สังคม

ศาลสั่งจำคุก 12 ปี ลูกสาวยักยอกเงินบุพการี 'อาม่าฮวย' กว่า 250 ล้าน

โดย thichaphat_d

18 ส.ค. 2564

33 views

จากกรณีที่นางฮวย ศรีวิรัตน์ หรืออาม่าฮวย ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ ลูกสาวของตนเอง และเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย อีก 4 คน เป็นจำเลย ว่าร่วมกันยักยอกเงินในบัญชีไปกว่า 250 ล้านบาท โดยคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่งพระโขนง และศาลอาญาพระโขนงนั้น


ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) ศาลอาญาพระโขนง ได้นัดฟังคำพิพากษา ระหว่างอาม่าฮวย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องดำเนินคดี นางมาวดี เป็นจำเลย ในอีกหนึ่งคดี คือ คดีที่นางมาวดี ได้ยักยอกเงินจากบัญชีธนาคารไทยพานิชย์ จำนวน 2 สาขา รวม 24 ล้านบาท ซึ่งได้ยื่นฟ้องเมื่อปลายปีที่ผ่านมา


ทั้งนี้ ศาลอาญาพระโขนง มีคำพิพากษาว่า นางมาวดีได้กระทำความผิดจริง โดยยักยอกเงินของอาม่าฮวยไปซื้อกองทุน และ ซื้อประกันชีวิต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 จำคุกกระทงละ 2 ปีจำนวน 6 กระทง รวมจำคุก 12 ปี


พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เป็นการกระทำความผิดต่อบุพการี โดยใช้โอกาสที่จำเลยเป็นผู้ดูแลระหว่างโจทก์เจ็บป่วย ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งเงินที่จำเลยลักไปเป็นเงินจำนวนสูงมาก นับเป็นเรื่องร้ายแรง ดังนั้นแม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน กรณีก็ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ


นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดเผยว่า คำพิพากษาที่ศาลอาญาพระโขนงในวันนี้ เป็นคดีรองจากคดีหลักที่พนักงานอัยการฟ้อง นางมาวดี ศรีวิรัตน์ (บุตรสาวของอาม่าฮวย) และเจ้าหน้าที่ธนาคารที่ยักยอกเงินจำนวน 253 ล้านบาท ซึ่งคดีหลักนี้ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล ขณะนี้สืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว อยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย และ อาม่าฮวย ยังได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งด้วย ในการเรียกเงินคืน 350 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 62 ซึ่งในระหว่างพิจารณา 2 คดีนี้ ทนายความได้เรียกพยานเอกสารจากหลายๆ ธนาคาร


จนไปพบว่า นอกจากอาม่าฮวยจะมีเงินในบัญชีที่ธนาคารกสิกรไทยแล้ว ยังมีบัญชีเงินฝากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซีสวนหลวง และสาขาถนนศรีนครินทร์ (อุดมสุข) ด้วย จึงสืบเส้นทางการเงิน พบว่าทั้ง 2 บัญชีมีเงินฝากรวม 27 ล้านบาท และนางมาวดี ได้ยักย้ายถ่ายเทเงินจำนวน 24 ล้านบาท ไปซื้อประกันชีวิตในนามตนเอง ซื้อกองทุนในนามตนเอง และเอาเงินเข้าบัญชีตนเอง


อาม่าฮวยจึงได้ยื่นฟ้องนางมาวดี เป็นคดีอาญาอีก 1 คดี ซึ่งศาลมีคำพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานยักย้ายถ่ายเททรัพย์ และทำต่อบุพการี ศาลจึงตัดสินจำคุก 6 กระทง กระทงละ 12 ปี รวม 12 ปีโดยไม่มีการรอลงอาญา ส่วนคดีหลักที่มีการยักยอกเงิน 253 ล้านและปลอมเอกสารนั้นยังไม่ได้มีการพิพากษา


ทั้งนี้ นายอนันต์ชัย เล่าว่า หลังศาลมีคำตัดสินในคดีนี้ให้จำคุกนางมาวดี 12 ปี ทางครอบครัวดีใจมาก อาม่าฮวยยิ้มออกมา ทุกคนดีใจว่ามันเป็นเรื่องจริง พร้อมทั้งฝากเตือนคนที่เป็นลูกหรือผู้ดูแลผู้สูงอายุด้วย เนื่องจากในคดีนี้ศาลพิพากษาว่า จำเลยอาศัยความป่วยเจ็บของโจทก์ ประกอบทั้งตัวเองเป็นคนเลี้ยงดูโจทก์ อาศัยความบกพร่องสติปัญญา ศาลจึงไม่เชื่อว่าโจทก์จะถอนเงินได้เอง จึงนำร่องไปสู่การตัดสินในคดีหลักด้วย


ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่านางมาวดี จำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกัน 1,695,000 บาท


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/CvawHU4sBDg

คุณอาจสนใจ

Related News