6 ขวบหัวใจนักสู้ ไม่ท้อยากจน ช่วยแม่ขายน้ำส้มเกาะกลางถนน

วันที่ 6 ธันวาคม 2564 ภาพหนูน้อยคนหนึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการเดินขายน้ำส้มขวดกับแม่ 2 คน ให้กับผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ซึ่งกำลังจอดรอสัญญาณไฟเขียว บริเวณสี่แยกไฟแดงมายด์เฮาส์ เส้นถนนเพชรเกษม ตัดกับ ถนนราษฎร์ยินดี หรือ ถนน 30 เมตร ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

นอกจากนี้ยังได้สังเกตุเห็นความอ่อนน้อมถ่อมตนของหนูน้อยรายนี้ ซึ่งจะยกมือไหว้ขอบคุณทุกครั้งสำหรับคนที่อุดหนุนซื้อน้ำส้ม หลังยกมือไหว้เรียบร้อย ก็ได้ยกมือพร้อมกำหมัดทำท่าชกไปที่คนที่ซื้อน้ำส้มให้ยกมือและกำหมัดตาม ก่อนที่ต่างคนต่างเอาสันหมัดมาประกบกัน หรือเรียกอีกอย่างว่า แท็กมือ ซึ่งก็สร้างรอยยิ้มให้กับคนขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่กำลังจอดรอสัญญาไฟเขียวในความน่ารักของน้อง

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินเข้าไปสอบถามและมีการพูดคุยกันที่มาที่ไปสาเหตุที่พาน้องมายืนขายน้ำส้มบริเวณสี่แยกไฟแดง เบื้องต้นทราบชื่อ นางสาวซูไฮบ๊ะ ลือแม อายุ 36 ปี เป็นแม่ของ เด็กชายฟิตรี เฝ้าสันเทียะ อายุ 6 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน จากการสอบถาม นางสาวซูไฮบ๊ะ ได้เล่าว่า ปัจจุบันตนมีลูกผู้ชายทั้งหมด 3 คน น้องฟิตรีเป็นคนที่ 2 สาเหตุที่น้องฟิตรีมานั่งขายน้ำส้มกับตนนั้น เนื่องจากน้องฟิตรีได้เห็นรายรับมันน้อย รายจ่ายมันเยอะ มีค่าบ้าน ค่ากับข้าว รายจ่ายมันเยอะมากน้องฟิตรีเลยเห็นว่าแม่มียอดตกก็เลยอยากจะมาช่วย

จากที่น้องฟิตรีมาช่วยทำให้ยอดขายของตนพุ่งมาก จากที่ขายน้ำส้มได้ 6-7 ชุด กลับกลายเป็นว่าขายน้ำส้มได้ 20 ชุดขึ้น ซึ่งชุดนึงจะมีน้ำส้ม 6 ขวด ขายชุดละ 100 บาท จึงทำให้มีรายได้ขึ้นมาอีกนิดและทำให้น้องฟิตรีตั้งใจที่จะมาช่วยตนขายน้ำส้ม

ช่วงที่น้องฟิตรีมาสัมผัสวันแรกน้องฟิตรีบอกว่าชอบ เพราะว่าน้องได้ทริปจากลูกค้าที่ให้ ลูกค้าให้ของกิน อะไรประมาณนี้ ส่วนเรื่องเรียนหนังสือของน้องฟิตรีตอนนี้ตนได้สั่งให้หยุดเรียนก่อน สาเหตุไม่มีเงินส่งน้องฟิตรีเรียนต่อเพราะตนทำงานหาเงินคนเดียวต้องเรียงลูก 3 คน จึงมีรายจ่ายเยอะกว่ารายรับ

ส่วนสามีหรือพ่อของลูกนั้นที่ผ่านมาสามีตนเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ยศจ่าสิบตรี ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเหตุมาจากสามีได้ไปยิงชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัสซึ่งคิดว่าชาวบ้านคนดังกล่าวเสียชีวิต แต่ปรากฎว่าแค่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงโดนข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ศาลจึงตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและติดอยู่ที่เรือนจำกลางสงขลา มา 2 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ตนและครอบครัวมีบ้านพักอยู่ในค่ายทหารจึงไม่ค่อยลำบากเท่าไร แต่พอสามีโดนเรื่องจึงต้องคืนบ้านพักให้ค่ายทหารตามเดิมและต้องย้ายออกจากทันทีตามกฎระเบียบ จึงทำให้ตนต้องออกมาหาบ้านเช่าและหางานทำไปเรื่อยจนมาขายน้ำส้มดังกล่าว

จากการสอบถาม น้องฟิตรี เล่าว่า สาเหตุที่มาช่วยแม่ขายน้ำส้มนั้น เพราะสงสารแม่ แม่ต้องเดินขายน้ำส้มทุกวันทั้งวัน เพราะไม่มีเงิน ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน เราก็ต้องอด ก็เลยมาช่วยแม่ขายน้ำส้มและช่วงที่ขายน้ำส้ม ผมก็ยื่นน้ำส้มให้เค้า ผมก็ขอบคุณครับเค้า หลังจากนั้นผมก็ทำท่ากำหมัดใส่เค้า แล้วก็แบมือเอาลูกอมให้เค้า ผมก็ขอบคุณครับเค้า

ทั้งนี้ จึงอยากฝากผู้ที่ใช้เส้นถนนเพชรเกษมตัดถนนราษฎร์ยินดี สามารถแวะเวียนไปอุดหนุนน้ำส้มคั้นของน้องฟิตรีได้