สังคม

จ่อเรียกสอบ จนท.ขนส่งทางบก ปมสภาพรถบัสทัศนศึกษา ติดแก๊ส 11 ถัง ผู้ประกอบการแฉมีส่วยลัดคิว

โดย paweena_c

3 ต.ค. 2567

79 views

ตร.เตรียมเรียกสอบ จนท.ขนส่งทางบก หาพยานหลักฐานเกี่ยวกับสภาพรถบัสที่เกิดเหตุ หากพบความบกพร่องที่ตัวรถ จะดำเนินคดีกับเจ้าของ


เมื่อช่วงสายวานนี้ (2 ต.ค. 2567) นายทรงวิทย์ ชินบุตร เจ้าของบริษัทรถทัวร์นำเที่ยวชินบุตรทัวร์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถบัสที่ไฟไหม้ นำกระเช้าผลไม้เข้าเยี่ยมครอบครัวนักเรียน 2 คน ที่บาดเจ็บ ซึ่งนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์


จากนั้นช่วงเย็น นายทรงวิทย์ เดินทางไปที่ สภ.คูคต จังหวัดปทุมธานี พร้อมกับทนายความและครอบครัว เพื่อให้ปากคำเรื่องรถบัสคันที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาเปิดใจกับนักข่าวว่า จะเดินทางไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิตที่จังหวัดอุทัยธานี และจะเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย ส่วนรายละเอียดเรื่องของตัวรถบัส การติดตั้งก๊าซ NGV ขอไม่ให้รายละเอียดในขณะนี้ ก่อนจะขึ้นรถยนต์ขับออกไป


ช่วงเช้าวันนี้ (3 ต.ค. 2567) พลตำรวจตรี ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่าพาดพิงไปถึงบุคคล หรือนิติบุคคลใดบ้าง ดังนั้นจึงต้องเชิญเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการอนุญาต และตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของรถบัสคันดังกล่าว หลังพบว่า มีการดัดแปลงติดตั้งระบบแก๊สเชื้อเพลิงมากถึง 11 ถัง จากที่ขออนุญาตไว้เพียง 6 ถัง หากพบการกระทำใดเข้าข่ายความผิด พนักงานสอบสวน ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป แต่ขณะนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน


ทีมข่าวได้คุยกับผู้ประกอบการรถบัสโดยสาร 2 ชั้นนำเที่ยวรายหนึ่ง ซึ่งออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กถึงประเด็นที่ถูกยกเลิกงานวิ่งทัศนศึกษาถึง 9 งาน หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมรถบัสไฟไหม้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบกับงานของเขาโดยตรง เพราะถูกยกเลิกงาน และกระทบกับรายได้ของครอบครัว ทำให้เกิดเป็นช่วงเวลาที่วิกฤตและยากลำบากอย่างมาก และไม่ใช่แค่เขา แต่ผู้ประกอบการรถบัสหลายรายก็ถูกยกเลิกงานกันเกือบ 90% ซึ่งบางรายเป็นบริษัทและมีลูกน้องต้องดูแล ก็ต้องประสบปัญหาขาดสภาพคล่องด้วย


อยากให้โดยขอให้สังคมเข้าใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ตัวคนขับที่ประมาท เพราะหากพบความผิดปกติของรถก็ควรจะต้องหยุดเพื่อตรวจสอบและความปลอดภัยของผู้โดยสาร จึงอยากขอความเห็นใจให้ทางผู้ใช้บริการโปรดเชื่อมั่นและใช้บริการรถบัสนำเที่ยว เพราะผู้ประกอบการทุกเจ้าต้องนำรถบัสเข้าตรวจเช็กสภาพรถบัสทุกๆ 6 เดือน เพื่อต่ออายุทะเบียนรถและต่อภาษี


นอกจากนี้ทีมข่าวอาชญากรรมได้ข้อมูลจากผู้ประกอบการรถบัสรายอื่นว่า รถบัสส่วนใหญ่จะหมดอายุทะเบียนพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคมและมิถุนายน ซึ่งการตรวจสภาพรถบัสหนึ่งคันใช้เวลานานมาก ใน 1 วัน จะตรวจได้แค่ 10 คันเท่านั้น ถ้าไม่ผ่านการตรวจก็วิ่งรับงานไม่ได้ เพราะจะไม่ได้ต่อทะเบียน ต่อภาษี ดังนั้นจึงทำให้เกิดส่วยลัดคิวขึ้นมา เป็นการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ขนส่ง เพื่อลัดคิวและย่นระยะเวลาการตรวจสภาพ โดยเจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่องจะเรียกรับเงินกับผู้ประกอบการ ประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อคัน แต่ถ้าหากจ่ายมากกว่า 4,000 บาทขึ้นไป ถือว่าเป็นราคา VIP จะได้สิทธิพิเศษ คือ สามารถเข้าช่วงตรวจได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิว


https://youtu.be/3xl2tjpUpFc

คุณอาจสนใจ

Related News