สังคม
จ่าจ๊อดในตำนาน! หย่าอดีตภรรยาแล้วไม่ยอมจบ ตามราวี ติด GPS ซุกรถ
1 ธ.ค. 2568
70 views
เรื่องของจ่าจ๊อดกับอดีตภรรยายังไม่จบ ล่าสุดอดีตภรรยามาร้องทนายรณณรงค์ หลังหย่าขาดกันแล้ว ยังตามราวีไม่เลิก แอบติด GPS ตามรถ อ้างสิทธิ์ความเป็นพ่อ ทำให้ต้องออกมาร้องเรียนเพื่อปกป้องลูก
ผู้ร้องเรียน ชื่อ น.ส.พัชราภรณ์ หรือบุ๋ม อายุ 34 ปี เป็นพยาบาลอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกจ่าจ๊อด อายุ 41 ปี อดีตสามีเคยเป็นนายทหารนอกราชการสังกัดกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ตามราวีไม่เลิก แม้ทั้งสองฝ่ายจะหย่าขาดกันแล้ว
คุณบุ๋ม เล่าด้วยความข่มขืนว่า ตนกับจ่าจ๊อดได้หย่าขาดจากกันเมื่อวันที่ 30 พฤษภาที่ผ่านมา จ่าจ๊อด รับปากว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูลูกชายเดือนละ 5,000 บาทแต่ก็ไม่เคยทำตามที่พูดไว้ เท่านั้นยังไม่พอ เขายังตามราวีตนไม่เลิกหาว่าไปมีคนอื่น ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ยังแอบติดตั้งเครื่องสัญญาณ GPS ใส่ไว้ในรถเก๋งของตนเพื่อคอยติดตามความเคลื่อนไหว
และยังไปร้องเรียนกับหัวหน้าของตน ซึ่งตนทำงานเป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกำแพงเพชร กลับถูกจ่าจ็อดร้องเรียนว่า ป่วยเป็นโรคจิตให้มาทำงานได้อย่างไร แต่โชคดีที่ผู้บังคับบัญชาเข้าใจและไม่เชื่อในคำพูด
นอกจากนี้ จ่าจ๊อดยังไปขอเลื่อนสอบลูกชายโดยอ้างเหตุผลไม่พร้อม เพราะจะพาลูกเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ในวันนั้นลูกชายไม่สามารถสอบได้เหมือนเด็กคนอื่นๆ ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมเขาต้องตามราวีและกลั่นแกล้งทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ตนเป็นฝ่ายหาเงินเลี้ยงลูกคนเดียว ตัวเขาซึ่งเป็นพ่อไม่เคยรับผิดชอบ แต่มาอ้างสิทธิ์ความเป็นพ่อ ตนจึงต้องมาร้องเรียน เพราะก่อนหน้านี้จ่าจ็อดก็เป็นฝ่ายมาร้องเรียนกับทนายรณรงค์ กล่าวหาตนกับครอบครัวมาแล้ว
ทนายรณณรงค์ชี้ว่า การกระทำของอดีตสามีรายนี้ อาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิ์ตามกฎหมายแพ่ง มาตรา 420 และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเคารพข้อตกลงหลังหย่า แยกทางกันอยู่ และทำหน้าที่พ่อแม่อย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่ออนาคตของเด็ก
นางชฎาภรณ์ พงศ์ทอง ที่ปรึกษามูลนิธิ ได้ประสานพูดคุยกับอดีตสามีรายนี้ ให้ยุติพฤติกรรมราวีอดีตภรรยา และย้ำว่ามูลนิธิจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัว แต่หากยังละเมิดสิทธิ์เด็ก จะมีการร้องเรียนต่อสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมต้นสังกัดทันที จ่าจ๊อด ชี้แจงว่า เครื่องสัญญาณ GPS ในรถเป็นของเก่าติดไว้นานแล้ว ยอมรับร้องเรียนอดีตภรรยาจริง เพราะเขาพูดไม่ดีใส่ตน และอยากให้ดูประวัติแชตภรรยาเป็นฝ่ายหาเรื่องตนก่อน ก่อนสายจะตัดไป
สำหรับจ่าจ๊อดเคยเข้ามาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาว่า โดยจ่าจ๊อด บอกว่า ขณะที่ตนนั่งดื่มเหล้าในห้องนอน จู่ๆ แม่ยายได้เข้ามาด่าทอต่อว่าตนจึงมีปากเสียงกัน ทำให้พ่อตา น้องเมีย และลูกน้องของพ่อตา เข้ามาล็อกตัว แล้วเอาเชือกไนลอนมามัดตนโดยมัดมือไพล่หลัง แล้วจับโยนขึ้นรถกระบะ พอขึ้นรถได้ก็เอาเชือกอีกเส้นมามัดเท้า
แล้วน้องเมียเป็นคนขับรถ โดยมีพ่อตา แม่ยาย และลูกน้องพ่อตา นั่งประกบมา โดยนำตนมาส่งที่บ้านของลุงที่นนทบุรี เมื่อแม่และลุง เห็นสภาพตนถูกมัดมือมัดเท้า มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย จึงพาส่งโรงพยาบาลรักษาบาดแผล ก่อนจะไปแจ้งความเอาผิดทั้ง 4 คน ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกาย แต่ผ่านมากว่า 1 ปีคดีไม่คืบหน้า จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรม ต่อมาทางผู้กำกับ สภ.บางใหญ่ และทนายรณณรงค์ ได้ประสานหาข้อสรุปให้ต่างคนต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก แต่สุดท้ายจ่าจ๊อดก็ยังตามราวีภรรยาไม่เลิก
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ei8KIloQHzk