พ่อป่วยโควิดดับ หลังเพิ่งรักษาหาย 2 วันได้กลับบ้าน พบปอดถูกทำลายใช้งานได้ข้างเดียว

พบผู้ป่วยโควิดรักษาตัวหายแล้ว และเดินทางกลับบ้านได้เพียง 2 วัน แต่ต้องมาเสียชีวิต เมื่อวานนี้ มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าเก็บร่าง นายพูนภิภพ อายุ 58 ปี ลูก ๆ ร่ำไห้ เสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ เนื่องจากทุกคนในครอบครัว ดีใจที่คุณพ่อได้กลับมาบ้าน แต่อยู่ดีๆก็ต้องมาเสียชีวิต

ทีมข่าวสอบถามลูกชาย คุณพูนภิภพ เล่าว่า คุณพ่อ ป่วยด้วยโรคโควิด มีอาการตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ตอนนั้นมีแค่อาการไอ และเหมือนเป็นหวัด จึงไปตรวจเชื้อตามจุดตรวจเชิงรุก ด้วยชุดตรวจ ATK พบว่าติดเชื้อ และพ่อมีโรคประจำตัว คือ โรคเกาต์ ความดัน หัวใจ จึงขอไปรักษาตัวที่ รพ. แต่ไปทุกที่ก็เตียงเต็ม และทาง รพ.ก็ขอใบตรวจเชื้อแบบ rt-pcr ซึ่งก็ต้องไปตระเวนหาตรวจเชื้อ และเสียเงินค่าตรวจเอง กว่าจะได้ไป รพ.ใช้เวลา 11 วัน ตอนนั้นพ่ออาการทรุดจากสีเขียวเป็นสีแดง ใช้เวลารักษาตัว 16 วัน

โดยแพทย์ระบุว่า เชื้อโควิดทำลายปอดพ่อไป 1 ข้าง ทำให้มีปัญหาต่อการหายใจ และขอให้พักฟื้นและฝึกหายใจ โดยไม่ต้องใส่ออกซิเจน ญาติแจ้งกับแพทย์ว่า พ่อมีโรคประจำตัวการรักษาโควิดหายแล้ว จะมีผลต่อโรคอื่นๆหรือไม่ ทางรพ.ก็บอกว่าให้กลับบ้านก่อน ส่วนโรคประจำตัวก็ไปรักษาที่รพ.ที่เคยรักษา

วันที่พ่อกลับมาบ้าน ครอบครัวทุกคนดีใจมาก ที่เห็นพ่อกลับมา แต่สภาพพ่อไม่เหมือนเดิม อ่อนเพลียเดินยังไม่ได้ จากเดิมที่แข็งแรง พ่อก็นอนพัก และหายใจหอบเหนื่อย อ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ลูกๆ ก็มาจับมือพ่อ และบอกว่า หายแล้ว พ่อจะต้องแข็งแรง

แต่เช้าวันที่ 24 ส.ค. พ่อเสียชีวิต อยากขอให้ทีมแพทย์ ช่วยตรวจร่างกายผู้ป่วยโควิดที่รักษาหายแล้ว แต่มีโรคประจำตัว ช่วยตรวจและให้คำแนะนำในการรักษาตัว หากผู้ป่วยมีอาการโรคประจำตัวแทรกซ้อนจากสาเหตุโควิด ก็ช่วยดูแลรักษาจนอาการดี ก่อนจะให้ออกจากรพ.จะได้ไม่เกิดการสูญเสียแบบครอบครัวตน

วานนี้ตอนที่เจ้าหน้าที่เก็บศพ ลูกสาวก็ร้องไห้ และพยายามเรียกพ่อๆกลับมานะพ่อกลับมา และพยายามจะเข้าไปกอดร่างพ่อ ครอบครัวยืนยันว่าไม่โทษใคร หรือหน่วยงานใด แต่อยากให้มีวิธีการรักษา การดูแลผู้ป่วยโควิดให้ได้มาตราฐาน ตั้งแต่ติดเชื้อ รักษาหาย และพักฟื้น เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแบบนี้อีก

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MkH-zv9BP4M