พี่รับไม่ได้น้องสาวมีชู้ 5 คน แฉวีรกรรมชู้ทนายสุดกร่าง อ้างสนิทผู้ใหญ่ ลั่นไม่ขอนับชู้เป็นครอบครัว

พี่สาวผู้ช่วยพยาบาล ยืนยันไม่ขอร่วมครอบครัวกับทนายความที่เป็นชู้กับน้องสาว เผยพฤติกรรมทนายความคนนี้สุดกร่าง และชอบอวดว่ารู้จักกับคนใหญ่คนโต

จากกรณีที่หนุ่มผู้ช่วยพยาบาล มาร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่าในระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันกับภรรยา 6 ปี ภรรยาคบชู้ถึง 5 คน

โดยเฉพาะคนล่าสุดก็คือชู้คนที่ 5 ซึ่งเป็นทนายความ โดยภรรยาได้เริ่มคบกับทนายความคนนี้มาประมาณ 2 ปี และที่ผ่านมาก็ถูกทนายความคนนี้ข่มขู่ โดยอ้างตัวว่ารู้จักกับผู้กว้างขวางในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และยังรู้จักกับตำรวจระดับผู้กำกับในกรุงเทพอีกหลายคน

ผู้เสียหายบอกว่า ตอนแรกทนายความคนนี้ได้ติดต่อมาหาตนบอกว่าทางภรรยาให้มาเจรจาเรื่องที่ภรรยาจะขอหย่า โดยตนจดทะเบียนสมรสกับภรรยาตอนปี 62 และแต่งงานกันในปี 63 และมีลูกสาวอายุ 3 ขวบด้วยกัน 1 คน

ซึ่งเหตุผลที่ภรรยาใช้ในการหย่า คือหาว่าตนไม่เลี้ยงดูครอบครัว และมีพฤติกรรมกระทำอนาจารลูกสาวในขณะที่ตนอาบน้ำให้ ซึ่งไม่เป็นความจริง จากนั้นตนก็เริ่มผิดสังเกต เพราะรู้มาว่าภรรยาของตนสนิทสนมกับทนายความคนนี้ มากกว่าทนายความกับลูกความ

จนสุดท้ายตนก็มารู้ความจริงว่าทนายความคนนี้เป็นชู้กับภรรยาของตน เนื่องจากภรรยาของตนลงรูปถ่ายที่ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกันที่ประเทศจีน และยังไปเที่ยวด้วยกันที่หัวหินด้วย

เรื่องที่เกิดขึ้นตนยอมรับว่าเสียใจมาก เพราะภรรยามีชู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ตนตัดใจจากภรรยาได้แล้ว ทุกวันนี้ความสัมพันธ์คือ ต่างคนทำหน้าที่พ่อและแม่เพื่อลูก

สิ่งที่ตนต้องการที่สุดตอนนี้คือ ตนต้องการฟ้องร้องเพื่อจะขอใช้สิทธิ์เอาลูกสาวมาเลี้ยงเอง เพราะตนไม่ไว้ใจชายชู้คนใหม่ของภรรยาว่าจะทำร้ายลูกสาวตนหรือไม่

เนื่องจากก่อนหน้านี้ทนายความคนนี้จับได้ว่าภรรยาของตนคบซ้อนกับหมอที่โรงพยาบาล จึงลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาของตนและยังทำร้ายลูกของตนด้วย จนทำให้ภรรยาของตนต้องบอกให้ทางพ่อเลี้ยงไปช่วยเหลือตัวออกมาจากบ้านของทนายความ

ขณะที่คุณนิว พี่สาวภรรยาของผู้เสียหาย เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 ยืนยันว่าที่ผ่านมาทางครอบครัวไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า น้องสาวจะมีพฤติกรรมแบบนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่น้องสาวนอกใจน้องเขย และมีชู้ถึง 5 คน เพราะน้องเขยไม่เคยบอกเรื่องนี้กับทางครอบครัว

ทั้งนี้ตนได้เจอทนายความคนนี้ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นตนไปเที่ยวหัวหินกับแฟน และน้องสาวได้ติดต่อมาหา บอกว่าอยากจะเจอ ตนจึงได้นัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในหัวหิน

จากนั้นน้องสาวได้แนะนำให้ตนรู้จักกับทนายความคนนี้โดยบอกว่าเป็นแฟน ซึ่งตอนนั้นเท่าที่ตนคุยกับทนายความคนนี้ ตนก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตา เพราะเขาจะพูดในทำนองว่าทำงานให้กับผู้ใหญ่ และรู้จักกับผู้ใหญ่หลายคน อีกทั้งพยายามบอกให้น้องสาวของตนเอารูปที่ทนายคนนี้ถ่ายกับผู้ใหญ่ให้ตนดูด้วย

ต่อมาตนรู้ว่าน้องสาวของตนถูกทนายความคนนี้ทำร้ายร่างกาย และน้องสาวตนได้ติดต่อให้พ่อเลี้ยงเข้าไปช่วยเอาตัวน้องสาวออกมาจากบ้านของทนายความ ซึ่งต่อมาทนายความคนนี้ก็มาหาน้องสาวของตนที่บ้านเพื่อขอคืนดีจนมีปากเสียงกับพ่อเลี้ยงของตน

ที่สำคัญหลานสาวของตนก็บอกว่าถูกทนายคนนี้ตี ซึ่งทำให้ตนรับไม่ได้เพราะเขามีสิทธิ์อะไรมาตีหรือทำร้ายหลานของตน เพราะแม้แต่น้องเขยของตน ซึ่งเป็นพ่อของหลานยังไม่เคยตีลูกเขาเลย

ทั้งนี้ตนและครอบครัวยืนยันว่าไม่ขอเอาทนายความคนนี้มาเป็นคนในครอบครัวอย่างเด็ดขาด แม้ว่าตอนนี้น้องสาวของตนกำลังตั้งครรภ์ลูกของทนายความคนนี้ได้ 2 เดือน ตนเข้าใจว่าเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ตนและครอบครัวยืนยันว่าจะไม่ขอเลี้ยงเด็กคนนี้เด็ดขาด

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/pN05U_QbHlc