กองปราบรวบสมุน 'เจนโคราช' แก๊งปลอมลอตเตอรี่ตระเวนขึ้นรางวัล หลอกเหยื่อนับไม่ถ้วน

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม นายวิสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี อาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังต้องการตัว 2 หมาย

1. หมายจับศาลจังหวัดหล่มสัก ที่ 34/2564 ลง 9 มี.ค.64 ข้อหา “ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”

2. หมายจับศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ จ.50/2564 ลง 27 พ.ค.64 ข้อหา “ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันฉ้อโกง”

สืบเนื่องมาจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีกลุ่มแก๊งปลอมลอตเตอรี่ออกก่อเหตุในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยแก๊งดังกล่าวจะกระทำกันเป็นรูปแบบขบวนการ ซึ่งเมื่อวันที่ 19 ก.พ.64 เวลาประมาณ 14.00 น. นายวิสิทธิ์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ร่วมกับพวกนำสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 5 จำนวน 2 ใบ ไปขอขึ้นเงินกับร้านรับขึ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในตลาดตัวเมือง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

ต่อมาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันได้มีชายหนุ่มมาขอขึ้นเงินสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 4 กับทางร้านอีก 1 ใบ หลังจากนั้นเจ้าของร้านรับซื้อสลากกินเเบ่งรัฐบาลได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าวไปให้ธนาคารตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลปลอม ผู้เสียหายจึงได้เข้าเเจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้เสียหายสูญเงินไปเป็นจำนวนกว่า 80,000 บาท

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่าในพื้นที่เดียวกันวันเวลาเดียวกัน ได้มีชายหนุ่มเข้ามาขอขึ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 5 จำนวน 1 ใบ กับเหยื่ออีกราย โดยภายหลังจากที่เหยื่อนำสลากกินเเบ่งดังกล่าวไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นสลากปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.หล่มสัก

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมแก๊งดังกล่าว โดยทราบว่าแก๊งดังกล่าวมี “นายเจนโคราช” เป็นหัวหน้าแก๊ง และมีผู้ร่วมขบวนการกว่า 10 คน ซึ่งภายหลังสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้จำนวน 2 ราย และจากการสืบสวนเพิ่มเติมยังพบว่า นายวิสิทธิ์ฯ (ผู้ต้องหา) เป็นหนึ่งในแก๊งดังกล่าวที่ยังหลบหนีอยู่

พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. เร่งรัดสืบสวนแกะรอยจับกุมผู้ต้องหารายนี้ให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

จนกระทั่งวันที่ 13 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมมากบดานอยู่ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบนายวิสิทธิ์ฯ ยืนอยู่บริเวณหน้าห้องเช่าไม่มีเลขที่ ม.7 ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเข้าทำการจับกุม หลังจากนั้นจึงนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและไม่ขอให้การเพิ่มเติม จากตรวจสอบประวัติพบว่าเมื่อปี 2555 ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักษณะเช่นเดียวกันนี้ในพื้นที่ สภ.สำโรงหนือ จ.สมุทรปราการ