สังคม
นพ.อารักษ์ แจ้งจับ ผอ.องค์การเภสัชฯ หมิ่นประมาท แพร่คลิปเสียง ปมจัดซื้อชุดตรวจ ATK
โดย thichaphat_d
16 ส.ค. 2564
624 views
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.รพ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ปรึกษาชมรมแพทย์ชนบท ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม ในข้อหาหมิ่นประมาทและความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นเบื้องต้นก่อน
และวันนี้ (16 ส.ค.) ทาง นพ.อารักษ์ พร้อมทนายความส่วนตัวพร้อมเอกสารจำนวนมากเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อเป็นการแจ้งความดำเนินคดีกับ นพ.วิฑูรย์อย่างเป็นทางการต่อไป
จากนั้น นพ.อารักษ์ ได้แถลงกับสื่อมวลชนว่า จากการที่สื่อหนึ่งได้เผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม และ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล ในฐานะประธานที่ปรึกษาชมรมแพทย์ชนบท มีประเด็นสำคัญที่ต้องขออนุญาตชี้แจงต่อสาธารณะ ดังนี้
1. ข้อเท็จจริงสำคัญคือ ในวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ซึ่งเป็นวันเตรียมการและปฐมนิเทศทีมแพทย์ชนบทและโรงพยาบาลต่างกว่า 40 ทีมที่มาร่วมบุกกรุง ที่ประชุมมีความกังวลถึงความเพียงพอของชุดตรวจ ATK ที่จะใช้ในการปฏิบัติการ ดังนั้น นพ.อารักษ์ ในฐานะแกนหลักในปฏิบัติการแพทย์ชนบทบุกกรุงที่มาด้วยตนเองทั้ง 3 ครั้ง และเป็นคณะกรรมการต่อรองราคาของ สปสช.ที่มีหน้าที่ต่อรองราคาเพื่อให้ได้ ATK คุณภาพสูงราคาเหมาะสมมาใช้
จึงได้โทรศัพท์ไปหา นพ.วิฑูรย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม แต่ นพ.วิฑูรย์ไม่ได้รับสาย และได้โทรกลับมา การโทรคุยในครั้งนี้ก็เพื่อทวงถามความคืบหน้าที่มีการดำเนินการจัดซื้อที่ล่าช้า และแจ้งให้ทราบถึงข้อห่วงกังวลของผู้ใช้ ATK ที่ต้องการ ATK มาตรฐานสูงในระดับองค์การอนามัยโลก WHO ที่มีอยู่ 2 บริษัท และไม่อยากให้มีการลดสเป็คเพื่อเปิดทางให้ ATK คุณภาพต่ำเข้ามาขาย นี่คือวัตถุประสงค์ของการพูดคุยทางโทรศัพท์ในฐานะวิชาชีพแพทย์ด้วยกัน แต่ นพ.วิฑูรย์ได้แอบอัดคลิปเสียงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ และส่งต่อให้กับสื่อเพื่อเผยแพร่ในลักษณะบิดเบือนสร้างความเสียหายต่อข้าพเจ้าและชมรมแพทย์ชนบท
2. การนำคลิปเสียงที่เกิดจากการสนทนาเพียง 2 คน มาปล่อยให้กับสื่อ โดยที่อีกฝ่ายคือ นพ.อารักษ์ ไม่ได้อนุญาต เท่ากับเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหลายฉบับ อันได้แก่ ประกาศ คมช.ฉบับทื่21 ที่ระบุว่า หากผู้ใดดักฟัง ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผย ข้อความที่มีการติดต่อทางโทรศัพท์ โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งผิด พรบ.คอมผิดเตอร์ และกฎหมายหมิ่นประมาทด้วย ซึ่งจะมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป
3. การกระทำดังกล่าวของผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ที่แอบอัดเสียงการสนทนา เป็นการกระทำที่สะท้อนความต่ำเตี้ยทางจริยธรรมและไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในฐานะผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ต่อไปใครจะติดต่อใดๆ กับผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมคนนี้ก็ขอให้ระวังตัวจะถูกอัดเสียงมาใช้ข่มขู่ แบล็คเมล์ได้
4. สำหรับสื่อนั้น ซึ่งได้บิดเบือนและปั่นข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าว ย่อมต้องรับผลของการกระทำในฐานะสื่อมวลชนที่ขาดจรรยาบรรณ และจะถูกแจ้งความดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ตนจึงมาแจ้งความเพื่อรักษาศักดิ์ศรีและเกียรติยศของตนที่ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนมาโดยตลอด ขอขอบคุณทุกกำลังใจ และขอให้ประชาชนติดตามการจัดซื้อชุดตรวจ ATK นี้ต่อไป
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/YU-Wcayh3pI