‘เคนโด้’ จ่อฟ้องกลับ! แจงเคยร่วมงาน ‘ดิไอคอน’ แต่ไม่ได้เซ็นสัญญาเป็นพรีเซนเตอร์

‘เคนโด้’ จ่อฟ้องกลับ ฟาด ‘บอสพอล-ทนาย’ ยันเคยร่วมงาน ‘ดิไอคอน’ แต่ไม่ได้เซ็นสัญญา เป็นพรีเซนเตอร์เหมือน ‘บอสกันต์’

นายเกีรยงไกรมาศ พจนสุนทร หรือ เคนโด้ พิธีกรชื่อดัง เปิดเผยกรณีที่นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสบอล ได้รับออเดอร์มาจากบอสพอล ให้ดำเนินดคีเพิ่มกับบุคคล 3 คน โดยหนึ่งในนั้น คือ เคนโด้ ซึ่งเป็นพิธีกร ค. และบอกว่าเคนโด้ได้รายได้จากดิไอคอน ในฐานะเป็นพรีเซนเตอร์เหมือนกับบอสกันต์ แต่กลับออกมาแฉเรื่องราวต่างๆ ของดิไอคอน จนทำให้เสียชื่อเสียง

เคนโด้ กล่าวว่า ไม่แปลกใจที่โดนพาดพิง เพราะตนเองอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบอสพอลมาตั้งแต่ต้น เพราะได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท และเมื่อ 2 วันที่แล้วก็ให้ปากคำกับตำรวจนานกว่า 6 ชั่วโมง ขอยืนยันว่าเป็นพยานปากเอกในคดีนี้ เพราะหากตนเองไม่บริสุทธิ์ก็คงถูกตำรวจจับไปนานแล้ว

ทั้งนี้ยอมรับว่าเคยร่วมงานกับดิไอคอนจริง โดยภาพที่เกิดขึ้นเป็นปีแรกๆ ช่วงปี 2562-2564 ที่ยังไม่เกิดความเสียหายขึ้น ตอนนั้นบอสพอลติดต่อให้ตนเองเข้าไปเป็นที่ปรึกษา ช่วยถอดบทเรียนจากเมจิกสกินที่ตนเป็นคนแฉ ว่าต้องทำธุรกิจแบบนี้ยังไงให้มันถูกต้อง จึงเข้าไปเขียนธรรมาภิบาล และไปพูดรับรอง เพื่อให้ความรู้การทำธุรกิจออนไลน์ที่ถูกต้อง

แต่ถ้าวันหนึ่งธุรกิจมันไม่ถูกต้องแล้ว ตนเองก็ไม่อยู่ต่อ เมื่อเห็นความผิดปกติเลยออกมาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งกรณีของตนเองไม่ต่างจากคุณธเนตร วงษา ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นบิดาแชร์ลูกโซ่ ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง

สำหรับความผิดปกติที่เห็นแล้วรู้สึกว่า บริษัทเริ่มทำไม่ถูกต้อง คือ เคยบอกว่าไม่ให้ตัวแทนสต็อกสินค้ามากเกินไป แต่บริษัทก็ทำแบบนั้น และช่วงโควิดระบาด ตนเองก็บอกให้หยุดจัดประชุมสัมมนา แต่บริษัทก็ยังจัด จนมีคนติดโควิดเยอะมาก ทำให้ไม่พอใจ

และจุดแตกหักคือบริษัทจะจัดคาราวานรถหรูไปเขาใหญ่เพื่ออวดร่ำอวดรวย ในขณะที่โควิดกำลังระบาดหนัก มีคนเสียชีวิจจำนวนมาก ดังนั้น เมื่อมิถุนายน 2564 จึงติดต่อไปขอยุติสัญญาทันที เพราะรับไม่ได้ และมั่นใจว่าหากเริ่มมีการอวดร่ำอวดรวย บริษัทต้องพังแน่นอน

เคนโด้ กล่าวยืนยันว่า ตนเองไม่เคยได้รับเงินถึงหลักล้านตามที่ถูกกล่าวหา ได้รับเป็นเงินเดือนธรรมดา เหมือนกับคนทำงานทั่วไป ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความถูกต้อง ซึ่งเงินเดือนผู้ประกาศที่ได้อยู่ตอนนี้เดือนละ 300,000 บาท ยังเยอะมากกว่าเงินเดือนตอนนั้น และยืนยันไม่มีสัญญาการเป็นพรีเซนเตอร์ ทุกอย่างได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว

เมื่อถามถึงเรื่องผลประโยชน์ว่าได้รับเท่ากับบอสกันต์จริงหรือไม่ เคนโด้ ตอบว่า ไม่รู้ว่าบอสกันต์ได้ผลประโยชน์เท่าไหร่ แต่ให้ไปดูงบการเงินของบริษัทได้ว่าปีหลังจากที่ตนเองออกมา กำไรพุ่งขึ้นมาก ถ้าต้องการผลประโยชน์จากบริษัทจริง จะออกมาทำไม

ขอชี้แจงกับสื่อมวลชนทั้งหมดเพียงครั้งเดียว และจะไม่พูดเรื่องนี้อีก โดยขอให้สู้กันด้วยกฎหมาย ไม่ใช่กฎหมู่ พร้อมฝากถึงทนายความคนดังกล่าวด้วย ตนเองไม่เคยเห็นทนายความคนไหนออกมาพูดกับสื่อว่า ไปพบผู้ต้องหาในเรือนจำ แล้วจะมาเด็ดหัวคนนั้นคนนี้รายวัน ซึ่งพฤติกรรมนี้เข้าข่ายความผิดอาญาฐานข่มขู่

ปกติแล้ว คนที่จะฟ้องแก้เกี้ยว เขาจะทำกันหลังบ้าน ดังนั้น ขอให้สื่อตั้งสติด้วยว่า กำลังตกเป็นเครื่องมือของเขาหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ การเปิดเผยชื่อตนเองจนถูกเอาไปแขวนให้เสียหายนั้น ทุกความเสียหาย คิดเป็นเงินทั้งหมด

ตอนนี้แต่งตั้งทนายความแล้ว ไม่ได้กังวลใจ คนเปิดก่อนไม่ได้ชนะเสมอไป นอกจากนี้ ในวันที่โดนจับ บอสพอลยังส่งไลน์มาหารัวๆ แต่ไม่ได้เปิดอ่าน เห็นรูปสุดท้ายที่ส่งมาคือรูปหัวใจ ก็คงจะจำได้ในสิ่งที่ตนเองเคยเตือนไว้ว่า ถ้าทำแบบนี้สักวันจะโดนจับ แต่ที่ตอนนี้จะมาดำเนินคดีเขา คงเพราะไม่พอใจที่ออกมาแฉบริษัท


https://youtu.be/QUGp7MY8Lt4