เก๋งขาวชนลุงขายล็อตเตอรี่ดับสลด ก่อนขับหนีไปตั้งหลัก อ้างหลับใน

วันนี้ (8 ต.ค. 64) เวลา 09.00 น. เกิดเหตุชายสูงอายุ อาชีพขายล็อตเตอรี่ถูกรถชน บริเวณถนนเทพารักษ์ กมที่23มุ่งหน้าบางบ่อ โดยวงจรปิดสามารถจับภาพรถเก๋งสีขาวเป็นผู้ขับชน และหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เข้ากู้ชีพ แต่ไม่พบชีพจร และผู้บาดเจ็บไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 5

ต่อมาเมื่อเวลา 13:30 น.วันที่ 8 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้ ไปยัง สภ.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พบกับ น.ส. กัญจน์ชญา เพิ่มประโคน อายุ 45 ปี หลานสาวผู้เสียชีวิต (นายเกียรติศักดิ์ กงประโคน ) คนขายล็อตเตอรี่ กล่าวว่า ทราบข่าวเมื่อช่วงสาย ที่ผ่านมา ลูกชายโทรมาบอก ตนจึงได้รีบไปที่เกิดเหตุ ไปถึงพบผู้เสียชีวิตนอนอยู่ลักษณะตามตัวไม่เห็นบาดแผล แต่มีเลือดไหลออกที่หู 

น.ส. กัญจน์ชญา เล่าว่า ตนรวมถึงผู้เสียชีวิต มีอาชีพขายล็อตเตอรี่ ทุกวันประมาณ 05.00 น.ก็จะแยกย้ายออกไปขายฯ กัน ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี มีจิตสาธารณะ ชอบช่วยเหลือคนอื่น และเวลาพบเห็นขยะที่ขวางตามช่องระบายน้ำ ก็มักจะหยุดเด็บออกไปทิ้ง เมื่อเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ คนกับญาติ เสียใจมาก รับไม่ได้กับพฤติกรรมของคนขับรถ ที่ชนแล้วไม่หยุดลงมาดูหรือให้การช่วยเหลือ คงจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงทีสุด

นายถนอม เอ็มจิ๋ว รปภ. หน้าจุดที่เกิดเหตุรปภ. เล่าตรงกันว่าพบเห็นผู้เสียชีวิตมาขายลอตเตอรี่แถวนี้บ่อย เป็นคนดีมีจิตอาสาชอบเก็บขยะที่ขวางตามท่อระบายน้ำ ตอนเกิดเหตุตนนั่งอยู่ที่ป้อม ได้ยินเสียงดังจึงได้ลุกออกไปดูพบเห็นผู้เสียชีวิตนอนกระเด็นออกมาอยู่อีกฝั่งประตูหนึ่ง หลังจากตั้งสติได้จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่อาสาและตำรวจให้ประสานแพทย์พยาบาลมาให้การช่วยเหลือแต่ก็จะใช้เวลานานพอสมควรกว่ากินป้าจะมาถึง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ตนรู้สึกเสียใจมาก

ในส่วนของ ร.ต.ท.ธนกร รัตนวิไล พนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง กล่าวว่า เจ้าของรถเก๋ง สีขาว ที่ขับชน ได้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วหลังจากเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง โดยกล่าวว่า ตนขับรถกลับมาจากต่างจังหวัด และได้แวะไปส่งแฟน ที่ทำงานก่อน หลังจากนั้นกำลังขับรถกลับบ้านพัก พอมาถึงจุดเกิดเหตุ มีอาการหลับใน ตอนชนผู้เสียชีวิต คิดว่าขับรถชนฟุตบาท จึงไม่ได้จอดลงมาดู พอขับถึงบ้านพัก ตรวจดูรถ พบป้ายทะเบียนหายไป จนทราบข่าวว่าตนขับรถชนคนตาย จึงได้รีบเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวและไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด พบไม่มี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป