พนง.ออนเซ็น ยันไม่รู้-ไม่มีใครแจ้ง ปมบัตรเครดิตลูกค้าถูกฉกรูดเงิน ตร.เผยรู้ตัวแล้ว ผู้ก่อเหตุมากกว่าหนึ่ง

เตือนภัย!! ผู้เสียหายเตือนภัยผ่านเพจดัง หลังเข้าใช้บริการออนเซ็นย่านทองหล่อ และ สาทร แต่ถูกคนร้ายขโมยบัตรเครดิต ที่อยู่ในตู้ล็อกเกอร์ออกไปรูด มูลค่าหลักหมื่น ถึง หลักแสน



จากที่ มีผู้เสียหาย หลายคนร้องเรียนไปตามเพจดังต่างๆ ว่า ถูกขโมยบัตรเครดิต หลังเข้าไปใช้บริการในร้านสปา ออนเซ็นชื่อดัง บางรายโดยหลักหมื่น บางรายโดนเป็นแสน



คุณจิว 1 ในผู้เสียหาย ที่ส่งเรื่องไปที่เพจ drama-addicted เพราะ ถูกรูดไป 85,900 บาท



คุณจิว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น วันที่ 4 มกราคม ซึ่งเป็นวันเกิด ตนไปทานข้าวตอนเช้าก่อน จากนั้น ตั้งแต่ช่วงบ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น เธอใช้บริการออนเซ็นแห่งหนึ่ง ย่านสาทร ซึ่งเคยที่ใช้บริการมา 3-4 ปีแล้ว และไปปีละ 3-4 ครั้ง และที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้



โดยตอนที่ใช้บริการเก็บทรัพย์สินไว้ในล็อกเกอร์ของออนเซ็นตามปกติ โดยเมื่อจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์เสร็จ ก็จะได้รับริสแบนด์ ที่มีตัวเลขล็อกเกอร์มา จากนั้นก็เอาริสแบนด์นี้ ไปทำแตะเปิดล็อกเกอร์ที่ชั้นออนเซ็น ซึ่งตู้ล็อกเกอร์แข็งแรง แต่ไม่ได้ใหญ่มาก ซึ่งทุกครั้งที่ใช้ริสแบนด์ไปแตะ ก็จะเช็คล็อกเกอร์ทุกครั้ง



หลังเสร็จจากออนเซ็น ก็ออกไปกินข้าวกับเพื่อนต่อ รู้ตัวอีกที บัตรเครดิต 1 ใบ และบัตรเดบิต 1 ใบ หายไป จึงลองเช็คยอดรูดในแอปพลิเคชันของธนาคาร



แล้วพบว่า มียอดรูป 3 ยอด นาทีต่อนาที ยอดแรก 6 โมง 43 นาที รูดไป 49,000 บาท ยอดที่ 2 เวลา 6โมง44 นาที รูดไป 29,000 บาท และยอดที่ 3 เวลา 6โมง 45 นาที รูดไป 7,900 บาท รวมทั้งสิ้น 85,900 บาท โดยยอดที่รูดขึ้นเป็นชื่อสถานที่เดียวกัน คือ MEE THER NONTHABURI TH ตนจึงพยายามลองเซิร์ชหาใน Google ดูร้านดังกล่าว แต่ไม่พบ



หลังจากนั้น จึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ เพื่ออายัดบัตร และวันรุ่งขึ้น (5 ม.ค.68) ไปที่ สน.ยานนาวา ซึ่งทางธนาคารต้องประสานกับตำรวจ และก็มีโทรมาอัพเดทให้สบายใจได้ว่า ยังไม่ต้องจ่ายยอดนี้ จนกว่าจะสอบสวนสำเร็จภายใน 90 วัน



ส่วนตัวมองว่า ที่คนร้ายเลือกขโมยบัตรเครดิต เพราะหากของหายอย่างอื่นหาย จะรู้ตัวทันที และอาจมีการโวยวาย ส่วนในวันเกิดเหตุ รู้สึกว่า มีคนใช้บริการเยอะกว่าปกติ ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ และตอนที่อยู่หน้าล็อกเกอร์ ก็ไม่ได้สังเกตดูว่า มีใครจ้องมองอยู่หรือไม่ เพราะบริเวณนั้น เป็นที่เปลี่ยนเสื้อผ้าผู้หญิง



เมื่อถามว่า ถ้าจะใช้ริสแบนด์อื่นสามารถเปิดได้หรือไม่นั้น ตนเคยไปแตะผิดตู้ มันเปิดไม่ได้ จึงเข้าใจว่า ริสแบนด์ใช้ได้เฉพาะตู้ โดยหลังเกิดเหตุตน ก็ไม่ได้ติดต่อไปที่ออนเซ็นที่เกิดเหตุ ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งเบื้องต้น ตำรวจได้เข้าไปขอดูกล้องวงจรปิด ที่ออนเซ็นแล้ว



ส่วนคุณกุ๊ก เป็นอีกหนึ่งในผู้เสียหาย ที่ถูกคนร้ายนำบัตรเครดิต 3 ใบ ไปรูดรวมมูลค่ากว่า 181,380 บาท แต่ในเคสนี้เป็นการไปใช้บริการออนเซ็น (เดียวกับคุณจิว) แต่เป็นสาขาแถวๆ สุขุมวิท โดยเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ซึ่งบัตรเครดิตหนึ่งใบมีการจำกัดวงเงินเอาไว้ทำให้รูดไม่ผ่าน ส่วนอีกสองใบรูดผ่าน



คุณกุ๊ก บอกว่า ได้เข้าใช้บริการ ตั้งแต่บ่าย 3 โมงกว่า ใช้เวลาอยู่ในภายในออนเซ็น 1 ชั่วโมงครึ่ง ขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็จะใช้ริสแบนด์ (สายรัดข้อมือ) ซึ่งจะเปิดได้เฉพาะตู้ล็อกเกอร์ของตัวเอง จึงนำเอาของทุกอย่าง ใส่เข้าไปในตู้ล็อกเกอร์ รวมถึงโทรศัพท์มือถือ/ซึ่งตรวจเช็คแน่นอนว่า ประตูล็อกเกอร์ปิดแน่น และคนอื่นจะไม่สามารถเปิดตู้ได้



พอประมาณ 4 โมงกว่า ที่ตนใช้บริการเสร็จ ก็ยังไม่รู้ตัวว่า บัตรถูกขโมยไป เพราะเปิดตู้ออกมา ทุกอย่างปกติ ไม่ได้มีลักษณะการถูกรื้อค้น ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ตัว กระทั่งแฟนโทรมาถามว่า ได้ไปรูดซื้ออะไรหรือไม่ เพราะในบัตรเสริมที่แฟนเปิดให้ พบยอดแปลกๆ รูดหลายครั้ง จึงเปิดกระเป๋าดู ถึงได้ทราบว่า บัตรเครดิตหายไป จึงรีบระงับบัตร แต่กลับพบว่า ยอดที่รูดเป็นร้านกาแฟแห่งหนึ่งย่านลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยมียอด ตั้งแต่เวลา 4 โมง 20 นาที เป็นการรูดนาทีต่อนาที



จากนั้น จึงได้กลับไปที่ออนเซ็น แล้วไปเจอกับผู้จัดการร้าน



สำหรับร้านกาแฟต้นเรื่อง ตนได้ติดต่อไปทางร้าน และสอบถามว่า มีการจำหน่ายสินค้าอะไรที่มีมูลค่าเกิน 10,000 บาทหรือไม่ ซึ่งทางร้านบอกว่า เครื่องรูดไม่ได้อยู่ที่ร้าน ให้เหตุผลว่า มีคนหยิบยืมเครื่องรูดไป จึงได้แจ้งทางร้านไปว่า โดนโจรกรรมบัตรเครดิตไป ก่อนที่ทางร้าน จะยกเลิกยอดรูดดังกล่าวให้



ส่วนตัวมองว่า คนนอกไม่สามารถที่จะงัดตู้ล็อกเกอร์ได้ เพราะว่าจะมีแม่บ้านเฝ้าอยู่ตลอด และจะคอยมาดู แต่มีจุดสังเกตคือ ตอนที่ตนกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า กำลังหยิบของออก และหยิบโทรศัพท์จะเช็ค ทางแม่บ้านก็ตะโกนขึ้นมาว่าโทรศัพท์ใช้ที่นี่ไม่ได้ ซึ่งได้ย้ำหลายรอบ แต่ตนก็ไม่รู้ว่า เป็นการย้ำตามปกติหรือไม่



ด้าน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ขณะนี้ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุแล้ว เชื่อว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่าหนึ่งคน ทางตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและเตรียมขอออกหมายจับเร็วๆนี้ และหากผู้เสียหายรายใด ที่เกิดเหตุลักษณะคล้ายกันนี้ ก็ให้เข้ามาแจ้งความ ที่ตำรวจสน. ทองหล่อได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/4pSwOXOrawo