สังคม
ตร.บุกค้นบ้าน ‘เอส-อาร์ท’ มือผลิตเหล้ามรณะ ญาติเหยื่อคาใจ โดนตั้งข้อหาอ่อนเกินไป
โดย paweena_c
29 ส.ค. 2567
59 views
ตำรวจ พฐ. ลงพื้นที่บ้านพี่น้อง ‘เอส-อาร์ท’ หาหลักฐานเพิ่ม ปมผลิตเหล้าขาวส่งให้เจ๊ปูทำยาดอง เร่งขยายผลจุดสั่งซื้อสารเคมี ญาติเหยื่อคาใจ ถูกตั้งข้อหาอ่อนเกินไป
ช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สน.มีนบุรี ตำรวจ สน.บางชัน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำหมายค้นเข้าบ้านของนายเอสและนายอาร์ท 2 พี่น้อง ที่ซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
นายเอสและนายอาร์ทถูกตำรวจจับกุมก่อนหน้านี้ หลังเป็นคนนำเมทิลแอกอฮอล์ไปผสมกับน้ำ เพื่อทำเป็นเหล้าขาว แล้วส่งขายให้กับเจ๊ปู เจ้าของร้านยาดอง จนเกิดเป็นคลัสเตอร์ยาดองมรณะ
สำหรับประเด็นในการตรวจค้นวันนี้ (29 ส.ค. 2567) มีรายงานว่าตำรวจต้องการมาเก็บพยานหลักฐานเพิ่ม หลังจากที่ก่อนหน้านี้กรมสรรพสามิตมาตรวจสอบและเก็บหลักฐานเกี่ยวกับการผลิตเหล้าขาวไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยผลการตรวจสอบในครั้งนั้นพบว่ามีสารเมทานอลปนเปื้อนอยู่ในแกลลอนที่ตรวจยึดไป
ขณะที่การสืบสวนของตำรวจพบว่าช่วงวันที่ 18-19 สิงหาคม 2567 ผู้ต้องหาได้นำสารเคมีจากที่อื่นมาผลิตเหล้าขาวส่งให้เจ๊ปู เนื่องจากบริษัทเจ้าเดิมไม่ขายเอทิลแอลกอฮอล์ให้ เพราะผู้ต้องหายังค้างค่าสินค้าของเดิมอยู่
วันนี้ตำรวจจึงขอหมายค้นเข้าตรวจค้น เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการขยายผลไปยังจุดที่ผู้ต้องหาสั่งซื้อสารเคมีมาผลิตเหล้าขาวทดแทนของเดิม โดยภายในบ้าน พบแม่ของผู้ต้องหาอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นขอเข้าตรวจค้น แต่แม่ของผู้ต้องหากลับร้องไห้โวยวาย บอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครอยู่แล้ว ตอนนี้ลูกชาย 2 คนถูกคุมขัง ส่วนภรรยาก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว และบอกว่าตอนนี้เธอเครียดจนอยากจะตายแล้ว
ขณะที่ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 มีโอกาสพูดคุยกับคุณหมวย ญาติของนายกิตติศักดิ์ ไพใหล อายุ 29 ปี เหยื่อยาดองมรณะ ซึ่งเสียชีวิตเป็นรายที่ 4 เมื่อเช้ามืดของวันที่ 27 ส.ค. 2567
คุณหมวยเปิดใจทั้งน้ำตาว่า นายกิตติศักดิ์หรือน้องโคล่า ทำงานเป็นช่างรถยนต์ที่อู่บริเวณซอยสามวา 11/1 ซึ่งโดยปกติแล้วน้องมักจะชอบดื่มยาดองพอนิดๆ หน่อยๆ เพื่อให้หายเหนื่อยแล้วพอกินข้าวได้ เธอก็เข้าใจเพราะน้องทำงานหนัก
จนเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 สิงหาคม ผู้ตายดื่มยาดองที่ซุ้มที่อยู่ภายในซอยสามวา 11/1 กับเพื่อนอีก 2 คน ต่อมาวันรุ่งขึ้น พบว่าเพื่อนที่ดื่มยาดองด้วยกันเริ่มมีอาการหายใจหอบและตาพร่ามัว จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่รักษาได้ทัน ส่วนผู้ตายก็เริ่มมีอาการตาพร่ามัวในช่วงบ่าย จึงบอกกับเพื่อนว่าจะขอไปนอนพัก จากนั้นก็มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจไม่สะดวก และอาเจียน
จนช่วงดึกเพื่อนผู้ตายและเถ้าแก่ เริ่มผิดสังเกตเพราะผู้ตายไม่ออกมาจากห้อง จึงเข้าไปในห้องพบว่าผู้ตายมีอาการชักเกร็ง มือหงิกงอ น้ำลายฟูมปาก จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานีในช่วงเที่ยงคืน (เข้าสู่เช้าวันที่ 22 ส.ค. 2567) โดยตลอดเวลา 5 วันที่อยู่ที่โรงพยาบาล ผู้ตายอาการไม่ดีขึ้น พูดไม่ได้แต่ยังมีสติตอบสนองกับคำพูดของญาติที่มาเยี่ยม
จนสุดท้ายผู้ตายพิษเริ่มกระจายทั่วร่างกาย ไตวาย และเสียชีวิต เธอได้พูดอำลากับผู้ตายเป็นครั้งสุดท้ายว่า จะดูแลพี่สาวและหลานให้ ซึ่งผลการผ่าชันสูตรพลิกศพจากนิติเวชระบุว่าผู้ตาย มีภาวะเลือดคั่งในก้านสมอง จนทำให้ระบบหายใจล้มเหลว
หลังเกิดเหตุ มีเพียงแต่เจ้าของซุ้มยาดองในซอยสามวา 11/1 และเถ้าแก่เจ้าของอู่รถที่มาแสดงความเสียใจและให้เงินช่วยเหลือ ทั้งนี้เธออยากฝากถึงเจ๊ปู ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบว่ากลัวอะไร รวมถึงตั้งคำถามถึง 2 พี่น้องเอสกับอาร์ท ที่ถูกตั้งข้อหาอ่อนเกินไป
ทั้งนี้ขอฝากขอบคุณช่อง 3 รายการโหนกระแส และหนุ่ม กรรชัย ที่ได้เสนอเรื่องยาดองมรณะเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้ครอบครัวของเหยื่อทุกคนมีความหวังที่จะได้รับความเป็นธรรม
แท็กที่เกี่ยวข้อง ค้นบ้าน ,เอสอาร์ท ,มือผลิตเหล้ามรณะ