ์มาทางไลน์ บอกให้คุยกับนายใหญ่ ซึ่งเป็นคนปล่อยเงินกู้ และก็บอกมีค่าดำเนินการอีก และให้สัญญาว่าจะโอนเงินกู้ให้ทันที แต่ท้ายสุดก็ไม่โอน และไม่ตอบข้อความอีกลุงอีกเลย จึงตัดสินใจไปแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม


จากนั้นมาอีกประมาณสองถึงสามวัน ตนก็เห็นโฆษณา จึงแอดไลน์ติดต่อไป จึงสอบถามไปว่าหากต้องการกู้ 10,000 บาท จะต้องมีค่าดำเนินการหรือไม่ ทางแอดมินตอบข้อความมาว่า ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ด้วยความเชื่อใจจึงส่งเอกสารทั้งหมด แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลา กลับบอกว่ามีค่าดำเนินการต่างๆ โดยให้คุณลุงโอนครั้งละ 300 บาท รวมถึงให้คุยข้อความกับคนที่อ้างตัวว่าชื่อ อนุสรณ์ และให้โอนเงินค่าดำเนินการไปอีก ด้วยความที่ต้องการเงินคืน จึงตัดสินใจโอนไปเพื่อดำเนินการ รวมเบ็ดเสร็จอีก 6,000 กว่าบาท เกือบ 7,000 ท้ายสุดก็ไม่โอนเงินมาให้ โดยอ้างว่า ไม่สามารถโอนให้ได้


ท้ายสุด เหลือเงินติดอยู่ก้นบัญชี ทั้ง 3 บัญชี เพียง 13 บาท 67 สตางค์ ความรู้สึกตอนนั้น เครียด และกังวลใจ เนื่องจากไม่ได้บอกภรรยาว่านำเงินเก็บสำหรับจ่ายค่างวดไปใช้โอนให้มิจฉาชีพ ขณะที่เกรงใจภรรยาที่ต้องไปช่วยขับรถหาเงิน // ส่วนตนวิ่งรถได้เพียง 3 เที่ยว ได้ค่าโดยสาร หักค่าแก๊สแล้วเหลือกลับบ้านเพียง 40 บาท


ทำให้เครียด คิดไม่ตก ไม่รู้จะระบายที่ไหน จึงตัดสินใจขับรถแท็กซี่ออกจากที่พัก เพื่อกระโดดแขวนคอที่สะพานกรุงเทพ โดยก่อนหน้าได้โทรหาพี่สาวและระบายความในใจก่อนบอกลา ซึ่งพี่สาวก็พยามห้ามไว้


ขณะเดียวกัน บริเวณที่เกิดเหตุ คนที่ขับรถผ่านไปมาก็มาช่วยกันห้าม รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจ กระทั่งมีคน พูดกับตนเองว่า หากหนีปัญหาไปแล้วคนข้างหลังจะอยู่อย่างไร ทำให้ตนนึกถึงหน้าภรรยา รวมถึงลูกๆ จึงตัดสินใจไม่คิดสั้น แต่บอกกับตัวเองว่ากลับมา สู้ อีกครั้งหนึ่ง


ทั้งนี้อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง กสทช. อยากถามว่า ทำไมไม่เร่งแก้ปัญหาและบล็อกข้อความของแก๊งเงินกู้นอกระบบ รวมถึงมิจฉาชีพ ประชาชนที่เดือดร้อน ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พ่อค้าแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ที่อาจจะรู้ไม่เท่าทัน และอาจหมดตัวได้ แต่ทุกวันนี้ ยังมีข้อความเข้ามา บางทีแอบอ้างธนาคาร แต่เมื่อแอดไปปรากฏว่าไม่ใช่


ทางด้านภรรยาของคุณลุง เล่าว่า ที่ผ่านมาไม่ทราบว่าลุงนำเงินเก็บไปโอนให้มิจฉาชีพเพื่อกู้ ซึ่งตนกับสามี ผลัดกันขับแท็กซี่คนละกะ เพื่อหาเงินจ่ายค่างวดรถ ที่เช่าซื้อ เดือนละ 14,105 บาท ที่ผ่านมา จ่ายค้างวดรถสม่ำเสมอ กระทั่งมาเจอสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้ค้างค่างวดรถ แต่ก็พยายามหาเงินมาจ่ายให้ได้ ซึ่งก็ยอมรับว่าสามีตนก็รู้ไม่เท่าทัน ก็ไม่อยากจะโทษ แต่ก็ได้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันติดตาม และเห็นว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เข้ามาช่วยเหลืออีกทาง


พันตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผู้กำกับการ สน.ปากคลองสาน เปิดเผยว่า ตอนที่ลุงโชเฟอร์ยอมวางมีด เพราะอธิบายให้เข้าใจว่า พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ไม่ได้ทิ้งคดี แต่กำลังรอเอกสารจากธนาคาร เพื่อออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง และตอนนี้ตำรวจไซเบอร์เข้ามาสอบสวนคดีนี้แล้ว



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/32QbWvO9_PQ

คุณอาจสนใจ

Related News