กสทช.ยึดโดรนกว่า 2,500 ลำ จากร้านค้าไม่มีใบอนุญาต ยังไม่ชัดใช้ไทยเป็นทางผ่าน

กสทช.ยึดโดรนกว่า 2,500 ลำ จากร้านค้าไม่มีใบอนุญาต ยอมรับโดรนนำไปใช้ได้กิจกรรมหลายประเภท รวมทั้งด้านความมั่นคง ส่วนของกลางที่ยึดได้รอฝ่ายความมั่นคงขยายผล ยังไม่ชัดใช้ไทยเป็นทางผ่าน

พล.ต.อ. ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ด้านกฎหมาย หรือ กสมช. ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยกับทีมข่าวภายหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กสทช. เข้าจับกลุ่มตรวจยึดโดรนกว่า 2,500 ลำ ภายในโกดังแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมาว่า

สำหรับระเบียบการใช้โดรนของภาคเอกชนทางร้านค้าปัจจุบันในประเทศไทยมีทั้งหมด 73 ร้านค้าได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ในการจำหน่ายแต่ถ้าหากต้องมีการบินโดรนก็ต้องขอใบอนุญาตตามกฎหมายจากการบินพลเรือนซึ่งเปรียบเสมือนใบขับขี่ดังนั้นโดรน จึงเปรียบเสมือนอากาศยานไร้คนขับ ที่มีประสิทธิภาพในการนำไปใช้ในกิจการต่างๆทั้งเรื่องการข่าวและการเกษตรรวมทั้งเรื่องของความมั่นคงหน่วยงานรัฐจึงต้องมีการควบคุมและเข้มงวดเนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่ามีการนำโดรนไปใช้ในความมั่นคงโดยเฉพาะในต่างประเทศโดยเฉพาะในยูเครนและรัสเซียที่มีการนำโดรนไปดัดแปลงเพื่อใช้ในเรื่องของความมั่นคงทางการทหารซึ่งส่งผลกระทบให้กับประชาชนและทรัพย์สินจำนวนมาก

สำหรับโดนที่มีการจับกุม 2,500ลำในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีนั้นพบว่าเป็นโกดังของร้านค้าที่ไม่มีใบอนุญาตซึ่งเป็นหน้าที่ของ กสทช.ที่จะต้องตรวจสอบเรื่องใบอนุญาต ก่อนจะพบว่ามีการกระทำผิด และไม่มีใบอนุญาตจึงนำกำลังเข้าจับกุมและตรวจยึดของกลางทั้งหมด

พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่าในส่วนโดรนที่ตรวจยึดได้หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องพิสูจน์ทราบในการสืบสวนสอบสวนขยายผล โดยยอมรับว่าอาจจะมีปัญหาตามมาเนื่องจากว่าโดนดังกล่าวสามารถนำไปใช้ได้ในหลายกิจกรรมอย่างเช่นตัวอย่างในต่างประเทศที่นำไปใช้ในความมั่นคงทางการทหาร

ส่วนจะใช้ไทยเป็นทางผ่านหรือไม่นั้นยืนยันว่าทาง กสทช. มีการกวดขันจับกุมอยู่ตลอดเวลาเพราะมีตัวอย่างในต่างประเทศที่มีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ก่อเหตุความรุนแรงจึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับต่างประเทศ ส่วนจะใช้ไทยเป็นทางผ่านหรือไม่กสทช.ยังไม่ทราบในรายละเอียดต้องรอการสืบสวนขยายผลให้ชัดเจนก่อน

ส่วนกรณีที่ทางตำรวจนครบาลมีการจับกุม ผู้บินโดรนและยึดของกลางอีก 10 ลำได้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมานั้นทาง กสทช.ยอมรับว่ามีบุคคลรายหนึ่งที่กสทช.เคยเข้าตรวจค้นจับกุมในพื้นที่สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2561เกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ตำรวจนครบาลจับกุมตัวได้ หลังจากนี้หากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงพบว่ามีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องทาง กสทช.ก็จะเข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกระทำความผิดของกลุ่มผู้ต้องหานี้ต่อไป