'ศิริราช' เผยผลศึกษาฉีดวัคซีนไขว้ พบแอสตราฯ เข็ม 1 + ไฟเซอร์เข็ม 2 ได้ภูมิคุ้มกันสูงสุด

ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อัปเดตผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไขว้ เทียบการฉีดด้วยวัคซีนชนิดเดียวกัน พบ แอสตราเซเนกา ตามด้วยไฟเซอร์ภูมิคุ้มกันขึ้นสูงสุด

โดยเมื่อวานนี้ (22 ก.ย.) ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อัพเดตผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไขว้ เทียบการฉีดด้วยวัคซีนชนิดเดียวกัน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Siriraj Institute of Clinical Research สรุปได้ว่า

1. การฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาแล้วตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ได้ระดับภูมิคุ้มกันสูงสุด 2,259.9 หน่วยต่อมิลลิลิตร

2. การฉีดวัคซีนซิโนแวคแล้วตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์ ได้ระดับภูมิคุ้มกันดีรองลงมาที่ 2,181.8 หน่วยต่อมิลลิลิตร

3. การฉีดวัคซีนซิโนแวคแล้วตามด้วยวัคซีนแอสตราเซเนกา ได้ระดับภูมิคุ้มกัน 1,049.7 หน่วยต่อมิลลิลิตร

โดยการใช้วัคซีนซิโนแวคเป็นเข็มแรก แล้วตามด้วยแอสตราเซเนกา หรือไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ซึ่งการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นเข็มแรก ควรตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2

ทั้งนี้ยังระบุอีกว่า การวัดเป็นผล anti-RBD IgG วัดโดยเครื่อง Abbott และรายงานเป็นหน่วยมาตรฐาน BAU/mL ส่วนผลการวัดแบบ PRNT50 จะมีการรายงานต่อไป

นอกจากนี้ผลการศึกษายังไม่มีปัญหาเรื่องอาการข้างเคียงหลังฉีดเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สองในระยะเวลาห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์

ทั้งนี้ ควรมีการศึกษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อในผู้ที่ได้รับวัคซีนเพื่อยืนยันภูมิคุ้มกันจากการศึกษานี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/JAgdg-RFPzs