สุดงง! เงินปริศนาทยอยโอนเข้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกว่า 3 ล้าน เร่งตามหาเจ้าของ

สร้างความงุนงงสงสัยให้กับประชาชนทั่วไป หลังจากที่นางดารารัตน์ เกิดผล นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กตามหาเจ้าของเงินที่ทยอยโอนเข้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่ โดยที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่งและวัตถุประสงค์ สะสมมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึง 31 สิงหาคม 2564 รวมยอดเงินกว่า 3,145,840.45 บาท พร้อมแจ้งถึงเพื่อนครูที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่ที่โอนเงินเข้ามาและไม่แจ้งรายละเอียด ติดต่อกลับสหกรณ์ฯ เพื่อรักษาผลประโยชน์

นายไพบูลย์ พุทธวงค์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเชียงใหม่ ชี้แจงเรื่องนี้ในแต่ละวันจะมีเงินที่สมาชิกโอนเข้าบัญชีของสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมตามปกติ ทั้งซื้อหุ้น ชำระหนี้ ชำระดอกเบี้ย และ เงินฝาก แต่มีส่วนหนึ่งที่โอนมาแล้ว แต่ไม่แจ้งว่าใครเป็นผู้โอนและวัตถุประสงค์ ทำให้เป็นเงินค้างบัญชีของสหกรณ์ เป็นเงินที่รอตรวจสอบ

โดยปกหากมีการโอนเงินเข้าบัญชีเพื่อทำธุรกรรมต่าง ๆ สมาชิกจะต้องส่งหลักฐานและแจ้งวัตถุประสงค์ให้ทางสหกรณ์ได้ทราบเพื่อปรับบัญชีให้ การโอนโดยไม่แจ้งนี้มีเพียงบางส่วนที่ส่งหลักฐานแจ้งมาภายหลังซึ่งทางสหกรณ์ก็ได้ปรับบัญชีให้ถูกต้อง แต่ในส่วนที่โอนแล้วไม่ติดต่อมาก็มีจำนวนมาก ทำให้ไม่ทราบว่าเป็นเงินของใคร โดยทางสหกรณ์ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าใครเป็นผู้โอน โดยเฉพาะการโอนเงินใช่วงหลายปีก่อนหน้านี้เนื่องจากหลายธนาคารยังไม่มีระบบตรวจสอบได้ละเอียดโดยสามารถตรวจสอบได้เพียงสาขาต้นทางและจำนวนเงินที่โอนมาเท่านั้น

นายไพบูลย์ บอกว่า การโอนโดยไม่แจ้งทุกวันนี้ก็ยังมีเข้ามาเรื่อย ๆ จากหลายธนาคารที่ทางสหกรณ์เปิดช่องทางให้บริการไว้ให้ มียอดเข้ามาทุกวัน ในส่วนของเงินค้างบัญชี ณ วันที่ 31 สิงหาคม 64 มีอยู่ 2,333,649.60 บาท แต่ถายหลังการตรวจสอบ และมีสมาชิกนำหลักฐานมาแสดง ทำให้ล่าสุดในวันนี้มีเงินค้างบัญชีรอตรวจสอบเพียง 887,646.79 บาท ซึ่งยอดในแต่ละวันจะปรับขึ้นลงและไม่ได้เป็นเงินปริศนาที่บางคนอาจเข้าใจผิดว่าโอนเข้ามาเป็นเงินเพียงก้อนเดียวแต่อย่างใด

สำหรับเงินที่ยังตรวจสอบไม่ได้ ในแต่ละเดือนจะนำยอดเงินรอตรวจสอบเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประจำเดือนและแจ้งไปยังหน่วยบริการ 31 หน่วยทั่วจังหวัด เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งสมาชิก รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ของสหกรณ์เพื่อให้นำหลักฐานการโอนเข้ามาติดต่อและปรับบัญชีให้ ส่วนเงินค้างบัญชีที่เกินสิบปีจะนำเข้าที่ประชุมใหญ่เพื่อขอนุมัตินำเข้าเงินเข้ากองทุนสำรอง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเข้ากองทุนทุกปีและทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างโปร่งใส