อาชญากรรม

ตร.เร่งล่า มือสาดน้ำกรดผู้ช่วยพยาบาล ขณะที่สามี เผย ไม่เคยมีปัญหากับใคร

โดย attayuth_b

9 ก.พ. 2567

69 views

ตำรวจเมืองอุดรฯ เร่งล่าคนร้าย สาดน้ำกรดผู้ช่วยพยาบาลแม่ลูกอ่อน จนทำให้ตามองไม่ชัดเหมือนเดิม ด้านชาวบ้านที่ช่วย คาดมีมือที่ 3

จากกรณีมีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ น.ส.วิภาวดี หรือแป๋ว อายุ 43 ปี ผู้ช่วยพยาบาลห้องกายภาพบำบัด รพ.พิบูลย์รักษ์ ระหว่างออกเวรขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แล้วสาดน้ำกรดใส่เข้าเต็มใบหน้า ตามร่างกาย และรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาเสียหลักลงข้างทาง ทำให้แขนและขาหัก เหตุเกิดถนนสาย อ.พิบูลย์รักษ์-บ้านดงยาง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.50 น.ของวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา

โชคดีขณะเกิดเหตุมีพลเมืองดีมาเห็นและให้การช่วยเหลือ แจ้งเหตุมาทาง รพ. แพทย์และพยาบาลรักษาอาการในห้องฉุกเฉิน พบน้ำกรด ได้รับบาดเจ็บเป็นรอยไหม้ที่ใบหน้า ตามร่างกาย แขนและขาทั้ง 2 ข้าง แต่ยังมีสติ ให้การได้เล็กน้อย หลังปฐมพยาบาลในเบื้องต้นเสร็จ ได้นำตัวส่งรักษาต่อที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เนื่องจากน้ำกรดทำลายเนื้อเยื่อดวงตาทั้ง 2 ข้าง อาจถึงขั้นมองเห็นไม่ชัด และเกรงว่าแผลอาจจะติดเชื้อ ต่อมาตำรวจ สภ.พิบูลย์รักษ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุมุ่งประเด็นชิงทรัพย์ เนื่องจากคนเจ็บไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร

ล่าสุดผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าที่เกิดเหตุเป็นถนนสายหลักเข้าตัวอำเภอพิบูลย์รักษ์ และห่างจาก รพ.ไม่ถึง 1 กม. และมีภาพวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุคนร้ายขับรถจักรยานยนต์หนีไปตามถนนอย่างใจเย็น ดูท่าไม่รีบร้อน

ขณะที่ป้าสุขและลุงกำพล 2 สามีภรรยาที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุลุงกำพลกำลังให้อาหารสุนัขอยู่ข้างบ้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเหมือนรถชนกัน จึงวิ่งออกมาดูพร้อมกับสวมโคมไฟที่ศีรษะ ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ อยู่ร่องถนนหน้าบ้านที่มืดมาก

ได้ยินเสียงคล้ายรถเสียหลักล้มลงข้างทาง เห็นคนเจ็บ ก็มีผู้ชายใส่เสื้อแขนยาวสีดำมีฮุทคลุมศีรษะขับรถจักรยานยนต์น่าจะเป็นฮอนด้าสกุ๊ปปี้ ตอนแรกก็คิดว่าคนผ่านไปมาเห็นเหตุการณ์ชะลอมาดู ผมเดินมาดูถือคราดมาด้วย ตอนแรกไม่ได้สนใจผุ้ชายคนนั้น ผมส่องไฟใส่ผู้หญิงที่ประสบอุบัติเหตุ พอน้องผู้หญิงพูด ช่วยหนูด้วย หนูไม่ได้ประสบอุบัติเหตุมีคนเอาน้ำอะไรสาดใส่ตัวหนู เท่านั้นแหละ ชายคนดังกล่าวก็ขับรถออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างใจเย็นหนีไปทางบ้านดงยาง คนร้าย รูปร่างไม่สูง แต่ท้วมๆ เขาขับรถออกไปอย่างใจเย็นเลย เหมือนไม่ได้รีบร้อน และคิดว่าเหมือนเขาจะมาซ้ำอีกเสียด้วย แต่คนร้ายอาจจะตกใจที่พอน้องแป๋วร้องและผมถือคราดมาเขาเลยหนี ถ้าผมรู้ผมจะเอาคราดเกาะรถมันเอาไว้ด้วย ผมสงสารน้องแป๋ว เพราะตอนที่ผมเข้าไปช่วย เห็นน้องเขารำพึงรำพัน บอกว่า พ่อๆ ช่วยหนูด้วย หนูไม่เคยมีเรื่องกับใคร ทำไมทำกับหนูแบบนี้ หนูมีลูกน้อยเพิ่งคลอดได้ 3 เดือนและเพิ่งมาทำงานที่รพ. เห็นน้องแป๋วพูดแบบนั้นผมก็สงสาร เท่าที่รู้เขาไม่มีเรื่องบาดหมางกับใคร อยากให้ตร.ตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

ขณะที่บ้านของน้องแป๋วที่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 15 บ้านพรพิบูลย์ดงยาง ก็มีชาวบ้านและญาติๆ มาคอยติดตามข่าวคราว และมาให้กำลังใจแม่เตียง พาที อายุ 78 ปีซึ่งเป็นแม่ของน.ส.วิภาวดี โดยตอนนี้แม่เตียงต้องเลี้ยงหลานวัย 3 เดือนคือน้องอลิน แทนแม่ที่ถูกคนร้ายสาดน้ำกรด แม่เตียงได้ไกวแปลให้หลานสาวนอน ก็บอกว่า หลับนะลูกเอ๊ย แม่ไม่อยู่ตอนนี้ โดยแม่เตียงบอกว่าตั้งแต่เกิดเรื่อง มีแต่ร้องไห้เห็นภาพลูกแล้วสงสาร อยากให้นักข่าวทำข่าวให้ตร.ตามจับคนร้ายให้ที จับคนร้ายให้ได้เร็วๆ หน่อย

แม่เตียง บอกว่า ตนเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรที่ลูกสาวถูกสาดน้ำกรด เขาเพิ่งคลอดลูกได้เพียง 3 เดือน แต่งงานกับทหารก็อยู่กันมาหลายปีไม่เห็นมีปัญหาอะไร ก่อนเกิดเหตุลูกสาวไปทำงานที่รพ.พิบูลย์รักษ์ วันเกิดเหตุก่อนสองทุ่มจะกลับบ้าน ก็ได้ยินคนโทรมาบอกว่า แป๋วประสบอุบัติเหตุและถูกสาดน้ำกรด แม่ก็ตกใจ ไม่คิดว่าลูกสาวจะมีคนใจร้ายทำแบบนี้ และที่แปลกใจอยุ่คำหนึ่งก่อนที่ลูกสาวจะไปทำงานวันนั้น ลูกสาวได้ไปบอกให้หลานสะใภ้ให้มาดูน้องอลิน เพราะเป็นไข้ตัวร้อน แม่ก็แปลกใจทำไมลูกสาวไปบอกคนอื่น ทำไมไม่บอกแม่ เหมือนเขาจะสั่งอะไรสักอย่าง ถือว่าเป็นลางสังหรณ์บอกเหตุก็เป็นได้

ขณะที่นายพิชิต พาที พี่ชายน้องแป๋วและ จ.ส.อ.จำเนียร พันสาย สามีน.ส.วิภาวดี ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังไม่รู้สาเหตุที่แป๋วถูกทำร้ายโดยการสาดน้ำกรดใส่ เพราะปกติเป็นคนที่รักใคร่ของญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน ส่วนปมเหตุจะเป็นอย่างไรคงต้องให้ตร.สืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยขณะนี้น้องแป๋วนอนรักษาตัวที่รพ.ศูนย์อุดรธานี มีสภาพถูกน้ำกรดสาดทั้งตัว โดยเฉพาะที่ใบหน้าถูกตาทั้งสองข้าง แขนและขาหักอาการหนักเอาการน่าดู

ส่วนชาวบ้านในอำเภอพิบูลย์รักษ์ต่างพากันจับกลุ่มคุยเรื่องนี้ อยากให้ตร.ตามจับคนร้ายให้ได้ มันช่างโหดร้ายทำกับผู้หญิง และตั้งข้อสังเกตไม่น่าจะใช้เรื่องชิงทรัพย์ ต้องมีเรื่องโกรธแค้นกับมาก่อน และชาวบ้านก็พูดไปต่างๆ นานา หรือจะมาจากเรื่องชู้สาว คนที่กล้าทำแบบนี้ได้มีแต่หญิงและสาวประเภท 2 เสียส่วนใหญ่ และตัวสามีและน้องแป๋วน่าจะรู้ดีว่าสาเหตุเกิดจากอะไร

ขณะเดียวกันมีโพสต์ของน้องแป๋วในเฟสบุ๊กเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว มีใจความว่า ตลอดเวลา3เดือนที่เราอยู่ด้วยกันแบบ full time แม่ยอมรับว่า แม่กลัว กังวล คิดมาก กดดัน ทุกสิ่งอย่างที่เข้ามา มีน้ำตาแต่ต้องอดทน มองทุกอย่างให้เป็นบวก ต่อสู้กับตัวเอง แต่ทุกอย่างที่ผ่านมานั้นมันสู้ไม่ได้กับความสุขที่หนูมีให้แม่นะ ขอบคุณที่หนูทำให้แม่ไม่เหนื่อย ขอบคุณที่หนูเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ไม่งอแง ช่วยแม่ได้เยอะ พรุ่งนี้แม่ต้องทำงานแล้วยอมรับว่าใจหายนะ (ทำไมต้องมีอารมณ์นี้นะ ทั้งที่ตอนเย็นก็ต้องเจอกันอยู่ดี)ขอให้หนูสดใส ร่าเริงเลี้ยงง่าย ไม่เจ็บไม่ไข้แบบนี้ตลอดไปนะลูก เออร้องบ้างก็ได้แม่ไม่ว่าหรอกน้ำตาคลอเบ้าแต่ทำไมยิ้มได้ล่ะ" หรือนี่จะเป็นความระบายในใจของน้องแป๋วจนมาเกิดเหตุร้ายกับน้องในครั้งนี้ ก็ยังเป็นปริศนาอยู่



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/7JQlh4XMeds

คุณอาจสนใจ